วันนี้คาดตลาด “อ่อนลงต่อ”
แนวรับ 1,515 / 1,507 แนวต้าน 1,530 / 1,540 คาดวันนี้ตลาดจะให้ความสนใจกับการประชุม FOMC เพื่อประเมินการขึ้นอัตราดอกเบี้ยในช่วง เดือน พ.ย. / น้ำมันดิบเมื่อคืนนี้เผชิญแรงขายทำกำไร / สำหรับปัจจัยภายในประเทศติดตามความชัดเจนในแหล่งที่มาของเงินในการออกนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจ
Our View? “หัวใจล้มเหลว”
คาดตลาดวันนี้ “อ่อนลงต่อ” มองแนวรับที่บริเวณ 1,515 /1,507 และแนวต้านที่บริเวณ 1,530 / 1,540 คาดวันนี้ตลาดจะให้ความสนใจไปกับการประชุม FOMC ของธนาคารกลางสหรัฐ (FED) โดยเรายังคาดว่า FED จะคงอัตราดอกเบี้ยที่ระดับ 5.25-5.50% ในการประชุมครั้งนี้ต่อไป แต่สิ่งที่เราให้ความสนใจคือการส่งสัญญาณถึงทิศ ทางการปรับใช้นโยบายดอกเบี้ยในระยะถัดไป-ปีหน้าว่า FED มีมุมมองต่อทิศทางเศรษฐกิจสหรัฐ และนโยบายทางการเงินอย่างไร โดยเฉพาะอย่างยิ่งคือความน่าจะเป็นที่ FED จะส่งสัญญาณถึงการขึ้นอัตราดอกเบี้ยในการประชุมเดือน พ.ย. หรือไม่? หลังจากที่เศรษฐกิจสหรัฐยังแข็งแกร่ง รวมทั้งตลาดแรงงานยังอยู่ในภาพตึงตัว อีกทั้งราคานํ้ามันปรับตัวขึ้นต่อเนื่องในช่วงที่ผ่านมา สะท้อนถึงเงินเฟ้อสหรัฐจะยังอยู่ในระดับสูงต่อไป คาดจะส่งผลให้ตลาดแกว่งตัวในกรอบแคบเพื่อประเมินสัญญาณดังกล่าว
ขณะที่อัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐ (Us Bond yield) ปรับตัวขึ้นต่อเนื่อง โดยรุ่นอายุ 10 ปี ปรับตัวขึ้นพยายามทำจุดสูงสุดใหม่ล่าสุดอยู่ที่ระดับ 4.36% สะท้อนถึงแนวโน้มอัตราดอกเบี้ยอาจอยู่ในระดับสูงต่อไป คาดจะกดดันทิศทางราคาสินทรัพย์เสี่ยงได้
ทางด้านราคาสัญญาน้ำมันดิบล่วงหน้า WTI. ส่งมอบเดือน ต.ค. ปรับตัวขึ้นทำจุดสูงสุดใหม่ เริ่มเข้าใกล้จุดสูงสุดก่อนหน้าก่อนที่จะอ่อนตัวลงปิดที่ระดับ 91.20 ดอลลาร์/บาร์เรล -0.28 ดอลลาร์ (-0.31%) คาดเผชิญแรงขายทำกำไรหลังปรับตัวขึ้นมารับรู้ประเด็นอุปทานน้ำมันดิบตึงตัว จากซาอุดิอาระเบียปรับลดกำลังการผลิตแบบสมัครใจต่อไป ขณะที่รัสเซียลดการส่งออกนํ้ามัน อีกทั้งสํานักงานสารสนเทศด้านการพลังงานของรัฐบาลสหรัฐ (EIA) เปิดเผยปริมาณการผลิตน้ำมันจาก Shale Oil มีแนวโน้มลดลงสู่ระดับ 9.39 ล้านบาร์เรล/วัน ในเดือน ต.ค. ซึ่งจะเป็นการ ลดลงต่อเนื่องกันเป็นเดือนที่ 3 ติดต่อกัน กระตุ้นความกังวลอุปทานน้ำมันดิบตึงตัวต่อไปในช่วง 4Q′66 ไปบ้างในระดับหนึ่งแล้ว
