6 โบรกฯ ประเมินหุ้นไอพีโอน้องใหม่ TRP พื้นฐานเด่น การันตี 3 ปีข้างหน้ากำไรเติบโตสูง แถมมีอัตราการทำกำไรสุทธิสูงสุดในกลุ่ม เคาะกรอบราคาเป้าหมาย 21-26 บาทต่อหุ้น ระดมทุนเพื่อก่อสร้างโรงพยาบาลศัลยกรรมตกแต่งเฉพาะใบหน้าแบบครบวงจรแห่งแรกในประเทศไทย รองรับเทรนด์ความสวยความงามที่เติบโตรุดหน้าอย่างก้าวกระโดดในปัจจุบัน-อนาคต หนุนธุรกิจโตแกร่งอย่างยั่งยืน
บริษัท เอสเตติก คอนเนค จำกัด (มหาชน) หรือ TRP ผู้ประกอบกิจการสถานพยาบาลด้านคลินิกเวชกรรม ภายใต้ชื่อ “ธีรพรคลินิก” เพื่อให้บริการศัลยกรรมความงามเฉพาะบนใบหน้าแก่บุคคลทั่วไป ก่อตั้งโดย ผู้ช่วยศาสตราจารย์ นายแพทย์ชลธิศ สินรัชตานันท์ อดีตนายกสมาคมศัลยกรรมตกแต่งใบหน้าประเทศไทย แพทย์ผู้เชี่ยวชาญและมีประสบการณ์ด้านศัลยกรรมตกแต่งบนใบหน้ามากว่า 40 ปี พร้อมทีมแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเฉพาะทางมากประสบการณ์ เป็นที่ยอมรับอย่างกว้างขวางในด้านศัลยกรรม เครื่องมือแพทย์ครบครัน ทันสมัย และมีมาตรฐานระดับสากล มีแผนเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนให้แก่ประชาชนทั่วไปเป็นครั้งแรก (IPO) จำนวน 90 ล้านหุ้น มูลค่าที่ตราไว้ 0.50 บาท/หุ้น คิดเป็น 25.71% ของจำนวนหุ้นทั้งหมดภายหลังการเสนอขาย IPO และคาดว่าจะสามารถเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ เอ็ม เอ ไอ (mai) หมวดธุรกิจบริการ (SERVICE) ในไตรมาส 4/2566
การระดมทุนในครั้งนี้ บริษัทมีแผนนำเงินไปใช้ลงทุนขยายกิจการในโครงการต่าง ๆ เช่น โครงการก่อสร้างโรงพยาบาลศัลยกรรมตกแต่งเฉพาะใบหน้า เพื่อก้าวสู่การเป็นโรงพยาบาลศัลยกรรมตกแต่งเฉพาะใบหน้าแบบครบวงจรแห่งแรกในประเทศไทย, จัดซื้อเครื่องมือและอุปกรณ์ทางการแพทย์, ชำระคืนเงินกู้จากการยืมสถาบันการเงิน และใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียนในการดำเนินงานให้สอดคล้องกับแผนการเติบโตของบริษัทฯ ในอนาคต
สำหรับผลดำเนินงานปี 2563 ถึงปี 2565 บริษัท มีรายได้รวม 221.60 ล้านบาท 427.76 ล้านบาท และ 854.07 ล้านบาท ตามลำดับ และมีกำไรสุทธิ 37.15 ล้านบาท 112.68 ล้านบาท และ 270.27 ล้านบาท ตามลำดับ ขณะที่ผลประกอบการงวด 6 เดือนแรก ปี 2566 บริษัทมีรายได้รวม 369.05 ล้านบาท และกำไรสุทธิ 105.48 ล้านบาท
ทั้งนี้ มีรายงานบทวิเคราะห์ของบริษัทหลักทรัพย์ 6 แห่ง ได้ประเมินราคาเหมาะสมของหุ้น TRP ไว้ดังนี้
- บริษัทหลักทรัพย์ ฟินันเซีย ไซรัส จำกัด (มหาชน) นักวิเคราะห์ ได้ประเมินราคาเป้าหมายปี 2567 ที่ 26 บาท ประเมินด้วยวิธี DCF เทียบเท่ากับ P/E 67 ที่ 35 เท่า ใกล้เคียงกับ Forward P/E ปี 67 ของ MASTER โดยคาดกําไรสุทธิ 3 ปีข้างหน้า (2567- 69) จะเติบโตเฉลี่ย (CAGR) 17.1% สอดคล้องกับที่คาดการณ์ว่าธุรกิจศัลยกรรมความงามของประเทศไทยจะขยายตัวเพิ่มขึ้น โดยเฉพาะโครงการก่อสร้างโรงพยาบาลศัลยกรรมตกแต่งเฉพาะใบหน้าแบบครบวงจรแห่งแรกในประเทศไทย ปัจจุบันอยู่ระหว่างการก่อสร้างคาดว่าเริ่มเปิดดำเนินการในไตรมาส 4/67
