CWT เฮ! ตุน PPA โครงการโรงไฟฟ้าขยะ 6 MW สัญญายาว 20 ปี คาด COD ต้นปี 68 หนุนแผน Spin Off ปีนี้
บมจ.ชัยวัฒนา แทนเนอรี่ กรุ๊ป หรือ CWT ตุน PPA เพิ่ม! เข้าลงนามสัญญาซื้อขายไฟฟ้าจากเชื้อเพลิงขยะมูลฝอยของเทศบาลตำบลกมลาไสย จังหวัดกาฬสินธุ์ จากการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค (กฟภ.) สัญญา 20 ปี กำลังการผลิต 6 เมกะวัตต์ คาด COD ช่วงต้นปี 2568 ฟากผู้บริหาร “วีระพล ไชยธีรัตต์” ระบุ ตอกย้ำศักยภาพกลุ่มธุรกิจพลังงานแข็งแกร่ง พร้อมเดินหน้าตามแผน Spin Off เตรียมยื่น Filing ต่อสำนักงาน ก.ล.ต. ภายในครึ่งปีหลัง เพื่อสร้างการเติบโตอย่างมั่นคง
นายวีระพล ไชยธีรัตต์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ชัยวัฒนา แทนเนอรี่ กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) (CWT) เปิดเผยว่า หลังจากที่ บริษัท กาฬสินธุ์รุ่งเรือง ไบโอเพาเวอร์ 2012 จำกัด หรือ KRR ซึ่งกลุ่มบริษัทฯ ถือหุ้นในสัดส่วน 75% ได้ผ่านการคัดเลือกในการยื่นข้อเสนอจาก ประกาศผลการยื่นข้อเสนอการดำเนินการคัดเลือกเอกชนดำเนินการก่อสร้างระบบการจัดการขยะเพื่อผลิตเป็นเชื้อเพลิง (RDF) และผลิตพลังงานไฟฟ้าจากเชื้อเพลิงขยะมูลฝอยของเทศบาลตำบลกมลาไสย จังหวัดกาฬสินธุ์ ล่าสุดบริษัทฯ ได้ลงนามในสัญญาขายไฟฟ้า หรือ Power Purchase Agreement (PPA) กับทางการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค (กฟภ.) เป็นที่เรียบร้อยแล้ว โดยโครงการดังกล่าวมีกำลังการผลิต 6 เมกะวัตต์ ปริมาณเสนอขายไฟฟ้า 5 เมกะวัตต์ และมีระยะเวลาสนับสนุนจาก PEA 20 ปี ในอัตรารับซื้อไฟฟ้า 5.08 บาท/หน่วย และ premium 0.70 บาท/หน่วย ใน 8 ปี พร้อมคาดว่าจะก่อสร้างแล้วเสร็จและเริ่มจำหน่ายไฟฟ้าเชิงพาณิชย์ (COD) ประมาณต้นปี 2568 เป็นต้นไป
“นับเป็นการตอกย้ำศักยภาพธุรกิจ และเสริมความแข็งแกร่งให้กับธุรกิจกลุ่มพลังงานของกลุ่มบริษัทฯ ที่มุ่งมั่นเพิ่มสัญญาซื้อขายไฟฟ้าในมือให้มากกว่า 50 เมกะวัตต์ ภายในปี 2566 เพื่อเตรียมความพร้อมสำหรับการ Spin Off ธุรกิจพลังงานเข้าระดมทุนและจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯ และคาดว่าจะสามารถยื่นแบบคำขออนุญาตเสนอขายหลักทรัพย์และแบบแสดงรายการข้อมูลเสนอขายหลักทรัพย์ (Filing) ต่อสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ ได้ภายในช่วงครึ่งหลังของปีนี้ เพื่อมุ่งสร้างการเติบโตอย่างมั่นคงและประโยชน์แก่ผู้ถือหุ้นและผู้มีส่วนเกี่ยวข้องทุกฝ่าย” นายวีระพล กล่าว
พร้อมกันนี้ ที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทฯ มีมติสำคัญแจ้งการเพิ่มทุนของ บริษัท กาฬสินธุ์รุ่งเรือง ไบโอ เพาเวอร์ 2012 จำกัด (ประกอบกิจการผลิตและจำหน่ายกระแสไฟฟ้า) โดยอนุมัติกรอบเพิ่มทุนจดทะเบียนอีก 340.00 ล้านบาท จากเดิม 40.00 ล้านบาท เป็น 380.00 ล้านบาท แบ่งเป็นหุ้นสามัญ จำนวน 3,800,000 หุ้น มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 100 บาท โดยแหล่งเงินทุนที่ใช้มาจากเงินทุนหมุนเวียนของบริษัทฯ ทั้งนี้ มีวัตถุประสงค์การเพิ่มทุนเพื่อรักษาสัดส่วนการถือหุ้นเดิม และเพื่อให้ “KRR” มีความพร้อมในการเตรียมการเพื่อประกอบกิจการผลิตและจำหน่ายกระแสไฟฟ้า