รอบด้านตลาดหุ้น: เดินหน้าต่อ
ภาพตลาดและแนวโน้ม
เรามองว่า SET index อยู่ในช่วงของการสร้างฐานใหม่ และสังเกตุแรงขายกดดันตลาดกระจุกแค่กลุ่มพลังงาน (ตามราคาน้ำมันที่ปรับฐาน) และประกันที่ถูก Take Profit ลงมาตามที่เราประเมิน หลังบอนยิลด์เริ่มไม่ขึ้นต่อรุนแรง เอียงไปทางนิ่งๆ แล้ว
ดังนั้น ภาพการเกิดจุดเปลี่ยนเทรนด์ตลาดที่เรามองเริ่มชัดเจนขึ้นด้วย และแนะนำต่อสำหรับหุ้นกลุ่มที่เราเสนอไอเดียธีม Rate peak จากทิศทาง บอนด์ยิลด์ในประเทศ ที่เราเห็นโอกาสจะปรับฐาน อิงจากแนวโน้มการลงทุนของพอร์ตธนาคาร และประกันชีวิตที่เริ่มหวนกลับมาซื้อตั๋วบอนด์
เราจึงแนะนำหุ้นกลุ่มสินเชื่อบุคคลที่เล่นตรงข้ามบอนยีลด์ตรงไปตรงมาต่อ เนื่องจากราคาเพิ่งฟื้นตัวจากที่ปรับฐานลงไปมากในช่วงที่ผ่านมา จนสะท้อนแรงกดดันประเด็น NPL ไปแล้วพอสมควร และ Bottom fishing หุ้นกำไรดี
หุ้นแนะนำวันนี้ : SAWAD SCGP
Global Investing Brief: Intel เตรียมแยกธุรกิจพัฒนาชิปเข้า IPO ด้านตัวเลขท่องเที่ยววันชาติจีนคึกคัก
ตลาดหุ้นสหรัฐฯ
- เมื่อคืนนี้ 3 ดัชนีหลักทรงตัวลบราว 0.03-0.1% กดดันจากกลุ่มสินค้าจำเป็น Coca-Cola (KO) -4.8% PepsiCo (PEP) -5.2% จาก sentiment เชิงลบของหุ้น Clorox (CLX) ผู้ผลิตสินค้าทำความสะอาดที่ปรับลง 5.2% หลังบริษัทคาดว่าอาจขาดทุนเป็นครั้งแรกในงบเดือน ก.ค.-ก.ย. 66 (F1Q67) อย่างไรก็ดีประธาน Fed สาขาซานฟรานซิสโก เผยว่านโยบายการเงินของ Fed อยู่ในระดับที่คุมเข้มพอสมควรแล้ว และอาจไม่จำเป็นต้องขึ้นดอกเบี้ยอีก ขณะที่คืนนี้สหรัฐฯ จะเผยตัวเลขจ้างงานนอกภาคเกษตรเดือน ก.ย. 66 ที่อาจเพิ่มขึ้น 165,000 ตำแหน่ง ชะลอลงจากเดือนก่อนที่เพิ่มขึ้น 185,000 ตำแหน่ง อิงจาก Bloomberg cons. ซึ่งอาจช่วยบรรเทาความกังวลต่อแนวโน้มการขึ้นดอกเบี้ยของ Fed
- Vinfast (VFS) +5.6% หลังเผยรายได้ 3Q66 โต 159%YoY แตะ VND8.3tn หลังขายรถ EV ได้มากกว่า 10,000 คัน โดยเราคาดว่ายอดขายมีแนวโน้มโตต่อ หลังบริษัทได้จับมือกับดีลเลอร์ขายรถยนต์ในสหรัฐฯ ไปแล้วกว่า 27 ราย ซึ่งทำให้ปัจจุบันมีจุดจำหน่ายมากกว่า 100 แห่ง ทั่วสหรัฐฯ ร่วมด้วยการนำรถ Vinfast ให้บริการเป็นแท็กซี่ในเวียดนามที่กำลังเร่งเพิ่มจำนวนในช่วงปี 66 และ 67
