วันนี้คาดตลาด “Sideway Down”

แนวรับ 1,503 / 1,490 แนวต้าน 1,515 / 1,522 ยังอยู่ในภาพความกังวล FED จะใช้อัตราดอกเบี้ยระดับสูงยาวนานกว่าที่ตลาดคาดไว้ก่อนหน้า หนุน US-BondYield ขึ้นทำจุดสูงสุดใหม่ทั่วตลาด/ ราคาน้ำมันผันผวนและเริ่มแกว่งออกด้านข้าง / ภายในประเทศไม่มีปัจจัยใหม่ ยังกังวลฐานะทางการคลังของไทย

Our View? “เจ็บและชินไปเอง”

คาดตลาดวันนี้ “แกว่งลงต่อ” มองแนวรับที่บริเวณ 1,503 / 1,490 และแนวต้านที่บริเวณ 1,515 / 1,522 คาดตลาดยังคงได้รับ Sentiment เชิงลบจากตลาดต่างประเทศ จากความกังวลธนาคารกลางสหรัฐ (FED) มีแนวโน้มปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยได้อีกครั้งในช่วงที่เหลือของปีอีกทั้งยังคาด FED จะยังใช้อัตราดอกเบี้ยในระดับสูงต่อไป ยาวนานกว่าที่ตลาดคาด โดยคาดการณ์อัตราดอกเบี้ยนโยบาย (Dot Plot) ในปีนี้ยังอยู่ที่ระดับ 5.625% ขณะที่ Dot Plot ในปี’67 และปี’68 ค่ากลางปรับตัวขึ้นสู่ระดับ 5.125% และ 3.875% ตามลำดับ อีกทั้งเมื่อคืนนี้กระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยตัวเลขผู้ยื่นขอสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์ออกมาอยู่ที่ระดับ 2.01 แสนราย ต่ำกว่าที่ตลาดคาดที่ระดับ 2.25 แสนราย แต่ต่ำสุดตั้งแต่ ม.ค. 66 บ่งชี้ตลาดแรงงานสหรัฐยังคงแข็งแกร่ง เรามองเป็นการเปิดทางให้ FED สามารถคุมเข้มนโยบายทางการเงินได้ต่อ กระตุ้นแรงขายพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐ โดยล่าสุดอัตราผลตอบแทนพันธบัตร (US-Bond Yield) รุ่นอายุ 10 ปี ซึ่งถือเป็นเครื่องมือในการอ้างอิงราคาตราสารหนี้ทั่วโลกเช้านี้อยู่ที่ระดับ 4.49%+/- ทำจุดสูงสุดใหม่ ส่งผลให้ ต้นทุนเงินทุนระยะยาวสูงขึ้นต่อเนื่อง และสะท้อนภาวะ Risk-off ของตลาด คาดจะกดดันทิศทางราคาสินทรัพย์เสี่ยงได้ต่อ

ทางด้านราคาสัญญาน้ำมันดิบล่วงหน้า WTI. ส่งมอบเดือน ต.ค. แกว่งตัวผันผวนปิดที่ระดับ 89.63 ดอลลาร์/บาร์เรล -0.03 ดอลลาร์ (-0.03%) แม้จะได้รับแรงหนุนจากรัสเซียประกาศระงับการส่งออกน้ำมันทั่วโลกเป็นการชั่วคราว เพื่อรักษาเสถียรภาพของน้ำมันภายในประเทศ หลังเผชิญภาวะขาดแคลนน้ำมันในช่วงก่อนหน้า อย่างไรก็ตาม เรายังมองการส่งสัญญาณใช้นโยบายดอกเบี้ยในระดับสูงต่อไปของ FED คาดจะกระตุ้นความกังวลเศรษฐกิจสหรัฐ-โลกชะลอตัวลง และอาจส่งผลถึงอุปสงค์น้ำมันอ่อนแอลงได้ กดดันทิศทางหุ้นในกลุ่มพลังงานอ่อนตัวลงถ่วงตลาดได้เพิ่มเติม

