ตลาดหุ้นวานนี้
SET Index ร่วง 15 จุด (-1%) ปิดที่ระดับ 1,482 จุด ดัชนีผันผวนแรงในช่วงท้าย ตลาดคาดเป็นผลจากการเปลี่ยนซีรีย์ในกระดาน TFEX ซึ่งจะยึดเอาวันทำการ 1 วัน ก่อนวันซื้อขายสุดท้ายของไตรมาสในการปิดหรือเปลี่ยนสัญญา
แนวโน้มตลาดหุ้นวันนี้
ประเมิน SET อ่อนตัว 1,475 / 1,470 จุด เนื่องจากขาดปัจจัยใหม่สนับสนุนอีกทั้ง ภาวะตลาดยังคงถูกแรงกดดันจากความกังวล FED คงดอกเบี้ยระดับสูงเพื่อสกัด เงินเฟ้อ, ความเสี่ยง Shutdown ของหน่วยงานรัฐบาลสหรัฐที่จะครบกำหนด 30 ก.ย. และราคาน้ำมันดิบที่อ่อนตัวลงซึ่งเป็นลบต่อทิศทาง Fund flow อย่างไรก็ ตามคาดว่าดัชนีจะสลับรีบาวด์ขึ้นได้จากภาวะ Oversold ตามสัญญาณเทคนิค
กลยุทธ์การลงทุน: Selvectie buy
- TU ITC AAI ASIAN CFRESH MEGA KCE HANA อานิสงส์เงินบาทอ่อนค่า
- ADVANC INTUCH BEM BTS BDMS BCH กลุ่ม Defensive ช่วงตลาดพักตัว
หุ้นแนะนำวันนี้
BDMS (ปิด 26.50 ซื้อ/เป้า 37 บาท) คาดกำไรจากการดำเนินงานจะพุ่งทำสถิติสูงสุดเป็นประวัติการณ์ที่ระดับ 3.7 พันล้านบาทเพิ่มขึ้น 19%qoq จากการเพิ่มขึ้นทั้งผู้ป่วยในและต่างประเทศโดยเฉพาะผู้ป่วยในได้ผลบวกจากการระบาดของโรคต่างๆ อาทิ ไข้เลือกออก, RSV และมือเท้าปากในเด็ก
TKN (ปิด 12.90 ซื้อ/เป้า IAA Consensus 15 บาท) เป็นอีกหนึ่งหลักทรัพย์ ที่คาดว่าจะได้ประโยชน์จากการเพิ่มขึ้นของกลุ่มนักท่องเที่ยวจากประเทศจีน โดยก่อน Covid-19 TKN มีสัดส่วนรายได้จากนักท่องเที่ยวจีนประมาณ 20- 25%
บทวิเคราะห์วันนี้
BH (ปิด 267 ซื้อ/เป้า 282 บาท), MEGA (ปิด 44 ซื้อ/เป้า 54 บาท)
ประเด็นสำคัญวันนี้
(+/-) เจอโรม พาวเวล ไม่ได้ส่งสัญญาณเกี่ยวกับทิศทางดอกเบี้ย: การประชุมแบบทาวน์ฮอลล์ร่วมกับบรรดานักวิชาการ นายเจอโรม พาวเวล ประธานธนาคาร กลางสหรัฐ (เฟด) ไม่ได้ส่งสัญญาณใด ๆ เกี่ยวกับทิศทางอัตราดอกเบี้ย โดยกล่าวเพียงว่าการทำให้สาธารณชนมีความเข้าใจเกี่ยวกับบทบาทและภารกิจของเฟดนั้น ถือเป็นสิ่งสำคัญ โดยเฉพาะเฟดจะให้ข้อมูลเพื่อประกอบการตัดสินใจด้านการใช้จ่ายและการลงทุนทั้งในวันนี้และในอีกหลายเดือนข้างหน้า
