KS Daily View 18.09.2023 >>> คาดดัชนีแกว่งตัวลง จับตาประชุม FOMC สัปดาห์นี้ ประเมินกรอบซื้อขาย 1,530/1,545-50 จุด หุ้นแนะนำ TRUE, PTTGC
สรุปภาวะตลาดเมื่อวันวานนี้
ต่างประเทศ: ดัชนี DJIA -0.83%, S&P 500 -1.22%, NASDAQ -1.56%โดย Sector ที่ outperform ใน S&P500 เช่น Utilities (-0.49%), Real estate (-0.51%), Industrials (-0.53%) ขณะที่ Information technology (-1.95%), Consumer discretionary (-1.88%), Energy (-1.32%)
ในประเทศ: SET Index -3.11 pts. หรือ -0.20% ปิดที่ 1,542.03 จุด ตัวขับเคลื่อนหลักสำคัญคือ PTT (+0.72%), SCGP (+2.63%), TRUE (+1.38%), ADVANC (+0.45%)ขณะที่ CPAXT (-2.82%), CRC (-4.27%), BDMS (-1.83%), KTB (-1.55%)
แนวโน้มตลาดหุ้นในประเทศ: มองดัชนีตลาดแกว่งตัวลง มองประเด็นข่าวช่วงปลายสัปดาห์ที่แล้วจนถึงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมาส่วนใหญ่เป็นลบอ่อนๆ แต่ปัจจัยบวกชัดระยะสั้นยังไม่มี อีกทั้งสัปดาห์นี้มีประชุม FOMC ก็เป็นประเด็นต้องรอพิจารณา นักลงทุนบางส่วนอาจเทขายเพื่อลดความเสี่ยงก่อนการประชุม มองกรอบซื้อขายวันนี้ที่ 1,530/1,545-50 จุด
ประเด็นสำคัญที่เป็นกระแสในช่วงนี้และมีผลต่อการลงทุน:
1.) กรมสรรพากรออกประกาศเตรียมเก็บภาษีเงินได้จากการลงทุนในต่างประเทศ แม้ว่าผู้ลงทุนจะนำเงินได้ดังกล่าวกลับเข้ามาในปีภาษีอื่นๆ ก็ต้องนำมาคำนวณการเสียภาษีด้วย จากเดิมซึ่งจะคำนวณเฉพาะที่นำกลับเข้ามาในปีภาษีเดียวกัน ด้านนายกสมาคมบริษัทจัดการลงทุน (AIMC) เปิดเผยว่า ประกาศของกรมสรรพากรฉบับนี้น่าจะส่งผลกระทบต่อธุรกิจไพรเวทแบงกิ้งและนักลงทุนที่ออกไปลงทุนเองโดยตรงในหุ้นต่างประเทศเป็นหลัก ส่วนอุตสาหกรรมกองทุนรวมนั้นไม่ได้รับผลกระทบดังกล่าว ในทางตรงข้ามอาจจะส่งผลเชิงบวกโดยเฉพาะกับกองทุนรวมต่างประเทศที่ไม่ต้องเสียภาษีในส่วนนี้
2.) สำนักข่าวรายงานเรือบรรทุกสินค้า 2 ลำ เดินทางมาถึงท่าเรือเมืองโคร์โนมอร์สคของยูเครนเมื่อวันเสาร์ที่ 16 ก.ย. โดยใช้เส้นทางใหม่ในการแล่นเรือผ่านทะเลดำ ทั้งนี้เรือบรรทุกสินค้าได้บรรทุกข้าวสาลีจำนวน 20,000 ตัน ซึ่งจะขนส่งออกไปยังอียิปต์และอิสราเอลต่อไป การเดินเรือครั้งนี้เป็นครั้งแรกที่เรือพลเรือนเดินทางมาถึงท่าเรือยูเครน นับตั้งแต่รัสเซียถอนตัวจากข้อตกลงส่งออกธัญพืชจากยูเครนผ่านเส้นทางทะเลดำ มองประเด็นนี้อาจทำให้ตลาดคลายกังวลเรื่องอาหารขาดแคลนและราคาสินค้าเกษตรที่ปรับตัวเพิ่มสูงขึ้น
