ภายนอกดี ที่นี่ก็ว้าวุ่นเลย / 1,540-1,555
มุมมองตลาดหุ้นวันนี้
- SET ฟื้นตัวต่อ: ปัจจัยหลักมาจาก Sentiment บวกภายนอก แม้วานนี้ ECB เดินหน้าปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอีก 0.25% ตามคาด ส่งผลให้ deposit rate ไปแตะระดับ 4% โดยยังชี้อัตราเงินเฟ้อยังอยู่ในระดับสูงกว่าเป้าที่ควรจะเป็น (2%) ท่ามกลางความกังวลของนักลงทุนบางส่วนเ นื่องจากภาพการฟื้นตัวของเศรษฐกิจ Eurozone ยังไม่ดีนัก แต่ประเด็นบวกมาจากตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐออกมาดีกว่าคาดทั้ง Core Retail Sale PPI และ ตัวเลขผู้ขอสวัสดิการครั้งแรก สร้างแรงหนุนต่อสินทรัพย์เสี่ยง และราคาน้ำมันดิบปรับตัวขึ้น โดยวานนี้ ราคาน้ำมันดิบ WTI ปรับตัวขึ้นยืนเหนือ 90 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล คาดหนุนกลุ่มพลังงานปรับตัวขึ้น ขณะที่ทุกสายตาจับจ้องไปที่การประชุมของเฟดในวันที่ 19-20 ก.ย.ว่าจะมีการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเพิ่มเติมตาม ECB หรือไม่ นอกจากนี้ ราคาน้ำมันจะได้ประเด็นบวกเพิ่มเติมมาจากจีนล่าสุดประกาศลด RRR ลงอีก 0.25% มาอยู่ที่ 7.4% สะท้อนความต้องการในการเพิ่มปริมาณเงินหมุนเวียนในระบบเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ สร้างความหวังต่อการฟื้นตัวของเศรษฐกิจจีนอีกครั้ง ซึ่งมองจะเป็นแรงหนุนหุ้นในกลุ่มอิเล็กทรอนิกส์ อาหาร และเกษตร และหุ้นที่เกี่ยวข้องกับจีนให้มีลุ้นปรับตัวขึ้นในวันนี้ นอกจากนี้ FTSE จะมีการประกาศการปรับดัชนีใหม่ คาดจะได้ประโยชน์จากการนำเข้าคำนวณ Large Cap ได้แก่ TRUE ทำให้ภาพรวมปัจจัยภายในที่เคยมีแรงหนุนจากนโยบายของรัฐบาลชุดใหม่ และปัจจัยภายนอกที่ได้กล่าวมาข้างต้น จะร่วมกันช่วยหนุนให้ตลาดปรับตัวขึ้นได้ต่อในวันนี้ ท่ามกลางการกลับเข้ามาซื้อสุทธิของนักลงทุนต่างชาติวานนี้กว่า 1,246 ล้านบาท เพิ่มความหวังต่อการชะลอการไหลออกของ Fund Flow
- กลยุทธ์การลงทุน: 1) Spending+ท่องเที่ยว : CPN, CRC, ERW, TRUE, ADVANC, CBG, RS 2) เงินบาทอ่อนค่า: CPF, ITC 3) ดัชนีความเชื่อมั่นเศรษฐกิจฟื้นตัว: KBANK, BBL 4) Selective SAWAD, KTC, HANA, STA 5) ราคาน้ำมันดิบขึ้น: PTTEP, TOP, SPRC
ปัจจัยบวก
