บล.บัวหลวง:
Agro & Food – ราคาน้ำตาลโลกเดือนก.ย. ทำสถิติใหม่สูงสุดในรอบ 12 ปี (NEUTRAL)
สต็อกน้ำตาลของประเทศอินเดียที่อาจจะไม่เพียงพอ บวกกับดีมานด์การบริโภคนํ้าตาลในประเทศอินเดียที่มีแนวโน้มเพิ่มขึ้นในช่วงเทศกาลและพิธีงานแต่งงาน อาจส่งผลให้รัฐบาลอินเดียพิจารณาระงับการส่งออกนํ้าตาลสําหรับในปี 2566/67 นอกจากนี้เรามองว่าอาจจะมีความเสี่ยงต่อการปรับลดประมาณการผลผลิตอ้อยของประเทศไทยสําหรับในปี 2566/67 ลงจากเดิม ราคาหุ้นของ KSL ณ ปัจจุบันยังคงปรับตัวเพิ่มขึ้นได้ช้ากว่าถ้าเทียบกับราคาน้ำตาลโลกที่เพิ่มขึ้นทำสถิติใหม่สูงสุดในรอบ 12 ปี เรายังคงคําแนะนํา “ซื้อเก็งกำไร” สำหรับหุ้น KSL
สต็อกน้ำตาลที่ไม่เพียงพออาจนำไปสู่การห้ามส่งออกน้ำตาลของประเทศอินเดีย
เมื่อวันที่ 8 ก.ย. ที่ผ่านมา รัฐมนตรีอุตสาหกรรมอาหารของประเทศอินเดียได้กล่าวว่า ประเทศอินเดียจะยังคงมีสต็อกน้ำตาลที่เพียงพอสำหรับการบริโภคในช่วงไฮซีซันหรือช่วงเทศกาลที่กำลังจะมาถึง (โดยคาดสต็อกนํ้าตาลที่ 8.5 ล้านตันช่วงต้นเดือนก.ย.) และแนะให้รัฐบาลอินเดียระงับหรือจํากัดการส่งออกน้ำตาล เนื่องจากผลผลิตน้ำตาลของประเทศอินเดียที่จะลดลงในปี 2566/2567 (เนื่องจากภาวะภัยแล้ง) และเมื่อวันที่ 15 ก.ย. ที่ผ่านมา กระทรวงที่ดูแลกิจการผู้บริโภคอาหาร และการจัดจำหน่ายสินค้าในประเทศอินเดีย ได้ให้ความเห็นว่าสต็อกน้ำตาลจํานวน 8.5 ล้านตันถือว่าเพียงพอไปจนถึงต้นฤดูเปิดหีบอ้อยของประเทศอินเดียในช่วงปลายเดือนพ.ย. แต่ไม่ว่าอย่างไรก็ตาม ผู้ค้าน้ำตาลหรือเทรดเดอร์ในประเทศอินเดียกลับแย้งว่า สต็อกน้ำตาลของประเทศอินเดียจริง ณ ปัจจุบันอยู่ในระดับที่ต่ำกว่า 5 ล้านตัน ซึ่งกําลังบ่งบอกว่าอยู่ในระดับที่ไม่เพียงพอต่อการบริโภค
เทศกาลเฉลิมฉลองและเทศกาลงานแต่งงานในประเทศอินเดียจะหนุนอุปสงค์นํ้าตาลให้เพิ่มขึ้น
สมาคมผู้ค้าน้ำตาลในกรุงบอมเบย์กล่าวว่า ราคาน้ำตาลในประเทศอินเดียมีแนวโน้มปรับตัวเพิ่มขึ้นอีกในเร็วๆ นี้ เนื่องจากช่วงเทศกาลเฉลิมฉลองและช่วงเทศกาลงานแต่งงานของชาวอินเดียจะเป็นปัจจัยหนุนดีมานด์การบริโภคนํ้าตาลในอีกช่วง 5-6 เดือนข้างหน้า โดยเทศกาลงานแต่งงานของชาวอินเดีย จะเริ่มต้นตั้งแต่เดือนพ.ย. ไปจนถึงเดือนก.พ. โดยประมาณการว่าได้มีการจัดงานแต่งงานจํานวน 3.2 ล้านงานในช่วงเดือนพ.ย. 2565 ถึงเดือนก.