3.) สหภาพแรงงานยานยนต์ในสหรัฐฯนัดหยุดงานประท้วงที่โรงงานประกอบรถยนต์ 3 แห่งของสเตลแลนทิส เจอเนรัล มอเตอร์ (General Motors) และฟอร์ด (Ford) ในเมืองดีทรอยต์ รัฐมิชิแกน ของสหรัฐ หลังจากไม่สามารถบรรลุข้อตกลงขอขึ้นค่าจ้างได้ภายในเส้นตายวันพฤหัสบดี (14 ก.ย.) และมีความเป็นไปได้ว่าทางสหภาพแรงงาน UAW จะเรียกร้องให้สมาชิกหยุดงานเพิ่มอีก การหยุดงานประท้วงของแรงงานอาจส่งผลให้ตัวเลขเศรษฐกิจสำคัญโดยเฉพาะดัชนีภาคการผลิตในเดือนก.ย.อาจได้รับผลกระทบเชิงลบ
4.) ผลสำรวจชี้ชาวญี่ปุ่นส่วนใหญ่กว่า 86% รู้สึกว่ามีความจำเป็นต้องเพิ่มแรงงานต่างชาติ โดยเน้นย้ำถึงปัญหาการขาดแคลนแรงงานในภาคเกษตรกรรม และภาคส่วนสำคัญอื่น ๆ ในภูมิภาคท้องถิ่นของญี่ปุ่น ในขณะที่ประเทศกำลังต่อสู้กับปัญหาจำนวนประชากรที่ลดลง มองตลาดแรงงานที่ตึงตัวในญี่ปุ่นอาจยังเป็นประเด็นกดดันให้เงินเฟ้ออยู่ในระดับสูงต่อเนื่องส่งผลให้มีความเสี่ยงเพิ่มขึ้นที่ BOJ จะพิจารณาทยอยถอนมาตรการผ่อนคลายทางการเงิน
Theme การลงทุนสัปดาห์นี้
ประเมินตลาดหุ้นไทยแกว่งตัวในกรอบ 1,530 – 1,570 จุด คาดตลาดแกว่งตัวรอประเมินถ้อยแถลงของ Fed Chair Powellในคืนวันพุธที่ 20 ก.ย. รวมถึงผลการประชุมธนาคารกลางของประเทศใหญ่อื่นๆ (จีน ญี่ปุ่น อังกฤษ) ทิศทางราคาโภคภัณฑ์ โดยเฉพาะราคาน้ำมันดิบ Brent ที่ล่าสุดทำจุดสูงสุดนับแต่เดือน พ.ย. 2565 และพัฒนาการของปัญหา Geopolitical risk ระหว่างจีน กับยุโรป/สหรัฐฯ ขณะที่ปัจจัยในประเทศ ติดตามการเดินทางเข้าร่วมประชุมสมัชชาสหประชาชาติของนายกรัฐมนตรีที่สหรัฐฯ ระหว่างวันที่ 18-22 ก.ย. โดยทางนายกจะถือโอกาสไปพบกับนักลงทุนต่างประเทศที่สนใจลงทุนในประเทศไทย
หุ้นแนะนำวันนี้
Top pick: TRUE (ราคาพื้นฐาน 9.28 บาท) มองเป็นหุ้นdomestic play ได้กระแสการบริโภคภายในประเทศฟื้นกลับหลังความกังวลการเมืองคลี่คลาย อีกทั้งเชื่อมโยงแนวโน้มdigital economy รองรับการทำมาตรการ digital wallet และมีปัจจัยบวกเฉพาะตัวจาก synergy บวกหลังการควบรวมสองบริษัทและรายได้เฉลี่ยต่อผู้ใช้ (ARPU) ที่มีแนวโน้มเพิ่มขึ้น
Top pick: PTTGC (ราคาพื้นฐาน 41.5 บาท) มองราคาหุ้นปรับตัวลงมามากจน upside เริ่มเปิด โดยราคาหุ้นแม้ไม่ต่ำเท่าช่วง Covid พีค แต่ก็ลงมาใกล้ๆช่วง เม.ย.-พ.ค. 2020 ด้านvaluation เทรดที่เพียงราว PB 0.5x ขณะที่ผลประกอบการคาดจะทยอยฟื้นตัวขึ้นได้ตั้งแต่ช่วงหลังของปีนี้