- รมว.คมนาคม เตรียมเรียก BTS-BEM-กลุ่มซีพี เจรจารถไฟฟ้า 20 บาทตลอดสาย คาดว่าจะเริ่ม ม.ค.67 หนุนการจับจ่ายใช้สอย
- นายกเข้า ก.คลัง ครั้งแรกประกาศกระตุ้นเศรษฐกิจครั้งใหญ่เริ่มภายใน ก.พ.67
- ดัชนีเชื่อมั่นหอการค้าส.ค.เพิ่มขึ้นทุกภูมิภาค หลังการเมืองชัดเจน- ท่องเที่ยวฟื้น คาดวีซ่าฟรีกระตุ้นจีนเที่ยวไทยเพิ่ม 1 ล้านคน ด้น GDP อีก 0.3-0.5%
- MINT เผยข้อมูลยอดจองห้องพักล่วงหน้า ยืนยันแนวโน้มท่องเที่ยวยุโรป-ไทยสดใสรับอานิสงส์เต็มที่
- เจพีมอร์แกน” คาดเฟดไม่ขึ้นดอกเบี้ยอีกในวัฏจักรเศรษฐกิจรอบนี้ หลังเงินเฟ้อขาลง
- รมว.พาณิชย์สั่งลดราคาสินค้าภายใน 15 วัน หลังลดค่าน้ำมัน-ค่าไฟ
ปัจจัยลบ
- มูดี้ส์หั่นแนวโน้มเครดิตภาคอสังหาฯจีนจากมีเสถียรภาพสู่เชิงลบ ชี้มาตรการรัฐช่วยหนุนแค่ระยะสั้น
- จีนเล็งตอบโต้อียูกรณีสั่งสอบสวนรถ EV อ้างได้เงินหนุนจากรัฐบาล
PICKS OF THE DAY
KBANK BUY
- เป้าหมาย 135.00 / 138.00 แนวรับ 128.00 / 130.00
- ได้ประโยชน์จากดอกเบี้ยขาขึ้น และนโยบายรัฐ: คาดว่าผลตอบ แทนสินเชื่อจะเพิ่มขึ้นได้ต่อตามอัตราดอกเบี้ยขาขึ้น และนโยบายจากรัฐบาลที่จะมีการส่งเสริม SME และภาคเกษตร ซึ่ง KBANK เป็นธนาคารที่เป็นผู้นำทางด้านสินเชื่อ SME ประกอบกับมีสินเชื่อภาคเกษตรอยู่มาก
- KBANK มักจะเป็นเป้าหมายของนักลงทุนต่างชาติ: KBANK มักจะเป็นเป้าหมายของนักลงทุนต่างชาติ เมื่อการเมืองมีความชัดเจน ได้รัฐบาลแล้ว คาดว่านักลงทุนต่างชาติจะกลับเข้ามาลงทุน และคาดว่าจะทำให้ KBANK เป็นธนาคารแรก ๆ ที่นักลงทุนต่างชาติเข้าลงทุน
RS BUY
- เป้าหมาย 15.30 / 15.80 แนวรับ 14.40 / 14.70
- Surprise จ่ายปันผลสูงและใน RS-W5: ประกาศจ่ายเงินปันผลจากกำไรสะสมที่ 0.60 บาท/หุ้น ซึ่งสูงกว่าในอดีตมา XD 4 ต.ค. ให้ Div.Yield ที่ 4.03% และให้ RS-W5 ในสัดส่วน 10 หุ้นเดิม ต่อ 1 RS-W5 ฟรี XW 6 พ.ย. คาดจะมีการเข้าซื้อหุ้นเพื่อรับปันผลและวอแรนท์
- 2H66 กำไรดีกว่า 1H66: คาด 2H66 กำไรจะอีกกว่า 1H66 จากธุรกิจส่วนใหญ่ฟื้นตัว และการรับรู้รายได้จากธุรกิจใหม่เกี่ยวกับสัตว์เลี้ยง อีกทั้งมีการจัดคอนเสิร์ตมากขึ้นเป็น 7 งาน (รวมที่ทำกับ GRAMMY) เทียบ 1H66 ที่มีเพียง 2 งาน และจะมีกำไรพิเศษจากการขายหุ้น RS Music ให้ UMG ใน 3Q66 ที่ 1,280 ลบ.