บล.กรุงศรีฯ:
POWER SECTOR – SPPs ยังคงได้รับผลกระทบด้านลบ (NEGATIVE)
- What’s new
PTT เป็นหน่วยงานที่สองที่ต้องแบกรับภาระรองจาก กฟผ.
คณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน (กกพ.) เสนอให้ กฟผ. แบกรับภาระเงินอุดหนุน (1.38 แสนล้านบาท) ในช่วงที่ตรึงเพดานราคาก๊าซ (pool gas) ไว้ที่ 304.79 บาท/mmbtu (PTT คาดไว้ที่ 323.37mm บาท/btu) ดังนั้น PTT จะต้องแบกรับ ต้นทุนในกรณีที่ต้นทุนที่เกิดขึ้นจริงสูงเกินคาดในช่วงเดือนกันยายน-ธันวาคม 2023
- Analysis
SPPs ยังคงได้รับผลกระทบด้านลบแม้ว่าต้นทุนก๊าซจะลดลง
ค่า Ft ตั้งแต่เดือนกันยายนน่าจะลดลง 0.46 บาท/kWh ตามมติครม. ที่ให้ลดค่าไฟฟ้าลงเหลือ 3.99 บาท/kWh ในขณะที่ต้นทุนก๊าซลดลงประมาณ 18.5 บาท/mmbtu ซึ่งผลกระทบสุทธิต่อ SPPs ยังคงเป็นลบ โดยเราประเมินว่า ผลกระทบต่อกำไรปี 2023F จะเป็นลบ แต่จะไม่กระทบกับประมาณการกำไร BGRIM ในปีนี้ของเรา เพราะเราใช้สมมติฐานที่อนุรักษ์นิยมมากกว่า consensus ทั้งนี้ เราคาดว่ากำไรปี 2023F ตาม Bloomberg consensus ของ GPSC และ GULF จะได้รับผลกระทบ 16.5% และ 1.5% ตามลำดับ
คาดว่าจะมีการปรับโครงสร้างราคาก๊าซ (pool gas) เพื่อคงค่าไฟเอาไว้
PTT น่าจะต้องแบกภาระทางด้านกระแสเงินสดประมาณเดือนละ 1 หมื่นล้านบาท หรือรวม 4 หมื่นล้านบาทถึงสิ้นปีนี้ ซึ่งในการที่จะคงค่าไฟฟ้าให้อยู่ต่ำกว่า 4.0 บาท/kWh ในปีหน้า เราคาดว่ากระทรวงพลังงานจะปรับโครงสร้างราคาก๊าซ (pool gas) ซึ่งจะส่งผลกระทบทางลบต่อ PTTGC (ต้นทุนก๊าซที่ใช้เป็น feedstock สูงขึ้น)
- Action/Recommendation
เราชอบ GULF มากที่สุดในกลุ่ม
ราคาหุ้น GULF ที่ย่อลงมาจะเป็นโอกาสให้เข้าซื้อสะสม เนื่องจากบริษัทจะได้รับผลกระทบน้อยที่สุดจากการลดค่าไฟฟ้ารอบนี้ ในขณะที่คาดว่าจะมีปัจจัยกระตุ้นระยะสั้นจากการเซ็นสัญญา PPA กำลังการผลิตไฟฟ้าจากพลังงานหมุนเวียนใน ประเทศรอบที่ 1
