บล.ฟิลลิป:

ที.เค.เอส. เทคโนโลยี – TKS 2H66 จะดีกว่า 1H66

Key Point

2H66 คาดดีกว่า 1H66 ทั้งจากของ TKS ที่เป็น high season และได้งานแสตมป์ ต้นทุนแนวโน้มลดลงจากค่าไฟฟ้าและราคาน้ำมันที่ลดลง และ SYNEX ซึ่งเป็นบริษัทร่วม จาก high season ของงานโครงการรัฐและเอกชน การทยอยเปิดตัวสมาร์ทโฟนรุ่นใหม่ ๆ ของค่ายผู้ผลิตทั้ง Apple Samsung Honor Huawei แต่ด้วย 1H66 ที่กำไรอ่อนตัวกว่าคาด จึงปรับกำไรลง และ คำแนะนำลงเป็น “ถือ” จาก “ซื้อ” ราคาพื้นฐาน 8.95 บาท

1H66 กำไรลดลงทั้งจากธุรกิจของบริษัทและบริษัทร่วม

1H66 รายได้โต 4.2% y-y ที่ 786 ล้านบาท ซึ่งโตจากกลุ่ม Growth Business จากการส่งออก Security Label และซอฟแวร์ โต 39% เป็น 107 ล้านบาท ในขณะที่ธุรกิจหลักเดิม Security Solution โต 0.3% อัตรากำไรขั้นต้นลดลงจาก 31.7% เป็น 29.6% จากต้นทุนวัตถุดิบและค่าไฟฟ้าที่เพิ่มขึ้น ประกอบกับรับรู้ส่วนแบ่งกำไรจากบริษัทร่วม 55.5% ซึ่งเป็นกำไรหลักของ TKS ตามกำไรของ SYNEX ที่ลดลง จากภาวะเงินเฟ้อทำให้มีการชะลอการลงทุน เงินบาทอ่อนค่า และอัตราดอกเบี้ยขึ้น ทำให้กำไรสุทธิของ TKS -48.5% y-y ที่ 146 ล้านบาท

2H66 แนวโน้มดีกว่า 1H66 ทั้งของ TKS และ SYNEX

2H66 แนวโน้มดีกว่า 1H66 โดยมี Backlog ที่จะรับรู้ใน 2H66 ราว 700 ล้านบาท และได้งาน Project แสตมป์คาดเป็นของ 7-11 ซึ่งกลับมาทำใหม่ในช่วง 24 ส.ค.- 23 พ.ย. 66 หลังจากหายไปในช่วงโควิด ซึ่งมาชดเชยปีก่อนที่ได้งานพิมพ์ไปรษณียบัตรทายผลฟุตบอลโลกได้บางส่วน และมีอัตรากำไรขั้นต้นดี ซึ่งปกติ 2H จะเป็น high season ยอดขายจะดีกว่า 1H อีกทั้งต้นทุนมีแนวโน้มลดลง จากราคาวัตถุดิบที่ลดลงจากครึ่งปีแรก และค่าไฟฟ้าที่ลดลงจากนโยบายรัฐบาลเป็น 3.99 บาท/หน่วยในงวด ก.ย.-ธ.ค. 2566 จากเดือน ม.ค.-เม.ย. ที่ 5.69 บาท และ พ.ค.-ส.ค. ที่ 4.70 บาท และนโยบายลดราคาน้ำมันก็เป็นผลดีต่อต้นทุนในการขนส่ง จะทำให้อัตรากำไรขั้นต้นของ 2H66 ดีขึ้น และ SYNEX เป็น high season ในสินค้ากลุ่มพาณิชย์จากโครงการของภาคเอกชนและรัฐบาลเริ่มกลับมาลงทุน และกลุ่มสมาร์ทโฟนที่ทยอยเปิดตัวโทรศัพท์มือถือรุ่นใหม่ อย่าง iPhone 15 ที่เพิ่งเปิดจองไปเมื่อ 15 ก.ย. เป็นปัจจัยหนุนต่อเนื่องไป 4Q66 รวมถึงค่ายอื่น ๆ ทั้ง Honor Samsung Huawei ธุรกิจเกมมิ่งยังมีแนวโน้มเติบโตต่อเนื่อง โดย SYNEX ตั้งเป้ารายได้ปีนี้ที่ 4 หมื่นล้านบาท จาก 1H66 ที่มีรายได้ 1.76 หมื่นล้าน บาท ทำให้ใน 2H66 กำไรของ SYNEX คาดจะดีกว่าใน 1H66 ที่มีกำไร 223 ล้านบาท

ยังมองหาการลงทุนต่อยอดธุรกิจ

บริษัทพยายามลดการพึ่งพิงธุรกิจดั้งเดิม ผ่านการลงทุนธุรกิจอื่นๆ เพื่อเสริมการเติบโตให้แข็งแรงมากขึ้น ซึ่งที่ผ่านมาได้มีการลงทุนในหุ้น MSC ที่ 9.19% AIT ที่ 3.37% และ SABUY ที่ 4.18% ทำให้ในครึ่งปีแรกรับรู้เงินปันผลที่ 34 ล้านบาท และอาจพิจารณาลงทุนเพิ่มเติม นอกจากนี้ยังมีบริษัทย่อย “เน็กซ์ เวนเจอร์ส” ที่จะลงทุนใน Tech Startup ที่ผ่านมาลงทุนใน Dezpax สตาร์ทอัพด้านบรรจุภัณฑ์อาหาร-เครื่องดื่ม ในปี 2567 น่าจะมีความชัดเจนในเรื่องของการลงทุนเพิ่ม

ปรับคำแนะนำลงเป็น “ถือ” ราคาพื้นฐานที่ 8.95 บาท

แม้ 2H66 การดำเนินงานจะดีขึ้นจาก 1H66 แต่ 1H66 กำไรอ่อนตัวลงกว่าที่คาดไว้ทั้งของบริษัทและบริษัทย่อย จึง ปรับคาดการณ์รายได้ลงเป็น 1,645 ล้านบาท และกำไรสุทธิที่ 326 ล้านบาท อิง P/E 14 เท่า ราคาพื้นฐานปรับเป็น 8.95 บาท ปรับคำแนะนำลงจาก “ซื้อ” เป็น “ถือ”

ความเสี่ยง

1. ความเสี่ยงจากเศรษฐกิจทั้งภายในและภายนอกประเทศ

2. ความเสี่ยงจากการลงทุนในบริษัทอื่น

3. ความเสี่ยงจากการขาดสภาพคล่องจากการลงทุนระยะยาวในบริษัทอื่น

- Advertisement -