Daily Strategy: ลึกสุดใจ

ตลาดหุ้นวานนี้

SET Index ร่วง 22 จุด (-1.51%) ปิดที่ระดับ 1,447 จุด Fund flow ต่างชาติไหลออก ค่าเงินบาทอ่อนค่า กดดันหุ้น Big Cap นำโดยกลุ่มน้ำมันและปิโตรฯ ร่วงแรง หลังน้ำมันดิบในตลาดโลกย่อตัว

แนวโน้มตลาดหุ้นวันนี้

ประเมิน SET อ่อนตัวแนวรับ 1,430 – 1,440 จุด หลังตัวเลขเปิดรับสมัครงานของ สหรัฐสูงกว่าคาดโดยพุ่งขึ้นเกือบ 700,000 ตำแหน่ง บ่งบอกถึงตลาดแรงงานที่ยังแข็งแกร่ง จึงคาดว่า FED จะปรับขึ้นและคงดอกเบี้ยระดับสูงเป็นเวลานาน ส่งผลให้ค่าเงิน USD และ US bond yield พุ่งขึ้นซึ่งเป็นลบต่อกระแส Fund flow ต่างชาติ และภาวะการลงทุน จึงแนะนำรอซื้อช่วงอ่อนตัวแบบ Selective buy เช่นเดิม

กลยุทธ์การลงทุน: Selvectie buy

  • TU ITC AAI ASIAN CFRESH MEGA KCE HANA อานิสงส์เงินบาทอ่อนค่า
  • BBL SCB KBANK KTB BLA TLI อานิสงส์ US bond yield ดีดตัวขึ้น
  • ADVANC INTUCH BEM BTS BDMS BCH กลุ่ม Defensive ช่วงตลาดพักตัว

หุ้นแนะนำวันนี้

  • CHG (ปิด 3.28 ซื้อ/เป้า 3.50 บาท) คาดมีกำไรสุทธิ 3Q23 ที่ 243 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 18%qoq จากแรงหนุนของจำนวนผู้ป่วยในประเทศที่สูงขึ้นตามการแพร่ระบาดของโรคต่างๆ อาทิ ไข้เลือดออก, ไข้หวัดใหญ่, มือเท้าปากในเด็ก
  • MEGA (ปิด 44 ซื้อเป้า 54 บาท) ได้ประโยชน์จาก Mega trend ของสังคมผู้สูงวัย และเทรนด์รักสุขภาพ หนุนยอดขายและรายได้โตต่อเนื่องระยะสั้นได้ ประโยชน์จากบาทอ่อนค่า เนื่องจาก MEGA มีสัดส่วนรายได้จากต่างประเทศ 80% ของรายได้รวม

บทวิเคราะห์วันนี้

HMPRO, WHART, Thailand Strategy

ประเด็นสำคัญวันนี้

(-) ดาวโจนส์ร่วงแรง กังวลเฟดขึ้นดอกเบี้ยหลังข้อมูลตลาดแรงงานแข็งแกร่ง: ดาวโจนส์ลดลง 431 จุด ( -1.29%) ปิดที่ 33,002 จุด หลังตัวเลขการเปิดรับสมัครงาน (JOLTS) เพิ่มขึ้น 700,000 ตำแหน่ง สู่ระดับ 9.61 ล้านตำแหน่งในเดือน ส.ค. สูงกว่าที่ Consensus คาดไว้ที่ 8.8 ล้านตำแหน่ง ปัจจัยนี้อาจจะผลักดันให้เฟดเดินหน้าขึ้นอัตราดอกเบี้ยอีกครั้งในเดือน พ.ย.