ทั้งนี้ TRP มีจุดแข็งที่ผู้ก่อตั้งและทีมแพทย์ โดยผู้ก่อตั้งคือ นาวาโทหญิงสุวรรณี จิรยั่งยืน ร.น. และครอบครัว พร้อมมีผู้นําทีมแพทย์และที่ปรึกษา คือ ผู้ช่วยศาสตราจารย์ นายแพทย์ชลธิศ สินรัชตานันท์ อดีตนายกสมาคมศัลยกรรมตกแต่งใบหน้าแห่งประเทศไทย ที่มีประสบการณ์ ความเชี่ยวชาญ และมีชื่อเสียงในวงการมายาวนาน รวมทั้งเป็นที่ปรึกษา และเป็นอาจารย์ถ่ายทอดความรู้เทคนิคให้แก่ทีมแพทย์ธีรพร
โดยบริษัทเน้นกลยุทธ์หลัก ด้านคุณภาพ ทั้งทีมแพทย์และการให้บริการที่น่าเชื่อถือ ด้วยผลงานอันโดดเด่นเป็นที่ยอมรับอย่างกว้างขวาง และเป็นผู้นําในนวัตกรรมด้านศัลยกรรมตกแต่งความงามบนใบหน้า โดยอาศัยการบอกปากต่อปากของลูกค้า (Word of mouth) ไม่ใช้นโยบายการแข่งขันด้วยการลดราคาค่าบริการ
- บริษัทหลักทรัพย์ ดาโอ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) นักวิเคราะห์ ได้ประเมินราคาเป้าหมายปี 2567 ของ TRP ได้ที่ 22 บาท ด้วยวิธี PER โดยอิง PER ที่ 29 เท่า เทียบเท่าค่าเฉลี่ยของ peer กลุ่มโรงพยาบาลขนาดเล็ก และ MASTER, KLINIQ โดยประเมินกำไรปี 2563-67 จะเติบโตเฉลี่ย (CAGR) สูงถึง 48% เติบโตโดดเด่นหลังเปิดประเทศ โดย TRP เป็นผู้นำด้านศัลยกรรมความงามบนใบหน้า และกำลังก้าวเข้าสู่การเป็นโรงพยาบาลศัลยกรรมความงามบนใบหน้าแห่งแรกในประเทศไทย
ทั้งนี้ ฝ่ายวิจัยชอบ TRP จาก 4 ปัจจัยหลัก คือ 1. การเป็นผู้นำด้านศัลยกรรมความงามบนใบหน้า และกำลังก้าวเข้าสู่การเป็นโรงพยาบาลศัลยกรรมความงามบนใบหน้าแห่งแรกในประเทศไทย โดยจะเปิดให้บริการได้ในไตรมาส 4/67 และจะมี capacity เพิ่มขึ้น 1 เท่าตัว โดยคาดจะสร้างรายได้และกำไรเต็มที่ในปี 2568 2. TRP มีอัตราการทำกำไรสุทธิที่สูงที่สุดในกลุ่ม เพราะรูปแบบการศัลยกรรมของ TRP มีความ premium และราคาสูงกว่าคู่แข่ง 3. การเข้าสู่สังคมผู้สูงอายุจะช่วยผลักดันให้ TRP มีรายได้จากศัลยกรรมดึงหน้า (สัดส่วนรายได้สูงสุดที่ราว 65% ของรายได้รวม) เพิ่มมากขึ้นในอนาคต และ 4. การมีทีมแพทย์ที่มีชื่อเสียงและเป็นที่ยอมรับ โดยเฉพาะผู้ช่วยศาสตราจารย์ นายแพทย์ชลธิศ สินรัชตานันท์ ซึ่งเป็นผู้คิดค้นศัลยกรรมผ่าตัดดึงหน้า ด้วยนวัตกรรม Face-Lock เพื่อแก้ไขปัญหาใบหน้าต่าง ๆ ที่ให้ผลดี แผลเล็กและสามารถฟื้นตัวได้เร็ว
