บล.เคจีไอ:

ประเด็นสำคัญการลงทุนหุ้น SAAM

เราประเมินหุ้น SAAM มีจุดเด่นใน 3 มิติ คือ 1) Recurring income: มีธุรกิจที่สร้างกระแสเงินสดประจำทุกปี ไม่ผันผวน 2) Growth drivers: ปี 2564 – 66 รับรู้รายได้จากธุรกิจพัฒันาโครงการพลังงานทดแทน (เพื่อขาย) และปีน้ีเริ่มธุรกิจ Business solutions โดยใช้ Big data 3) สถานะทางการเงินแข็งแกร่ง DE ratio ต่ำ เพียง 0.43 เท่า

Recurring income : ฐานรายได้และกำไรที่มั่นคงทุกปี

รายได้ที่เป็น Recurring income มาจาก “ธุรกิจจัดหาสถานที่ตั้งและให้บริการ” ซึ่งทาง SAAM จะเป็นผู้ลงทุนจัดหาสิทธิ์ในการใช้ที่ดินเพื่อให้ลูกค้าใช้เป็นที่ตั้งโครงการโซลาร์ฟาร์ม รวมถึงให้บริการที่เกี่ยวข้องภายในโครงการตามอายุสัญญา (20 และ 25 ปี แล้วแต่กรณี) จำนวน 17 โครงการ นอกจากน้ี SAAM ยังในการลงทุนโครงการโซลาร์ฟาร์มกำลังการผลิต 2MW (ถือหุ้น 100%) ซึ่งรายได้จากส่วนน้ีสร้าง EBITDA เฉลี่ยปีละ +30 ล้านบาท

Growth drivers: ธุรกิจพัฒนาโครงการพลังงานทดแทน และงาน Business solutions

i) Growth driver แรก: SAAM รับงานบริการพัฒันาโครงการโรงไฟฟ้าชีวมวล ที่ประเทศญี่ปุ่น 10 โครงการ (กำลังการผลิตรวม 100MW) กับทางบริษัท โคลเวอร์พาวเวอร์ จำกัด (มหาชน) หรือ CV โดยมีมูลค่ารวม 1 พันล้านบาทเยน (คิดเป็น 295 ล้านบาท อิงอัตราแลกเปลี่ยน 29.5 บาท/100 เยน) ซึ่งเราคาดว่า SAAM จะเริ่มรับรู้รายได้ในเฟสแรก (6 โครงการ) ภายใน 4Q64 โดยสมมติฐานทยอยรับรู้รายได้ 30% ใน 4Q64 และท่ีเหลืออีก 70% คาดทยอยรับรู้ภายใน 3Q65 สำหรับการรับรู้รายได้เฟสที่ 2 (4 โครงการ) ประเมินอยู่ในกรอบช่วงเวลา 4Q65 – 3Q66 สำหรับธุรกิจพัฒนาโครงการพลังงานทดแทนของ SAAM น้ี ยังมีโครงการโรงไฟฟ้าชีวมวลอีก 2 โครงการ (โครงการ Oita) ท่ีเป็น Upside มูลค่ารวม 2 โครงการราว 400 ล้านเยน (คิดเป็น 118 ล้านบาท อิงอัตราแลกเปลี่ยน 29.5 บาท/100 เยน) รอปิดการขายโดยได้รับอนุมัติสนับสนุนค่าไฟฟ้าฟ้าแล้ว ซึ่งเรายังไม่รวมโครงการ Oita ในประมาณการฯ

ii) Growth driver ท่ี 2: SAAM เริ่มดำเนินธุรกิจปรับปรุงประสิทธิภาพระบบบริหารจัดการโดยใช้เทคโนโลยี (Big data) ในการวิเคราะห์ (ธุรกิจ Business solutions)ข้อมูลจากการประชุมนักวิเคราะห์ธุรกิจใหม่น้ีจะเริ่มต้นที่การเข้าบริหารจัดการผ้าในโรงพยาบาล ซึ่งจะช่วยทางโรงพยาบาลประหยัดค่าใช้จ่ายได้ โดยเราสมมติฐานว่าจะมีกลุ่มลูกค้าโรงพยาบาลกลุ่มแรก 10 โรงพยาบาล ตัดสินใจใช้บริการน้ีของ SAAM ภายในปลายปีน้ี และกลุ่มลูกค้าโรงพยาบาลจะเพิ่มเป็น 50 แห่งภายในปี 2565 ทั้งน้ีเราประเมินว่ามีโอกาสท่ี SAAM จะใช้ระบบน้ีในการหากลุ่มลูกค้ากลุ่มอื่นๆ นอกจากลูกค้าโรงพยาบาลในอนาคต อาทิ โรงแรม สปา โรงงานอุตสาหกรรม สนามบิน เป็นต้น …

สถานะทางการเงินแกร่ง DE ต่ำ

ปัจจุบัน ณ สิ้นไตรมาส 2Q64 อัตราส่วน DE ของ SAAM ต่ำเพียง 0.43 เท่า และประเมินอัตราส่วน DE จะยิ่งต่ำลงไปอีกในปี 2565 เนื่องจากคาดกำไร 111 ล้านบาท และมีการแปลงสภาพ SAAM-W1 อีก 30 ล้านหน่วย ที่ราคา 7.5 บาท) ด้วยอัตราส่วน DE ที่ต่ำ และกระแสเงินสดที่มาก ทำให้เราประเมินมีโอกาสที่จะขยายการลงทุนเพิ่ม เติม และ/หรือ ขยายการลงทุนใหม่ๆ

แนะนํา “ซื้อ” ราคาเหมาะสม 8.2 บาท/หุ้น

ประเมินมูลค่าเหมาะสม SAAM (ปี 2565) ด้วยวิธี DCF ได้เท่ากับ 8.2 บาท (WACC 6.8%, Terminal growth 3.5%) โดยคิดเป็นเป้าหมาย Forward PE ปี 2565 = 27 เท่า ยังต่ำกว่าค่าเฉลี่ยหุ้นในกลุ่ม Business solutions ท่ีเฉลี่ยท่ี +28 เท่า ทั้งน้ีเราคำนวณราคาเป้าหมาย โดยอิงการแปลงสภาพ SAAM-W1 ในปี 2565 (Fully diluted) แต่ยังไม่รวมการแปลงสภาพ SAAM-W2 เนื่องจากราคาเป้าหมายท่ีคำนวณได้ยังต่ำกว่าราคาใช้สิทธิท่ี 11 บาท

- Advertisement -