รอบด้านตลาดหุ้น: External risks factor มีเรื่องใหม่มาอีกแล้ว

ภาพตลาดและแนวโน้ม 

– แนะรับล่างเพื่อเล่นเด้ง… เปลี่ยนจุดรับใหม่ ลุ้นเด้งจากกรอบล่าง โซน 1,430/1,420 จุด (SET ใกล้พ้นเคราะห์ แต่ยังไม่ผ่านพ้น)

– พัฒนาการปัจจัยภายนอก เริ่มนิ่งขึ้น เมื่อเทียบกับสัปดาห์ก่อนๆ แม้จะมีภาวะสงครามเข้ามาแทรก

– ความเปราะบางของนักลงทุนที่ยังสูง คงกดดันให้การฟื้นตัวไปได้ไม่ไกล “ยกตัวอย่างสัปดาห์ที่แล้ว จากข่าวศาลฯสั่ง กกพ. ระงับลงนามซื้อขายไฟโครงการเทพสถิตย์ ของ บ.ย่อย EA แม้ กกพ.ออกมาย้ำ PPA อื่นในพื้นที่ไม่ได้กระทบ แต่ก็สร้างแรงกดดันต่อหุ้น GULF และซ้ำเติมด้วย โบรกต่างชาติ ออกมา Downgrade GULF กดดันโรงไฟฟ้าอื่น ลงตามไปด้วย”

ซึ่งหลายปัจจัยกดดันที่เกิดขึ้น ยังคงเป็นเรื่องที่อยู่เหนือพื้นฐานและการคาดเดา แถมความเปราะบางของนักลงทุนที่พร้อมขายทุกราคายอมใจขายตัดขาดทุนทันทีที่ซื้อแล้วผิดทาง

ทำให้โมเมนตั้มการฟื้นคืนของหุ้นรายตัว และดัชนี แย่ลงกว่าที่เคยคาด และเราแนะนำ การรอช้อนซื้อ ที่โซนล่าง โดยสัปดาห์นี้ขยับกรอบแนวรับลง เป็น 1,430/1,420 จุด ซึ่งเป็นโซนที่เราประเมินว่า ใกล้พ้นจุดต่ำสุดแล้ว แต่ยังไม่ผ่าน
หุ้นแนะนำวันนี้ : KTB

Global Investing Brief : หุ้นสหรัฐฯ พลิกปิดบวก แม้ตัวเลขจ้างงานพุ่ง ด้าน Tesla ยังลดราคารถต่อเนื่อง

ตลาดหุ้นสหรัฐฯ 

  • เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา 3 ดัชนีหลักสหรัฐฯ ปิดบวกราว 0.9-1.6% หลังสหรัฐฯ เผยตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรพุ่งขึ้น 336,000 ตำแหน่งในเดือน ก.ย. สูงกว่าตลาดคาดที่ 170,000 ตำแหน่ง อย่างไรก็ดี อัตราการว่างงานยังทรงตัวที่ระดับ 3.8% และค่าจ้างรายชั่วโมงของแรงงานเพิ่มขึ้น 4.2%YoY ในเดือน ก.ย. ต่ำกว่าตลาดคาดที่ 4.3%YoY ซึ่งอาจเป็นปัจจัยที่ช่วยชะลอการขึ้นดอกเบี้ยของ Fed ส่งผลให้หุ้นเทคฯ ฟื้นเด่น นำโดย Netflix (NFLX) +2.4% และ Microsoft (MSFT) +2.5%
  • Tesla (TSLA) ประกาศปรับลดราคารถรุ่น Model 3 ลงเหลือ $38,990 จาก $40,240 และปรับลดราคารุ่น Model Y Long-range ลงเหลือ $48,490 จาก $50,490 ซึ่งเป็นการลดลงจากเดิมราว 2.7-4.2% หลังต้องการกระตุ้นยอดขาย ภายหลังจากที่เผยยอดส่งมอบรถ 3Q66 ลดลง 7%QoQ หลังบริษัทมีการปิดปรับปรุงโรงงานผลิตรถยนต์ในช่วงที่ผ่านมา ซึ่งเรามองว่าจะเป็นปัจจัยที่กดดันอัตรากำไรของบริษัท ด้าน Bloomberg Cons. ให้ TP ที่ $266.88