(+/-) คืนนี้ติดตามตัวเลขเงินเฟ้อ (PCE) ของสหรัฐเพื่อจับสัญญาณดอกเบี้ย ของเฟด: เบื้องต้น Consensus คาด Headline PCE จะเพิ่มขึ้นเป็น 3.5% จาก 3.3% ในเดือน ส.ค. และ Core PCE จะลดลงแตะระดับ 3.9% จาก 4.2% ใน เดือน ส.ค. (หากตัวเลขลดลงและต่ำกว่าที่ตลาดคาดจะเป็นบวกต่อ Sentiment การลงทุน)
(+/-) จับตารัฐสภาสหรัฐแก้ปัญหา US Shutdown มีกำหนด Deadline 30 ก.ย.นี้: สภาคองเกรส (สภาผู้แทนฯ + วุฒิสภา) สหรัฐจะต้องผ่านร่างงบประมาณ ชั่วคราวให้ทันและส่งต่อให้ประธานธิบดี โจ ไบเดน ลงนามเป็นกฎหมายภายใน วันที่ 30 ก.ย.นี้ ไม่เช่นนั้นสหรัฐจะต้องปิดหน่วยงานของรัฐบาลสหรัฐบางส่วน (US Shutdown) ในวันที่ 1 ต.ค.นี้เป็นต้นไป
ข่าวในประเทศและต่างประเทศ
สรุปข่าวเศรษฐกิจในประเทศและต่างประเทศ
ไทย
(+/-) ม.หอการค้าไทย ลดคาดการณ์ GDP ปีนี้เหลือ 3% จากเดิมคาดโต 3.6% และคาด GDP ปีหน้าจะขยายตัว 4.5-5% โดยคาดการณ์จํานวนนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติในปีนี้ประมาณ 29 ล้านคนและเพิ่มเป็น 35 ล้านคนในปีหน้า
(-) ดัชนีผลผลิตอุตสาหกรรม (MPI) เดือนส.ค. 66 อยู่ที่ระดับ 91.85 ลดลง 7.53%YoY ส่งผลให้ช่วง 8 เดือนปี 66 อยู่ที่ระดับ 94.67 หดตัวเฉลี่ย 4.95%
สหรัฐ
(+/-) GDP ไตรมาส 2/2566 ที่ขยายตัว 2.1% สอดคล้องกับการคาดการณ์ของนักวิเคราะห์
(+) ผู้ยื่นขอสวัสดิการว่างงานครั้งแรกเพิ่มขึ้น 2,000 ราย สู่ระดับ 204,000 รายในสัปดาห์ที่แล้ว แต่ต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 214,000 ราย
(-) สมาคมการเดินทางแห่งสหรัฐ (U.S. Travel Association) ประเมินว่าการชัตดาวน์จะสร้างความเสียหายต่ออุตสาหกรรมการเดินทางของสหรัฐเป็นจํานวนมากถึง 140 ล้านดอลลาร์ต่อวัน
ยุโรป
(-) เยอรมนี – สถาบันเศรษฐกิจ 5 แห่งคาด GDP ของเยอรมนีจะหดตัวลง 0.6% ในปี 2566 จาก 0.3% เนื่องจากอัตราดอกเบี้ยที่สูงขึ้นทําให้เศรษฐกิจได้รับผลกระทบ และอัตราเงินเฟ้อท่ีสูงทําให้การบริโภคลดลง
เอเชีย
(-) จีน – มิตซูบิชิ มอเตอร์ส บริษัทผลิตยานยนต์จากญี่ปุ่น ได้ตัดสินใจยุติการผลิตรถยนต์ในประเทศจีนและกําลังหารือเรื่องการถอนการผลิตออกจากจีนกับบริษัทกว่างโจว ออโตโมบิล กรุ๊ป (Guangzhou Automobile Group GAC) ซึ่งเป็นหุ้นส่วนร่วมทุนในจีนของมิตซูบิชิ
(-) จีน – ตลาดหุ้นฮ่องกงประกาศระงับการซื้อขายหุ้นบริษัทไชน่า เอเวอร์แกรนด์ ซึ่งเป็นบริษัทอสังหาริมทรัพย์ของจีนพร้อมด้วยบริษัท