ตลาดหุ้นฮ่องกง
- ดัชนีฮั่งเส็งฟื้น 0.1% วานนี้ นำโดยกลุ่มอิงการบริโภค JD.com (9618) +1.1% MTR (66) +1% และ AIA (1299) + 0.8% หลังข้อมูลการท่องเที่ยวช่วงหยุดยาววันชาติจีนส่งสัญญาณดี โดยจำนวนนักท่องเที่ยวที่เดินทางไปยังมาเก๊าในช่วงหยุดยาววันชาติจีน แตะ 655,000 ราย ต่ำกว่าช่วงก่อนเกิดโควิดในปี 62 เพียง 15%
- Meituan (3690) เผยยอดใช้จ่ายผ่านแอปฯ พุ่ง 153% เหนือระดับก่อนเกิดโควิดในปี 62 นับเป็นระดับที่มากที่สุดในรอบ 5 ปี โดยมีแรงหนุนมาจากยอดการใช้จ่ายในร้านอาหารที่พุ่งแตะระดับ 254% เหนือระดับก่อนโควิด จากความต้องการที่อัดอั้น เราจึงมองเป็นปัจจัยหนุนต่อรายได้ใน 4Q66 ที่อาจโต 24%YoY แตะ RMB74.7bn ด้าน Bloomberg cons. ให้ TP ที่ HKD196.63
ตลาดหุ้นเวียดนาม
- วานนี้ดัชนี VN ปรับลง 1.3% กดดันโดย VCB -2.1% VNM -2.3% VIC -1.1% ส่วนหุ้นนิคมอุตสาหกรรม KBC +0.7% หลังรัฐบาลเวียดนามประกาศลดค่าธรรมเนียมที่เก็บจากค่าเช่าพื้นนิคมอุตสาหกรรมลง 30% เพื่อดึงดูดเงินลงทุนต่างชาติ (FDI) ด้าน FDI ใน 9 เดือนแรกของเวียดนาม เพิ่มขึ้น 8%YoY โดยเน้นลงทุนในภาคการผลิต ซึ่งเราคาดว่าจะยังคงโมเมนตัมบวกต่อ จากแนวโน้มการย้ายฐานการผลิตออกจากจีน
- โบรกเวียดนามได้ปรับ TP หุ้น MSN ขึ้น 7% สู่ VND87,000 หลังมองว่ากำไรของบริษัทในปี 66 อาจเป็นจุดต่ำสุด และอาจฟื้นตัวในปี 67 หนุนจากธุรกิจเหมืองที่ดำเนินธุรกิจได้เต็มกำลัง และธุรกิจธนาคาร TCB (บริษัทถือหุ้นราว 20%) ที่อาจมีแรงหนุนจากแนวโน้มของสินเชื่อที่เติบโตในเวียดนาม จึงมองว่ากำไรของ MSN อาจโต 3.2 เท่าในปี 67 แตะ VND3,378bn
หุ้นเด่นประจำวัน : Intel (INTC.US)
- Intel เตรียมแยกส่วนธุรกิจพัฒนาเทคโนโลยีชิป (Programmable Solutions Group : PSG) เพื่อให้ธุรกิจมีความคล่องตัวมากขึ้น โดยคาดว่าจะมีผลตั้งแต่ 1 ม.ค. 67 เป็นต้นไป และคาดว่าจะนำเข้า IPO ภายใน 2-3 ปี คล้ายกรณีธุรกิจชิปรถยนต์ (Mobileye)
- เรามองว่าจะเป็นการปลดล็อกมูลค่าธุรกิจและอาจช่วยหนุนให้ Intel มุ่งเน้นในธุรกิจรับจ้างผลิตชิปมากขึ้น โดยรายได้ธุรกิจรับจ้างผลิตชิปมีแนวโน้มโตเด่น 90%YoY แตะ $889.5mn ในปีนี้
