รอติดตามผลประชุมธนาคารกลางสหรัฐฯ
Market Update
ตลาดหุ้น Dow Jones คืนวันศุกร์ปิดลบ 0.8% ถูกกดดันจากหุ้นกลุ่มชิปจากความวิตก Demand ที่อ่อนแอลง ด้านราคาน้ำมันดิบ BRT ปิดบวก 0.3% นักลงทุนยังคงให้นํ้าหนักกับอุปทานที่ตึงตัว
Market Outlook
สัปดาห์นี้ปัจจัยสำคัญ ได้แก่ ผลประชุม FED ที่จะทราบผลอย่างเป็นทางการในช่วงเช้าวันพฤหัสบดีตามเวลาประเทศไทย อิงข้อมูลจาก CME FED Watch ให้น้ำหนัก 98% ที่ FED จะคงดอกเบี้ยระดับเดิม อย่างไรก็ตาม การประชุมครั้งนี้เป็นการประชุมประจำไตรมาสและจะมีการเปิดเผยทั้งคาดการณ์ตัวเลขเศรษฐกิจต่างๆ ( GDP, PCE) รวมถึงเส้นทางดอกเบี้ยในช่วงถัดไป (Dot Plot) อิง Dot Plot งวดเดือน มิ.ย. พบว่าปลายปี 2023 ดอกเบี้ย FED จะอยู่ที่ 5.5 – 5.75% และปี 2024 จะอยู่ที่ 4.25 – 4.5% อย่างไรก็ตาม ปัจจุบันมีสถานการณ์ที่เปลี่ยนไปค่อนข้างมากเมื่อเทียบกับเดือน มิ.ย. ได้แก่ราคาน้ำมันดิบ BRT ที่ปรับขึ้นมาทดสอบ 93.3 $ / BBL ทำสถิติสูงสุดในรอบ 10 เดือน และหากเทียบกับเดือน มิ.ย. ปรับเพิ่มขึ้นมา 20% เป็นผลให้เงินเฟ้อสหรัฐฯ ขยับขึ้น 3 เดือนติดต่อและยิ่งห่างไกลจากเป้าหมายของ FED ที่ระดับ 2% (เงินเฟ้อสหรัฐฯล่าสุด 3.6%) ดังนั้นมีความเป็นไปได้ที่ถ้อยแถลงจากประธาน FED มีโอกาสสูงจะส่งสัญญาณเข้มงวดพร้อมกับโอกาสปรับขึ้น Dot Plot ให้สูงขึ้น ซึ่งจะเป็นแรงกดดันต่อตลาดหุ้นทั่วโลกรวมถึงไทย สำหรับตัวเลขเศรษฐกิจอื่นๆ ได้แก่ (1) ใบขออนุญาตก่อสร้างและยอดสร้างบ้านใหม่ของสหรัฐฯ ในวันอังคาร Bloomberg Consensus ประเมินไว้ที่ 1.45 ล้านใบอนุญาตและ 1.44 ล้านหลังคาเรือน ตามลำดับ (2) ยอดขายบ้านมือสองของสหรัฐฯ Bloomberg ประเมินไว้ที่ 4.1 ล้านหลังคาเรือน (3) ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อเบื้องต้นทั้งสหรัฐฯและยุโรปในวันศุกร์
ส่วนปัจจัยในประเทศสัปดาห์นี้ไม่มีอะไรที่มีนัยยะสำคัญรอติดตามเพียงประชุม ครม. สัปดาห์นี้ประเมิน SET INDEX เคลื่อนไหวในกรอบ 1510 – 1555 เชิงกลยุทธ์ยังไม่เพิ่มพอร์ตการลงทุนแม้ดัชนีจะเริ่มปรับลงมาบ้างก็ตาม เนื่องจากช่วงถัดไปยังเต็มไปด้วยหลายความเสี่ยง ส่วนหุ้นแนะนำระยะสั้นเลือกกลุ่มน้ำมัน ( PTTEP) โรงกลั่น (BCP SPRC TOP) ค้าปลีก (BJC CRC CPALL HMPRO) ท่องเที่ยว (AOT CENTEL ERW MINT SPA) ธนาคารพาณิชย์ (BBL KBANK KTB SCB) เดินเรือ (PSL) ขนส่ง (BEM) ศูนย์การค้า (CPN)
หุ้นแนะนำซื้อวันนี้
PTTEP (ซื้อ / ราคาเป้าหมาย 180.00 บาท) ภาพรวมไตรมาส 3/23 ยังเป็นบวกจากแนวโน้มปริมาณขายที่ปรับดีขึ้น โดยผู้บริหารให้แนวทางไว้ที่ 470kBOED (+6% QoQ) ขณะที่ราคาขายก็มีโอกาสปรับสูงขึ้นตามราคาน้ำมันดิบดูไบที่ขึ้นไปแตะ US$84/ บาร์เรลในเดือน ก.ค. หรือขึ้นไปกว่า US$6.0/บาร์เรล จากค่าเฉลี่ยในไตรมาส 2/23 ราคาน้ำมันที่ปรับขึ้นช่วงล่าสุดเป็นผลจากการที่ OPEC+ ขยายกรอบการลดปริมาณผลิตไปถึงเดือน ส.ค.
PSL (ซื้อ / ราคาเป้าหมาย 12.40 บาท) คาดว่าค่าระวางเรือเทกองจะฟื้นตัวแข็งแกร่งในปลายไตรมาส 3/23 ถึงสิ้นปี หนุนจากปัจจัยตามฤดูกาล เช่น อุปสงค์ต่อถ่านหินที่สูงขึ้นในช่วงหน้าร้อน และการเก็บเกี่ยวธัญพืชทางซีกโลกเหนือ ส่วนในระยะยาว อุปสงค์ อุปทานที่มีสมดุลดีขึ้นจะพยุงให้ค่าระวางยังอยู่ในระดับที่ผู้ประกอบการส่วนใหญ่ยังทำกำไรได้