พ. 2566 ในส่วนของผู้ค้าน้ำตาลในประเทศอินเดียได้กล่าวว่าโรงงานน้ำตาลของประเทศอินเดีย ณ ขณะนี้เต็มใจที่จะขายน้ำตาลน้อยลงกว่าในช่วงก่อนหน้า (เนื่องจากผลผลิตอ้อยที่จะเข้าหีบมีแนวโน้มลดลงสําหรับในปี 2566/67) ท่ามกลางสถานการณ์ราคาน้ำตาลในประเทศอินเดียที่แตะระดับสูงสุดในรอบ 6 ปี และผู้ค้าน้ำตาลยังคาดว่าราคาน้ำตาลในประเทศอินเดียมีแนวโน้มที่จะปรับตัวเพิ่มสูงขึ้นไปอีก เนื่องจากสต็อกน้ำตาลในประเทศอินเดียที่อยู่ในระดับต่ำ ณ ปัจจุบัน และอุปสงค์ที่จะเพิ่มขึ้นแรงจากช่วงเทศกาลที่กำลังจะมาถึง โดยภาพรวมเราคาดว่าผลผลิตน้ำตาลของประเทศอินเดียสําหรับในปี 2566/67 มีแนวโน้มลดลง 12% YoY จาก 34 ล้านตันในปี 2565/66 เหลือ 30 ล้านตันในปี 2566/67 ซึ่งมีแนวโน้มต่ำกว่าประมาณการของสมาคมโรงงานน้ำตาลอินเดียที่คาดไว้ที่ 31.7 ล้านตันสำหรับในปี 2566/67
ความเสี่ยงต่อการปรับลดประมาณการผลผลิตอ้อยและน้ำตาลของประเทศไทยสำหรับในปี 2566/67
สำนักงานคณะกรรมการอ้อยและน้ำตาลทรายแห่งประเทศไทย คาดผลผลิตอ้อยของประเทศไทยในปี 2566/67 มีแนวโน้มลดลง 12% YoY (จาก 93.88 ล้านตันในปี 2565/66 เหลือ 83.12 ล้านตันในปี 2566/67) ในขณะที่บริษัท ไทยชูการ์มิลเลอร์ คอร์ปอเรชั่น จำกัด คาดผลผลิตน้ำตาลของประเทศไทยในปี 2566/67 มีแนวโน้มลดลง 14% YoY (จาก 10.5 ล้านตันในปี 2565/66 เหลือ 9 ล้านตันในปี 2566/67) เนื่องจากภาวะภัยแล้งที่เกิดขึ้นจากปรากฏการณ์เอลนีโญ่ เรามองว่าตัวเลขประมาณการของสำนักงานคณะกรรมการอ้อยและน้ำตาลทรายแห่งประเทศไทยสำหรับผลผลิตอ้อยในปี 2566/67 ที่ 83 ล้านตันถือว่าเป็นไปในเชิงบวกมากเกินไป และมองตัวเลขผลผลิตอ้อยของประเทศไทยที่ 75 ล้านตัน (หรือลดลง 20% YoY) และผลผลิตน้ำตาลของประเทศไทยที่ 8.1 ล้านตัน (หรือลดลง 23% YoY) สำหรับในปี 2566/67
ราคาน้ำตาลโลกทำสถิติสูงสุดในรอบ 12 ปีเมื่อวันที่ 19 ก.ย. ที่ผ่านมา
ราคาน้ำตาลโลกปรับตัวเพิ่มขึ้นไปทำสถิติใหม่สูงสุดในรอบ 12 ปีที่ 27.44 เซนต์/ปอนด์เมื่อวันที่ 19 ก.ย. ที่ผ่านมา ก่อนที่จะปรับตัวลดลงไปอยู่ที่ 26.85 เซนต์/ปอนด์เมื่อวันที่ 20 ก.ย. เรามองว่าตลาดยังคงไม่เชื่อ ประเด็นที่หน่วยงานราชการของประเทศอินเดียออกมาพูดเกี่ยวกับสต็อกน้ำตาลของประเทศอินเดียที่ยืนยันว่าเพียงพอ ในขณะที่ตลาดมองว่าตัวเลขสต็อกน้ำตาลจริงอาจจะต่ำกว่านั้นและไม่เพียงพอ เรายังคงมุมมองบวกต่อราคาน้ำตาลโลกว่ามีแนวโน้มปรับตัวเพิ่มขึ้นไปอยู่ในกรอบ 28-35 เซนต์/ปอนด์ ในช่วงครึ่งแรกของปี 2567