- บริษัทหลักทรัพย์ กรุงศรี พัฒนสิน จำกัด (มหาชน) นักวิเคราะห์ ได้ประเมินราคาเป้าหมายของ TRP ปี 2567 ที่ 23 บาท คิดเป็น Imply P/E ปี 67 ที่ 31 เท่า โดย related PE ที่ระดับ Premium กลุ่มฯ เนื่องด้วย TRP มีจุดเด่น คือ 1 มีมาตรฐานการให้บริการสูง ด้วยทีมแพทย์เฉพาะทาง มีเทคนิคผ่าตัดที่คิดค้นขึ้นเองและมีกลุ่มลูกค้าเป้าหมายชัดเจน 2 มีการขยายศักยภาพให้บริการเป็นโรงพยาบาลทำให้มีกำลังการให้บริการเพิ่มขึ้นเท่าตัวรองรับการเติบโตระยะยาว และการเสริมความงามที่ผู้ใช้บริการจะกลับมาใช้บริการซ้ำ ซึ่งมีอัตราทำกำไรสูงกว่าธุรกิจโรงพยาบาล โดยในปี 2567-68 คาดมีกำไรสุทธิ 262 ล้านบาท และ 330 ล้านบาทตามลำดับ เติบโตเฉลี่ย 28%ต่อปี เนื่องจากคาดรายได้กลับมาเติบโต 24%ต่อปี จากศักยภาพให้บริการเพิ่มขึ้นของโรงพยาบาล ทำให้คาดว่าจะมีจำนวนครั้งของการใช้บริการเติบโต 20%ต่อปี รวมถึงการคาดการณ์ค่าใช้จ่าย SG&A ต่อรายได้มีสัดส่วน 19.1% และ17.2% ลดลงจากผลบวกของ Economies of scale ของจำนวนครั้งของการให้บริการที่เพิ่มขึ้น ทำให้คาดว่า EBITDA margin มีแนวโน้มดีขึ้นเป็น 36.7% และ 40.3% ตามลำดับ และ 3. คาดว่าค่าใช้จ่ายการเงินลดลงตามการคืนเงินกู้สถาบันการเงิน
- บริษัทหลักทรัพย์ โกลเบล็ก จำกัด นักวิเคราะห์ ได้ประเมินราคาเป้าหมาย ด้วยวิธี PEG Ratio ที่ 1 เท่า เพื่อสะท้อนถึงความสามารถในการเติบโตของผลประกอบการ โดยคาดว่ากำไรปี 64-67 จะเติบโตเฉลี่ย 33%จากปีก่อนหน้า และคาดกำไรต่อหุ้นปี 67 ที่ 0.76 บาทต่อหุ้น จึงได้ราคาเป้าหมายอยู่ที่ 25 บาท
ทั้งนี้ ฝ่ายวิจัยคาดว่ารายได้ปี 2567 จะอยู่ที่ 936 ล้านบาท เติบโต 27% จากปีก่อน และมีกำไร 265 ล้านบาท เติบโต 33% จากปีก่อน โดยได้แรงหนุนจาก 1.การเข้าสู่สังคมผู้สูงอายุที่สัดส่วนเพิ่มขึ้นต่อเนื่องโดยในปี 2564 มีสัดส่วนผู้สูงอายุอยู่ที่ 19.6% ของประชากรสู่ 21.1% ของประชากรในปี 2568 2.นโยบายการท่องเที่ยวเชิงสุขภาพของรัฐบาลอีกทั้งประเทศไทยมีโรงพยาบาลที่ได้รับการรับรอง JCI สูงติดอันดับ 1 ใน 5 ของโลกและไทยได้อันดับ 2 ของโลกในการท่องเที่ยวเชิงสุขภาพจาก Wellness Tourism Initiative 63 และ 3.การเปิดโรงพยาบาลใหม่ทำให้มีพื้นที่ใช้สอยเพิ่มขึ้นจาก 1.16 พันตร.ม.สู่ 9.92 พันตร.ม. และจำนวนห้องผ่าตัดเพิ่มขึ้นจาก 6 ห้องเป็น 12 ห้อง ห้องให้คำปรึกษาเพิ่มขึ้นจาก 3 ห้องเป็น 8 ห้อง และห้องติดตามผลหลังผ่าตัดจาก 6 ห้องเป็น 11 ห้อง โดยคาดว่าจะแล้วเสร็จไตรมาส 4/67
ด้านอัตราส่วนค่าใช้จ่ายในการขายและบริหารต่อรายได้รวม (SG&A/Sales) คาดว่าจะปรับตัวลงจาก 21.1% สู่ 19.50% เนื่องจากคาดว่ารายได้จะกลับมาเติบโตเร็วกว่าค่าใช้จ่ายฯ โดยเมื่อพิจารณาเป็นตัวเงินเพิ่มขึ้นจากปี 2566 ที่ 155 ล้านบาท สู่ระดับ 183 ล้านบาท ในปี 2567
- บริษัทหลักทรัพย์ พาย จำกัด (มหาชน) นักวิเคราะห์ ได้ประเมินราคาเป้าหมาย 25 บาท ด้วยวิธี PE multiple ใช้กำไรต่อหุ้นปี 2567 ที่ 0.84 บาท กำหนดเป้าหมาย P/E ปี 2567 ที่ 25 เท่า อิงกับค่าเฉลี่ยการซื้อขายของบริษัทที่มีลักษณะธุรกิจใกล้เคียงกับบริษัทฯ ซึ่งต่ำกว่าระดับค่าเฉลี่ยการซื้อขาย 5 ปีของกลุ่มบริการ (Service) ที่ประกอบธุรกิจคล้ายกันที่สูงถึง 38 เท่า