(-) กลุ่มท่องเที่ยวเหตุยิงกันในห้างพารากอนกระทบ Sentiment: อิงจากเหตุระเบิดราชประสงค์เมื่อปี 2015 พบว่าหลังเกิดเหตุ 1 วัน SET ลดลง 2.6%, หุ้นใน กลุ่มท่องเที่ยวลดลงเฉลี่ย 9% โดยมี CENTEL ลดลงมากสุด 12.6% อย่างไรก็ตาม SET และหุ้นท่องเที่ยวใช้เวลาประมาณ 2 เดือนกลับสู่ระดับราคาเดิม โดยมี MINT ฟื้นตัวเร็วสุดภายใน 1 สัปดาห์ (มีสัดส่วนรายได้จากต่างประเทศด้วย จึงได้รับผลกระทบจำกัดสุด) หากราคาหุ้นร่วงแรงยังมองเป็นโอกาส ซื้อ

(-) กลุ่มค้าปลีกน้ำมันมีประเด็นลบ รัฐเตรียมแก้กฎหมายควบคุมค่าการตลาด: วานนี้ รมว.พลังงานร่วมหารือหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเตรียมแก้ไขกฎหมายใหม่ ให้อำนาจกระทรวงพลังงานควบคุมค่าการตลาดน้ำมันทุกประเภทเรามีมุมมองลบต่อ ข่าวดังกล่าวเพราะการออกกฎหมายจะต้องปฏิบัติตามต่างจากอดีตที่ขอความร่วมมือเท่านั้น ทั้งนี้ทุกๆ 20 สตางค์ของค่าการตลาดที่ลดลงจะกระทบคาดการณ์กําไรบางจากประมาณ 9.7%, OR 7.4% และ PTG 18%

ข่าวในประเทศและต่างประเทศ

สรุปข่าวเศรษฐกิจในประเทศและต่างประเทศ

ไทย

(+) จํานวนนักท่องเท่ียวต่างชาติรายสัปดาห์ (25 ก.ย. – 1 ต.ค. 2023) มีจํานวน 552,419 คน เพิ่มขึ้น 14.75%wow สูงสุดในรอบ 6 สัปดาห์, ส่วนนักท่องเที่ยวจีนมีจํานวน 106,472 คน เพิ่มขึ้น 72.49%wow ทําสถิติสูงสุดในปีนี้

(-) กลุ่มท่องเที่ยวได้ sentiment เชิงลบจากเหตุกรากยิงที่สยามพารากอน

(+) ธนาคารกสิกรและธนาคารกรุงศรี ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเงินฝากและอัตราดอกเบี้ยสินเช่ือ มีผล 4 ต.ค. และ 6 ต.ค.

(+/-) นายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค รองนายกรัฐมนตรีและรมว.พลังงาน ร่วมหารือเพื่อพิจารณาแนวทางการดูแลราคาน้ํามันกลุ่มเบนซิน

สหรัฐ

(+) การเปิดรับสมัครงานเดือนส.ค. พุ่งเกือบ 700,000 ตําแหน่ง สู่ 9.61 ล้านตําแหน่ง สูงสุดตั้งแต่เดือนเม.ย. และสูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดไว้ที่ 8.8 ล้านตําแหน่ง

ยุโรป

(-) รัสเซีย – ค่าเงินรูเบิลทรุดตัวลงหลุดระดับ 100 รูเบิล/ดอลลาร์ โดยถูกกดดันจากการไหลออกของเงินตราต่างประเทศ รวมทั้งการหดตัวของดุลการค้ารัสเซีย

(+) ตุรกี – เตรียมเปิดท่อส่งน้ํามันดิบจากอิรักในสัปดาห์นี้ หลังจากที่ถูกปิดเป็นเวลา 6 เดือน

เอเชีย

(+/-) ออสเตรเลีย – ธนาคารกลางมีตคิ งอัตราดอกเบ้ียนโยบายไว้ที่ระดับ 4.1% ตามเดิม ตามที่ตลาดคาดไว้ นับเป็นการคงอัตราดอกเบี้ยเป็นคร้ังท่ี 4 ติดต่อกัน

- Advertisement -