สําหรับปัจจัยภายในประเทศ เราคาดว่าตลาดยังมีปัจจัย Overhang จากการออกนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐบาล โดยเฉพาะกรณีการออกดิจิทัลวอลเลต 10,000 บาท ว่าจะหาแหล่งเงินทุนจากที่ใด อย่างไรก็ตาม เรายังมีความกังวลเกี่ยวกับการออกนโยบายดังกล่าว คาดจะส่งผลให้ฐานะการคลังของประเทศอ่อนแอลง คาดระดับหนี้ของรัฐบาลจะสูงขึ้น ขณะที่แนวทางในการที่กระทรวงการคลังอาจลดสัดส่วนการถือหน่วยลงทุนในกองทุนวายุภักษ์เพื่อหางบประมาณสําหรับการออกมาตรการดังกล่าว แม้ยังมีความไม่แน่นอน แต่คาดเป็นปัจจัย Overhang หุ้นในกลุ่มที่กองทุนวายุภักษ์ถืออยู่ อาทิ (PTT, SCB, TTB, KTB และ BCP) รวมทั้งยังเป็นปัจจัยกดดัน – จํากัด Upside ของตลาดหุ้นไทยได้ต่อ โดยเรายังคงเห็นนักลงทุนต่างชาติเทขายหุ้นไทยต่อเนื่อง รวมทั้งอยู่ในสถานะ Short SET50 Index Futures สอดคล้องกับค่าเงินบาทเช้านี้อ่อนค่าทำจุดสูงสุดใหม่ที่ระดับ 36.00 บาท/ดอลลาร์สหรัฐ+/- มองเป็นจิตวิทยาเชิงลบต่อทิศทางตลาดหุ้นไทย อีกทั้ง Valuation ของตลาดหุ้นไทยยังตึงตัวจากคาดการณ์ EPS ล่าสุดจาก Bloomberg Consensus ยังอยู่ในระดับต่ำกว่า 90.0+/- ทำให้ตลาดหุ้นไทยยังไม่ค่อยมีความน่าสนใจ ในส่วนของประเด็นการพูดถึงการเปลี่ยนผู้ว่าธนาคารแห่งประเทศไทยทําได้ค่อนข้างยาก และคาดจะลดความเชื่อมั่นของนักลงทุน รวมทั้งยังสะท้อนให้เห็นถึงความเป็นไปได้ที่อัตราดอกเบี้ยไทยอาจอยู่ในช่วงสุดท้ายเช่นเดียวกัน คาดจะกดดันทิศทางหุ้นในกลุ่มธนาคารอ่อนตัวลงถ่วงตลาดหุ้นไทยได้
ธีมการลงทุน “Selective Play”
หุ้นแนะนำวันน้ี “INTUCH”
- คาดอาจเห็นแรงเข้าซื้อเพื่อลดความเสี่ยงจากความผันผวนของตลาดหุ้นไทย ในฐานะที่ INTUCH เป็นหุ้นในกลุ่ม Defensive Stock โดยล่าสุด Bloomberg Consensus คาดการณ์ Div. Yield ปี’66 อยู่ที่ระดับ 4.7%+/- อีกทั้งเราคาดว่าผลประกอบการ 2H’ 66 ของ INTUCH จะเติบโตขึ้นได้ดีกว่า 1H’ 66 โดยกำไรของ ADVANC จากทิศทางเศรษฐกิจไทยฟื้นตัวขึ้นได้แบบค่อยเป็นค่อยไป และการเข้าสู่ช่วง High Season ในช่วงท่องเที่ยว 4Q’66
- ทางเทคนิค ราคาฟื้นตัวขึ้นจากแนวรับในกรอบ Systematic Triangle พยายามทำจุดสูงสุดใหม่ในภาพระยะสั้น MACD และ SSTO ให้สัญญาณซื้อ แนะนำ “ทยอยซื้อสะสม”
- กลยุทธ์ ทยอยซื้อสะสม แนวรับ 73.25 / 72.25 Target 77.00 / 80.00 Stop <71.50