สําหรับปัจจัยภายในประเทศ เรามองยังไม่มีปัจจัยใหม่เข้าสนับสนุนการฟื้นตัวขึ้น ขณะที่คาดว่าตลาดยังมีปัจจัย Overhang จากประเด็นแหล่งเงินทุนของการออกนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจ โดยเฉพาะดิจิทัลวอลเล็ต 10,000 บาท ทั้งนี้เรายังมีความกังวลเกี่ยวกับการออกนโยบายดังกล่าวคาดจะส่งผลให้ฐานะการคลังของประเทศอ่อนแอลง คาดระดับหนี้ของรัฐบาลจะสูงขึ้น โดยเราเห็นแรงขายพันธบัตรไทยต่อเนื่อง ล่าสุดอัตราผลตอบแทนของพันธบัตรรัฐบาลไทยรุ่นอายุ 10 ปีอยู่ที่ระดับ 3.16%+/- จากความกังวลในการออกพันธบัตรมากขึ้นเพื่อระดมทุนในช่วงปีหน้า คาดกดดันทิศทางตลาดหุ้นไทยในมุมมองเชิงเปรียบเทียบอัตราผลตอบแทนของสินทรัพย์เสียง/สินทรัพย์ปลอดภัย ขณะที่แนวทางในการที่กระทรวงการคลังอาจลดสัดส่วนการถือหน่วยลงทุนในกองทุนวายุภักษ์เพื่อหางบประมาณสำหรับการ ออกมาตรการดังกล่าว แม้ยังมีความไม่แน่นอน แต่คาดเป็นปัจจัย Overhang หุ้นในกลุ่มที่กองทุนวายุภักษ์ถืออยู่ได้เช่นกันอาทิ (PTT, SCB, TTB, KTB และ BCP) รวมทั้งยังเป็นปัจจัยกดดัน-จำกัด Upside ของตลาดหุ้นไทยได้ต่อ อีกทั้งค่าเงินบาทยังอยู่ในแนวโน้มอ่อนค่าเช้านี้อยู่ที่ระดับ 36.10 บาท/ดอลลาร์สหรัฐ+/- มองเป็นจิตวิทยาเชิงลบต่อทิศทางตลาดหุ้นไทย ขณะที่ Valuation ของตลาดหุ้นไทยยังตึงตัวจากคาดการณ์ EPS ล่าสุดจาก Bloomberg Consensus ยังอยู่ในระดับต่ำกว่า 90.0+/- ซื้อขายที่ Fwd PE ราว 17.0 เท่า+/- สูงกว่าระดับ -0.5 S.D ที่ 16.5 เท่า เรามองยังเป็นระดับที่ตลาดยังไม่ค่อยมีความสนใจมากนัก

ธีมการลงทุน “Selective Play”

หุ้นแนะนําวันนี้ “INTUCH”

  • เรามอง INTUCH มีความน่าสนใจเพิ่มข้ึนจากความผันผวนของ ตลาดหุ้นไทยในฐานะท่ีINTUCHเปน็ หุ้นในกลุ่มDefensive Stock โดย Bloomberg Consensus คาดการณ์ Div. Yield ปี’66 อยู่ท่ีระดับ 4.7%+/- ขณะท่ีคาดว่าผลประกอบการ 2H’66 เติบโตขึ้นได้ดีจากกาไรของ ADVANC ตามการเข้าสู่ช่วงฤดู ท่องเที่ยวปลายปี
  • ทางเทคนิค ราคาฟ้นื ตัวข้ึนทาจุดสูงสุดใหม่ในภาพระยะสั้นยืน เหนือ EMA10 วัน MACD และ SSTO ให้สัญญาณซื้อ
    แนะนา “ทยอยซ้ือสะสม”
  • กลยุทธ์ ทยอยชื้อสะสม แนวรับ 73.50 / 72.25 Target 77.00 / 80.00 Stop <71.50

- Advertisement -