ทุกๆ สินทรัพย์ทรงตัว รอดูการประชุมธนาคารกลางสหรัฐฯ
Market Update
ตลาดหุ้น Dow Jones เมื่อคืนปิดบวกเล็กน้อย 0.02% นักลงทุนยัง Wait & See รอดูผลประชุม FED ที่จะทราบผลทางการช่วงเช้าวันพฤหัสบดีตามเวลาประเทศไทย ด้านราคาน้ำมันดิบ BRT ปิดบวก 0.8% ภาวะอุปทานดึงตัวยังเป็นปัจจัยสนับสนุนราคา
Market Outlook
เมื่อคืนที่ผ่านมาการเคลื่อนไหวของแต่ละสินทรัพย์ค่อนข้างทรงตัวไม่ว่าจะเป็นอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯอายุ 2 และ 10 ปี, Dollar Index, ราคาทองคำ รวมถึงตลาดหุ้น Dow Jones บ่งชี้ว่านักลงทุนกำลังรอพิจารณาปัจจัยใดสักอย่าง ซึ่งเชื่อว่าจะเป็นผลประชุม FED อิงข้อมูลล่าสุดจาก CME FED Watch ให้น้ำหนัก 99% ที่ FED จะคงดอกเบี้ยไว้ที่ระดับเดิม และคาดว่าดอกเบี้ยปลายปี 2024 จะลงมาอยู่ที่ 4.5 – 4.75% ส่วนปลายปี 2023 จะอยู่ที่ 5.25 – 5.5% จึงแนะรอติดตามเส้นทางดอกเบี้ยในช่วงถัดไปจากการประชุม FED ที่จะทราบผลในช่วงวันพฤหัสบดี หากมีการปรับเปลี่ยนที่เข้มงวดกว่าตลาดประเมินไว้ จะเพิ่มแรงกดดันต่อตลาดหุ้น ซึ่งมีความเป็นไปได้จากการที่เงินเฟ้อสหรัฐฯปรับขึ้นต่อเนื่อง 3 เดือนติดต่อ ส่วนปัจจัยในประเทศวานนี้ที่ประชุม ครม. มีมติปรับลดค่าไฟรอบที่ 2 ลงเหลือ 3.99 บาท / หน่วย จากเดิม 4.1 บาท / หน่วย สำหรับกลุ่มโรงไฟฟ้าประเมินผลกระทบต่อกำไร BGRIM GPSC รับผลกระทบมากสุดและ GULF มีผลกระทบน้อยสุด ส่วนคืนนี้รอติดตามตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐฯ ได้แก่ (1) ใบขออนุญาตก่อสร้าง Bloomberg คาด ไว้ที่ 1.4 ล้านใบอนุญาต (2) ยอดสร้างบ้านใหม่ Bloomberg คาดไว้ที่ 1.4 ล้าน หลังคาเรือน หากรายงานสูงกว่าตลาดคาดการณ์จะยิ่งเพิ่มแรงกดดันต่อตลาดหุ้น จากความกังวลเงินเฟ้อและดอกเบี้ย
วันนี้ประเมิน SET INDEX เคลื่อนไหวในกรอบ 1520 – 1535 เชิงกลยุทธ์การลงทุนยังไม่เพิ่มพอร์ตการลงทุน แต่เริ่มพิจารณามากขึ้นหากดัชนียังปรับฐานต่อจะมองเป็นโอกาสในการเข้า Trading ระยะไตรมาส จากสถิติตลาดหุ้นทั่วโลกที่ผลตอบแทน 4Q ของทุกๆ ปีมักเป็นบวก และเชื่อว่าหลังผ่านประชุม FED ตลาดหุ้นโลกจะหมดปัจจัยกดดัน ส่วนระยะสั้นแนะ Trading ในกลุ่มน้ำมัน (PTTEP) โรงกลั่น (BCP SPRC TOP) ค้าปลีก (BJC CRC CPALL HMPRO) ธนาคารพาณิชย์ (BBL KBANK KTB SCB) ท่องเที่ยว (AOT AWC CENTEL ERW MINT) เดินเรือ (PSL) ส่งออก (TU)
หุ้นแนะนำซื้อวันนี้
PTTEP (ซื้อ / ราคาเป้าหมาย 180.00 บาท) ภาพรวมไตรมาส 3/23 ยังเป็นบวกจากแนวโน้มปริมาณขายที่ปรับดีขึ้น โดยผู้บริหารให้แนวทางไว้ที่ 470kBOED (+6% QoQ) ขณะที่ราคาขายก็มีโอกาสปรับสูงขึ้นตามราคาน้ำมันดิบดูไบที่ขึ้นไปแตะ US$84/ บาร์เรลในเดือน ก.ค. หรือขึ้นไปกว่า US$6.0/บาร์เรลจากค่าเฉลี่ยในไตรมาส 2/23 ราคาน้ำมันที่ปรับขึ้นช่วง ล่าสุดเป็นผลจากการที่ OPEC+ ขยายกรอบการลดปริมาณผลิตไปถึงเดือน ส.ค.
AOT (ซื้อ / ราคาเป้าหมาย 82.00 บาท) กำไรสุทธิงวด FY3Q23 สูงถึง 3,156 ล้านบาท +70%QoQ และพลิกจากที่ขาดทุน 2,207 ล้านบาทใน FY3Q22 ขณะที่รายได้เติบโตขึ้น 178%YoY,18%QoQ มาอยู่ที่ 12,954 ล้านบาท สำหรับแนวโน้มช่วง FY4Q23 อาจเห็นการชะลอตัวเล็กน้อยเพราะเป็นช่วง Low Seasons และการรับรู้ค่าใช้จ่ายสำหรับอาคาร SAT-1 ที่จะเปิดในช่วงกลางเดือน ก.ย. นี้ ทั้งนี้เรายังประมาณการกำไรทั้งปีไว้ที่ 9,996 ล้านบาท และคาดว่าจะเติบโตเป็น 29,365 ล้านบาทใน FY24