ตลาดหุ้นฮ่องกง 

  • เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา ดัชนีฮั่งเส็งฟื้น 1.6% นำโดย AIA (1299) +2.4% Meituan (3690) +2.3% และ Baidu (9888) +2.2% หลังจีนส่งสัญญาณเตรียมผ่อนคลายกฎระเบียบด้านข้อมูลสำหรับธุรกิจต่างชาติ หากหน่วยงานกำกับดูแลด้านกฎระเบียบ (CAC) ไม่ได้กำหนดให้เป็นข้อมูลที่มีความสำคัญ ทำให้เรามองว่าจะเป็นการดึงดูดเม็ดเงินลงทุนจากบริษัทต่างชาติเข้ามาในจีนมากขึ้น
  • BYD (1211) เผยยอดส่งมอบรถรุ่น Dolphin ในช่วงเดือน ก.ย. อยู่ที่ราว 33,000 คัน ซึ่งนับเป็นเดือนที่ 7 ที่ยอดส่งมอบรถรุ่น Dolphin ทะลุ 30,000 คัน นอกจากนี้ บริษัทได้มีการเปิดตัว BYD Dolphin รุ่นพิเศษในจีนเพื่อเป็นการฉลองการที่บริษัทผลิตรถครบ 500,000 คัน โดยในรถรุ่นพิเศษนี้จะมีการตกแต่งรถให้มีความสปอร์ตมากขึ้นในราคาเริ่มต้นเพียง RMB126,000 (ราว 625,000 บาท) ทำให้เรามองว่าจะเป็นปัจจัยหนุนรายได้บริษัทปี 66 ให้โตราว 49%YoY สู่ RMB631.5bn อิงจาก Bloomberg cons.
  • ทั้งนี้ ตลาดหุ้นฮ่องกงจะหยุดทำการในช่วงการซื้อขายภาคเช้าวันนี้ เวลา 8.30-11.00 น. เหตุจากพายุไต้ฝุ่น โดยอาจกลับมาเปิดทำการอีกครั้งในภาคบ่ายเวลา 12.00-15.00 น. ตามเวลาประเทศไทย

ตลาดหุ้นเวียดนาม 

  • เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านดัชนี VN ปิดบวก 1.3% นำโดย VHM +3.4% VNM+2.1% และ BID +1.4 หลังเมื่อวันที่ 5 ต.ค. 66 รัฐบาลเวียดนามมีแผนลดอัตราภาษีมูลค่าเพิ่ม (VAT) อีก 2% ในช่วง 6 เดือนแรกของปี 67 หลังจากที่ก่อนหน้านี้มีการลด VAT จาก 10% เหลือ 8% ตั้งแต่วันที่ 1 ก.ค. 66 ถึงสิ้นปีนี้ เพื่อกระตุ้นความต้องการบริโภคภายในประเทศ
  •  POW ที่มีน้ำหนัก 0.7% ในดัชนี VN 30 ซึ่งเป็นดัชนีอ้างอิงของ DR E1VFVN3001 เผยยอดขายไฟฟ้า 9M66 เพิ่มขึ้น 11%YoY ส่งผลให้รายได้ใน 9M66 เพิ่มขึ้น 8%YoY นอกจากนี้เรายังมองบวกต่อยอดขายไฟฟ้าในช่วงที่เหลือของปี หนุนจากแผนพัฒนาไฟฟ้าฉบับที่ 8 ที่ต้องการลดการผลิตไฟฟ้าจากถ่านหิน และเน้นพลังงานหมุนเวียนมากขึ้น ขณะที่คาดการณ์จาก Bloomberg cons. เผยรายได้ปี 66 อาจโต 11%YoY ด้าน TP อยู่ที่ VND16,290

หุ้นเด่นประจำวัน : PepsiCo (PEP.US)

  • PEP จะเผยงบ 3Q66 ในวันที่ 10 ต.ค. 66 โดยรายได้มีแนวโน้มโต 6.4%YoY แตะ $23.4bn และกำไรอาจโต 8.3%YoY แตะ $3bn อิงจาก Bloomberg cons. หลังบริษัทมีการปรับราคาสินค้าขึ้นราว 15% ในช่วงที่ผ่านมา อีกทั้งความต้องการสินค้าทั้งเครื่องดื่ม และขนมยังเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง
  • ในเชิงมูลค่าหุ้น PEP เรามองว่ายังมีความน่าสนใจ หลัง P/E ปี 67 อยู่ที่ 20 เท่า ต่ำกว่าค่าเฉลี่ย 5 ปี ที่ 24 เท่า ราว 1 s.d.
- Advertisement -