โดยมองว่าในอนาคต TRP มีโอกาสเติบโตได้ดี เนื่องจากมีปัจจัยเร่งจากภายในประเทศ ประกอบด้วย 1.ปัจจัยทางด้านกระแสนิยมการดูแลผิวพรรณ และการดูแลรูปร่างหน้าตามากขึ้น 2.การเพิ่มขึ้นของจำนวนผู้สูงอายุในประเทศ (Medical Tourism) โดยสัดส่วนปี 2537-2564 เติบโตจาก 6.8% มาอยู่ที่ 19.6% 3. การเพิ่มขึ้นของจำนวนนักท่องเที่ยวเพื่อรับบริการทางการแพทย์ ด้วยมาตรฐานการรักษาที่เป็นเลิศและค่ารักษาพยาบาลเฉลี่ยที่ต่ำกว่าประเทศอื่นๆ และ 4.อัตรารายได้ต่อหัวของประชากรในประเทศที่มีแนวโน้มเพิ่มขึ้นอย่างเห็นได้ชัด ส่งผลให้มีกำลังซื้อเพิ่มขึ้น และความต้องการรับบริการที่ซับซ้อนมากขึ้น อีกทั้งคาดว่าTRP คาดว่าจะเปิดโรงพยาบาลศัลยกรรมภายในไตรมาส 4/2567 ทำให้ห้องผ่าตัดเพิ่มจากเดิม 6 ห้อง เป็น 12 ห้อง ห้องให้คำปรึกษาจาก 3 ห้องเป็น 8 ห้อง และห้องติดตามผลหลังผ่าตัดจาก 6 ห้องเป็น 11 ห้อง ขณะที่ในปี 2565 อัตราการใช้ห้องผ่าตัดอยู่ที่ 66% จึงมองว่า TRP ยังสามารถเพิ่มอัตราการใช้ห้องได้อีกมากและมีโอกาสที่รายได้จะเติบโตจากความสามารถในการรองรับผู้ป่วยที่มากขึ้นหลังเปิดโรงพยาบาลใหม่
- บริษัท หลักทรัพย์อาร์เอชบี (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) นักวิเคราะห์ ได้ประเมินราคาเป้าหมายในปี 2567 ของ TRP ที่ราคา 21 บาท อิง Targeted P/E 27.5 เท่า เทียบเท่าค่าเฉลี่ยการซื้อขายระหว่างหุ้นผู้ประกอบการกลุ่มการแพทย์ขนาดกลางและขนาดเล็ก ที่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย รวมถึงหุ้นกลุ่มบริการที่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์เอ็ม เอ ไอ mai ที่ดำเนินธุรกิจเกี่ยวข้องกับการแพทย์
โดยคาดการณ์ว่า TRP จะมีกําไรสุทธิในปี 2567 เติบโตแข็งแกร่ง 33% เป็น 268 ล้านบาท และคาดปี 2568 ขยายตัวต่อเนื่องอีก 22% เป็น 326 ล้านบาท โดยมีการเติบโตของรายได้ และค่าใช้จ่ายในการขายและบริหาร (SG&A/sales) ที่ปรับลดลง เป็นปัจจัยสนับสนุนสำคัญบนประมาณการรายได้รวมเติบโต 25% และ 20% ตามลำดับ
อีกทั้ง มีปัจจัยหนุนจากการขยายตัวของปริมาณผู้ใช้บริการ หลังการลงทุนด้านการตลาดผ่านสื่อ และการเปิดดําเนินงานโรงพยาบาลแห่งใหม่ในไตรมาส 4/67 ขณะที่ SG&A/Salesคาดว่าจะลดลงต่อเนื่องเป็น 20% ในปี 2567และ 18% ในปี 2568 ตามปริมาณรายได้ที่เพิ่มขึ้นก่อให้เกิดการประหยัดต่อขนาดของการดำเนินธุรกิจ และคาดว่าจะผลักดัน Net Profit Margin ในปี 2567สูงขึ้นเป็น 28.6% และในปี 2568 ที่ระดับ 28.9% ส่งผลให้ ROE ทรงตัวที่ระดับ 20-22% ในช่วง 3 ปี และ ROA สูงขึ้นเป็น 20% ในปี 2568