วันนี้คาดตลาด “แกว่งลงก่อน”

แนวรับ 1,440 / 1,430 แนวต้าน 1,450 / 1,460 Sentiment ลบจากตัวเลขแรงงานสหรัฐแข็งแกร่ง กระตุ้น FED ใช้อัตราดอกเบี้ยในระดับสูงต่อไป หนุน US-Bond Yield เร่งตัวขึ้นแรงทำจุดสูงสุดใหม่ คาดยังกดดันทิศทางหุ้นไทยได้อยู่ แนวรับสำคัญรอบนี้เราประเมิน 1,430

Our View? “รอคอยความรักความเมตตา”

คาดตลาดวันนี้ “แกว่งลงก่อน” มองแนวรับที่บริเวณ 1,440 / 1,430 และแนวต้านที่บริเวณ 1,450 / 1,460 เมื่อคืนนี้สำนักงานสถิติของกระทรวงแรงงานสหรัฐ รายงานตัวเลขผลสำรวจการเปิดรับสมัครงานและอัตราการหมุนเวียน ของแรงงาน (JOLTS) ออกมาอยู่ที่ระดับ 9.61 ล้านตำแหน่ง มากกว่าที่ตลาดคาดการณ์ค่อนข้างมาก สะท้อนอุปสงค์ตลาดแรงงานสหรัฐยังคงแข็งแกร่งและทำให้ตลาดแรงงานสหรัฐถึงตัวต่อไป เรามองเป็นการเปิดโอกาสให้ธนาคารกลางสหรัฐ (FED) มีโอกาสในการขึ้นอัตราดอกเบี้ยได้อีกครั้งในการประชุม FOMC เดือน พ.ย. นี้ รวมทั้งยังกระตุ้นความกังวลการที่ FED จะยังใช้อัตราดอกเบี้ยในระดับสูงต่อไป

โดยล่าสุดค่าเงินดอลลาร์สหรัฐยังคงปรับตัวแข็งค่าต่อเนื่อง โดยเช้านี้ Dollar Index อยู่ที่ระดับ 107,07 ขณะที่อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐ (US-Bond Yield) โดยเฉพาะรุ่นอายุ 10 ปี อยู่ที่ระดับ 4.82%+/- ทําจุดสูงสุดใหม่อีกครั้ง คาดจะกดดันทิศทางราคาสินทรัพย์เสี่ยงได้ต่อ ในส่วนของประเด็นเจ้าหน้าที่สหรัฐแจ้งเตือนจีนเกี่ยวกับการออกมาตรการควบคุมการส่งออกชิปปัญญาประดิษฐ์ (AI) และเครื่องมือในการผลิตชิปให้กับจีน คาดจะกระตุ้นความกังวลเกี่ยวกับความตึงเครียดระหว่างทั้ง 2 ประเทศได้ต่อ อาจกดดันทิศทางตลาดในภูมิภาคได้บ้าง

ทางด้านราคาสัญญาน้ำมันดิบล่วงหน้า WTI. ส่งมอบเดือน พ.ย. เมื่อคืนนี้แกว่งตัวผันผวน ก่อนปิดที่ระดับ 89.23 ดอลลาร์/บาร์เรล +0.41 ดอลลาร์ (+0.46%) คาดตลาดจะรอดูการประชุมคณะกรรมการร่วมด้านการตรวจสอบระดับรัฐมนตรี (JMMC) ในวันนี้ เพื่อรอดูสัญญาณของนโยบายกำลังการผลิตของ OPEC+ อีกครั้ง หลังมีรายงานซาอุดิอาระเบียอาจกลับมาเพิ่มกำลังการผลิตน้ำมัน หลังจากราคานํามันปรับตัวขึ้นในช่วงที่ผ่านมาเร็วกว่าที่ตลาดคาดไว้

สําหรับปัจจัยในประเทศยังไม่มีปัจจัยใหม่ที่เข้ามาสนับสนุนการฟื้นตัวของตลาด โดยเราคาดว่าตลาดจะติดตามการประชุม ครม. โดยเฉพาะในประเด็นการออกนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจของไทยต่อ คาดยังเป็นปัจจัย Overhang ตลาดหุ้นไทยได้ต่อ อีกทั้งการอ่อนค่าของค่าเงินบาทที่ยังอ่อนค่าต่อเนื่อง เหนือระดับ 37.00 บาท/ดอลลาร์สหรัฐ คาดจะลดทอนความน่าสนใจในการลงทุนหุ้นไทยของนักลงทุนต่างชาติต่อไป อย่างไรก็ดีเรามองแนวรับสำคัญของตลาดหุ้นไทยอยู่ที่บริเวณ 1,430 จุด+/- ซึ่งคือระดับที่การซื้อขายของตลาดหุ้นไทยอยู่ที่ Forward PE 16.0 เท่า ต่ำกว่าค่าเฉลี่ยย้อนหลัง 5 ปี –0.5 S.D. ที่ 16.7 เท่า เรามองเป็นปัจจัยที่ช่วยทำให้ Downside ของ SET Index เริ่มลดลงได้บ้าง ขณะที่สัปดาห์นี้แนะนำติดตามการรายงานตัวเลขดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) เดือน ก.ย. ของไทย คาดจะออกมาที่ระดับ – 0.15%MoM / +0.70%YoY สะท้อนถึงกำลังซื้อในประเทศที่ยังอ่อนแอต่อเนื่อง  อีกทั้งเรายังมีมุมมองเชิงลบต่อการท่องเที่ยวไทย หลังเกิดเหตุการณ์ในพารากอน คาดจะกระทบต่อภาคการท่องเที่ยวของไทย โดยเฉพาะนักท่องเที่ยวจีนที่อาจเข้ามาน้อยกว่าคาดไว้ เป็นจิตวิทยาเชิงลบกดดันทิศทางหุ้นในกลุ่ม ท่องเที่ยวได้บ้าง

ธีมการลงทุน “Selective Play”

หุ้นแนะนำวันนี้ “BBL”

  • เราคาดกำไร 3Q66 จะออกมาที่ 9,341 ลบ. ลดลง 18%QoQ แต่เพิ่มขึ้น 22%YoY โดย NIM ยังคงปรับตัวขึ้นได้เล็กน้อย ขณะที่เรามอง L/D Ratio ของ BBL ต่ำที่สุดในกลุ่มธนาคาร 82.3% ซึ่งจะทำให้ NIM ของ BBL สามารถปรับเพิ่มขึ้นได้แรงกว่าธนาคารขนาดใหญ่อื่นๆ เนื่องจากสามารถปล่อยสินเชื่อในภาวะดอกเบี้ยขาขึ้น โดยไม่ต้องระดมเงินฝากเพิ่มขึ้น
  • ทางเทคนิค ราคาแกว่งตัวขึ้นพยายามทดสอบแนวต้านที่เส้นแนวโน้มขาลง ขณะที่เครื่องมือ MACD และ SSTO ให้สัญญาณซื้อ แนะนำ “ทยอยซื้อสะสม”
  • กลยุทธ์ ทยอยชื้อสะสม แนวรับ 164.50/163.00 Target 170.00/175.00 Stop <162.50

 

- Advertisement -