DailyView

เมื่อคืนที่ผ่านมา สหรัฐได้เปิดเผยยอดค้าปลีกปรากฏว่าเติบโต 0.7%MoM ดีกว่านักวิเคราะห์คาดการณ์ว่าจะหดตัว 0.7% MoM ส่งผลให้อัตราผลตอบแทน พันธบัตรสหรัฐ 10 ปี ปรับตัวขึ้นมาเป็น 1.33% จากวันก่อนหน้าที่ 1.31% สะท้อนมุมมองเชิงบวกต่อเศรษฐกิจของสหรัฐจากนักลงทุน อย่างไรก็ตาม การปรับตัวขึ้นของอัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐเป็นปัจจัยกดดันตลาดหุ้น Dow Jones เนื่องจากตัวเลขเศรษฐกิจที่ดีจะเป็นแรงหนุนให้ FED ถอนสภาพคล่อง รวมถึงปรับขึ้นดอกเบี้ย โดยจากนี้แนะติดตามผลประชุม FED ในวันที่ 21–22 ก.ย. ส่วนผลกระทบต่อ SET INDEX เชื่อว่าจำกัด เนื่องจากปัจจุบันเม็ดเงินจากต่างชาติมิได้เข้ามาตลาดหุ้นไทยแต่อย่างใด ขณะเดียวกัน นักลงทุนต่างชาติเป็นฝั่งขายสุทธิต่อเนื่อง จนทำให้ซื้อสุทธิสะสมทำระดับต่ำสุดในประวัติการณ์ สำหรับผลกระทบต่ออุตสาหกรรม หลังจากตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐออกมาดี เป็นผลให้ Dollar Index เริ่มกลับมาแข็งค่า และกดดันเงินบาทอ่อนค่า ระยะสั้นเป็นปัจจัยหนุนต่อกลุ่มส่งออก (ASIAN HANAKCE TU) โดยเฉพาะ TU ที่รับผลบวก ทั้งเศรษฐกิจสหรัฐดีขึ้นเนื่องจากมีกิจการอยู่ในสหรัฐ รวมไปถึงประโยชน์จากบาทอ่อนค่า ส่วนปัจจัยอื่นๆภายในประเทศยังไม่มีอะไรโดดเด่น มอง SET INDEX วันนี้ 1627 – 1640

กลยุทธ์การลงทุนระยะสั้นแนะนำส่งออก (ASIAN HANA KCE TU) ผลบวกจากเงินบาทอ่อนค่า ส่วนระยะกลาง – ยาว ยังแนะสะสม Domestic Play ที่จะเตรียมรับปัจจัยบวกจากการค่อยๆทยอยเปิดเมือง , เปิดประเทศ อาทิ ค้าปลีก (BJC CRCCPALL) ศูนย์การค้า (CPN) รถไฟฟ้า (BTS BEM) ร้านอาหาร (M) ท่องเที่ยว (AOT)

Stock Pick

KCE (ซื้อ / ราคาเป้าหมาย 103 บาท) แนวโน้มอัตรากำไรขยายตัวใน 3Q21 ตามการรับรู้ผลประโยชน์จากการปรับขึ้นราคาเต็มไตรมาส แนวโน้มค่าเงินบาทที่อ่อนค่า และการประหยัดค่าใช้จ่ายการขายและบริหาร

TU (ซื้อ/ราคาเป้าหมาย 25 บาท) แนวโน้มยังดูดีโดยเฉพาะผลดีจากค่าเงินบาทที่อ่อนค่าลง ส่วนตลาดต่างประเทศยังคงฟื้นตัวได้ต่อ แต่ต้องรอดูถึงการเพิ่มกำลังการผลิตของโรงงานที่สงขลา หลังจากมีการปิดไปในช่วงปลายเดือน มิ.ย. ขณะที่ Red Lobster กลับมาเปิดได้ทั้งหมดแล้ว

- Advertisement -