รายงานตัวเลขเศรษฐกิจ
- วันจันทร์ ติดตามตัวเลขดัชนีอสังหาฯของสหรัฐฯ (NAHB Housing market index) เดือนก.ย. ตลาดคาดจะทรงตัวอยู่ที่ระดับ 50 จุดเท่ากับเดือนก่อนหน้า ขณะด้านตลาดเอเชียวันจันทร์ปิดตลาดหุ้นนิคเคอิญี่ปุ่นเนื่องจากเป็นวันเคารพผู้สูงอายุญี่ปุ่น ซึ่งเป็นวันหยุดสำหรับวันจันทร์ที่สามของเดือนก.ย. ทุกปี
- วันอังคาร ติดตามตัวเลขดัชนีราคาผู้บริโภคทั่วไปของยุโรป (Headline CPI) เดือนส.ค. ตลาดคาดทรงตัวที่ 5.3% YoY เท่ากับเดือนก่อนหน้าเช่นเดียวกันกับดัชนีราคาผู้บริโภคพื้นฐาน (core CPI) เดือนส.ค. ของยุโรปที่ตลาดก็ประเมินว่าจะอยู่ที่ 5.3% YoY ทรงตัวเมื่อเทียบกับตัวเลขเดือนก.ค. ต่อด้วยตัวเลขช่วงข้ามคืนของทางฝั่งสหรัฐฯ มีรายงานตัวเลขการขออนุญาตสร้างบ้านใหม่ (Building permits) เดือนส.ค. ตลาดคาดที่ 1.45m เพิ่มขึ้นเล็กน้อยจากเดือนก่อนหน้าที่ 1.44m และตัวเลขบ้านสร้างใหม่ (Housing starts) เดือนส.ค. ตลาดคาดที่ 1.44m ลดลงเล็กน้อยจาก 1.45m ในเดือนก่อนหน้า
- วันพุธ ติดตามการประชุมธนาคารกลางจีน (PBOC) ตลาดคาดคงอัตราดอกเบี้ยนโยบายไว้ที่เดิมทั้งในส่วนของ LPR (Loan Prime Rate) ระยะ 1 ปีที่ 3.45% และระยะ 5 ปีที่ 4.20% และช่วงดึกข้ามคืนมีประชุมธนาคารกลางของสหรัฐฯ FOMC ตลาดคาดจะคงอัตราดอกเบี้ยนโยบายไว้ที่ 5.50% โดยในรอบนี้จะมีการแถลงตัวเลขคาดการณ์แนวโน้มเศรษฐกิจและเงินเฟ้อของสหรัฐฯด้วยซึ่งน่าจะเป็นตัวเลขที่ตลาดให้ความสนใจ
- วันพฤหัสฯ ติดตามผลประชุมธนาคารกลางอังกฤษ (BOE)ตลาดคาดมีการปรับเพิ่มขึ้นอัตราดอกเบี้ย 25bps จาก 5.25% เป็น 5.50% ต่อด้วยตัวเลขดัชนีภาคการผลิตระดับรัฐของสหรัฐฯ (Philly Fed manufacturing Index) เดือนก.ย. ตลาดคาดที่ปรับตัวลงอยู่ที่ -0.4 จากเดือนก่อนหน้าที่ 12.0 จุด ต่อด้วยตัวเลขยอดขายบ้านมือสอง (Existing Home Sales) เดือน ส.ค. ตลาดคาดที่ 4.10m เทียบกับเดือนก่อนหน้าที่ 4.07m
- วันศุกร์ ติดตามผลการประชุมธนาคารกลางญี่ปุ่น (BOJ) ตลาดคาดคงอัตราดอกเบี้ยนโยบายไว้ที่ -0.10% แต่ให้น้ำหนักความสนใจที่ทาง BOJ จะมีการปรับเปลี่ยนมาตรการผ่อนคลายอื่นๆเช่น Yield Curve Control (YCC) หรือไม่ หลังเงินเฟ้อสามารทรงตัวได้ในระดับสูง ต่อด้วยดัชนีภาคการผลิตเบื้องต้นของทั้งฝั่งยุโรปและสหรัฐฯของเดือนก.ย. ซึ่งตลาดคาดทั้งคู่จะทรงตัวเท่าเดิมกับเดือนก่อนหน้าที่ระดับเ 43.5 จุดและ 47.9 จุดตามลำดับ