บล.บัวหลวง:

Automotive – ภาพกลุ่มออโต้ไม่ดีจริงหรือไม่? (OVERWEIGHT)

การส่งออกยังคงแข็งแกร่ง หนุนจากอุปสงค์โลกที่ถูกกักไว้ซึ่งทะลักออกมา แม้ว่ายอดขายในประเทศในปัจจุบันจะอ่อนแอ แต่เราคาดจะเห็นตัวเลขที่แข็งแกร่งขึ้นในอนาคต หนุนจากมาตรการกระตุ้นจากภาครัฐและความเชื่อมั่นของผู้บริโภคที่แข็งแกร่ง

ภาพในช่วงที่เหลือของปีดูดี

อิงจาก Morgan Stanley อุปสงค์โลกต่อรถยนต์ที่ถูกกักเริ่มฟื้นตัว และจะยังคงหนุนอุตสาหกรรมยานยนต์ไปจนถึงช่วงต้นไตรมาส 1/67 ดังนั้นเราคาดจะเห็นยอดส่งออกรถยนต์ที่แข็งแกร่งไปจนถึงสิ้นปี โดยเราคาดยอดส่งออกไตรมาส 4/66 จะทรงตัว YoY อิงจากฐานที่สูง ในทางตรงกันข้าม การผลิตเพื่อจําหน่ายในประเทศอาจลดลง เนื่องจากการนําเข้ารถยนต์ไฟฟ้าจํานวนมาก และเนื่องจากอัตราดอกเบี้ยที่สูงขึ้น มาตรฐานการอนุมัติสินเชื่อเช่าซื้อที่เข้มงวดขึ้น และความเชื่อมั่นของผู้บริโภคที่ต่ำส่งผลให้ยอดขายลดลง ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภค (CCI) ของประเทศไทยอยู่ที่ 53.4 ในเดือน ส.ค. เพิ่มขึ้นเล็กน้อยจาก 53.3 ในเดือน ก.ค. แต่ปัจจุบันรัฐบาลใหม่ชัดเจนแล้วและมีแผนกระตุ้นเศรษฐกิจและการพักชำระหนี้สำหรับเกษตรกร ดังนั้นเราจึงคาดว่า CCI และการใช้จ่ายของผู้บริโภคจะปรับตัวอย่างมากในอีกไม่กี่เดือนข้างหน้า

สังเกตว่าการผลิตรถยนต์มีแนวโน้มลดลงในไตรมาส 4/66 เนื่องจากมีวันหยุดนักขัตฤกษ์เป็นจํานวนมาก

โครงการ EV 3.0 กำลังขยับไปสู่ 3.5

นโยบายส่งเสริมรถยนต์ไฟฟ้า (EV3.0) ของกระทรวงการคลัง กำหนดให้ผู้ผลิตรถยนต์ยกเว้นภาษีบริษัท รวมถึงสิ่งจูงใจอื่นๆ ต้องผลิตรถยนต์ในประเทศไทย 1 คันสําหรับการนำเข้า (CBU) แต่ละคันภายในปลายปี 2567 (อัตราส่วน 1:1) ในกรณีที่ผู้ผลิตรถยนต์ไฟฟ้าไม่สามารถทำได้ตามกำหนดดังกล่าว ตั้งแต่ปี 2568 เป็นต้นไป ผู้ผลิตจะต้องบรรลุอัตราส่วนการผลิตในประเทศต่ออัตราส่วนการนําเข้า CBU ที่ 1.5: 1 กระทรวงมีแพ็คเกจเงิน อุดหนุน EV 3.5 เบื้องต้น ซึ่งคาดว่าจะประกาศในปี 2567 ซึ่งจะมีเงินอุดหนุนจํานวนน้อยลงสําหรับช่วงปี 2567-2568 และมีแนวโน้มที่จะกําหนดการผลิตในประเทศต่ออัตราส่วนการนําเข้า CBU 1:2 สําหรับปี 2569 และ 1:3 สําหรับ ปี 2570

BYD Neta AION (บริษัทในเครือของ GAC) Changan GWM และ Wulling กําลังตั้งโรงงานประกอบในประเทศไทย โดยกําหนดจะให้บริการเชิงพาณิช ในปี 2567 และ 2568 เพื่อให้ผ่านคุณสมบัติสำหรับโปรแกรมส่งเสริมการขาย EV 3.0 ซึ่งถือเป็นผลบวกต่อผู้ผลิตชิ้นส่วนรถยนต์ของไทย โดยเฉพาะ AH แนวโน้มปี 2567 อุปสงค์ต่อรถยนต์ทั่วโลกน่าจะกลับมาเป็นปกติในปีหน้า หากตลาดหลักเข้าสู่ภาวะถดถอย ปริมาณการส่งออกอาจถูกกดดัน แต่เราคาดว่ามาตรการกระตุ้นของภาครัฐจะทําให้ยอดขายในประเทศแข็งแกร่งขึ้น และนโยบายการส่งเสริม EV ของรัฐบาลเพื่อผลักดันยอดขาย EV เชิงพาณิชย์ในประเทศ รวมถึงรถบัส นอกจากนี้ อิงมาตรฐาน EURO V (เริ่มตั้งแต่เดือน ม.ค. 2567) น่าจะเร่งการเปลี่ยนไปใช้รถยนต์ไฟฟ้าในกลุ่มแท็กซี่และผู้ประกอบการรถยนต์พาณิชย์ขนาดเล็ก

ตัวที่เราชอบมากที่สุดสำหรับไตรมาส 4/66 และปี 2567 คือ NEX ซึ่งจะเติบโตอย่างรวดเร็วที่สุดในกลุ่มยานยนต์ที่เราให้คำแนะนำ สอดคล้องกับการเปลี่ยนรถยนต์สันดาปเพื่อการพาณิชย์ในประเทศไทย (ส่วนใหญ่เป็นดีเซล) ไปสู่ EV

- Advertisement -