คืนนี้รอติดตามเงินเฟ้อสหรัฐฯ
Market Update
ตลาดหุ้น Dow Jones เมื่อคืนปิดบวก 0.19% ได้แรงหนุนจากการชะลอตัวลงของ US Bond Yield และรายงานประชุม FED ชี้ว่าคณะกรรมการบางท่านสนับสนุนยุติขึ้นดอกเบี้ย ราคาน้ำมันดิบ BRT ปิดลบ 2.1% หลังจากซาอุฯระบุพร้อมสร้างเสถียรภาพ
Market Outlook
เมื่อคืนที่ผ่านมา สหรัฐฯรายงานดัชนีราคาผู้ผลิตที่ 2.2%YoY , 0.3%MoM สูงกว่า Bloomberg Consensus คาดการณ์ที่ 1.6%YoY, 0.3%MoM องค์ประกอบภายในพบว่าราคาสินค้าที่ปรับลง YoY ได้แก่ ราคาอาหาร ราคาพลังงาน ราคาขนส่งและคลังสินค้า ด้านดัชนีราคาผู้ผลิต (พื้นฐาน) รายงานที่ 2.7%YoY, 0.3%MoM สูงกว่า Bloomberg Consensus คาดการณ์ที่ 2.3%YoY, 0.2%MoM อย่างไรก็ตาม แม้จะรายงานดัชนีราคาผู้ผลิตที่สูงกว่าคาดการณ์แต่พบว่า US Bond Yield อายุ 10 ปียังคงปรับลงต่อเนื่อง สาเหตุหลักมองไปที่ FED Minute (รายงานผลประชุม FED เดือน ก.ย.) พบว่ามีบางคณะกรรมการของ FED ระบุว่า FED ไม่ควรต้องปรับขึ้นดอกเบี้ยจากระดับปัจจุบัน นอกจากนี้คณะกรรมการบางท่านยังระบุว่าภาวะการเงิน ที่ตึงตัวจะส่งผลเชิงลบต่อภาวะเศรษฐกิจ โดยรวมแล้วมองว่าคณะกรรมการบาง ท่านเริ่มส่งสัญญาณผ่อนคลายทางการเงินมากขึ้น ความเห็นล่าสุดจาก CME FED Watch ให้น้ำหนักมากถึง 91% ที่ FED จะคงดอกเบี้ยไว้ในการประชุมเดือน พ.ย. สำหรับคืนนี้รอติดตามดัชนีราคาผู้บริโภค Bloomberg Consensus ประเมินไว้ที่ 3.6%YoY , 0.3%MoM และดัชนีราคาผู้บริโภคพื้นฐาน (Core CPI) 4.1%YoY , 0.3%MoM หากรายงานแล้วต่ำกว่าคาดการณ์จะยิ่งเป็นปัจจัยบวกกับตลาดหุ้นโลกรวมถึงไทยในสัปดาห์หน้า
สำหรับ SET INDEX ประเมินมีแนวโน้มปรับขึ้นได้ต่อหนุนจากระดับ Valuation ที่ไม่แพงประกอบกับสถิติตลาดหุ้นช่วง 4Q ของทุกๆปีมักให้ผลตอบแทนเป็นบวก และเริ่มเห็นการอ่อนตัวลงของ US Bond Yield เช้านี้ตลาดหุ้น Nikkei แกว่งบวก 1.2% โดยคาด SET INDEX วันนี้ปรับขึ้นกรอบ 1455 – 1470 เชิงกลยุทธ์การลงทุนยังสะสมได้แม้ SET จะเริ่มฟื้นขึ้นมาแล้ว เนื่องจากยังคาดหวังถึงการฟื้นตัวต่อ เน้นหุ้นขนาดใหญ่ที่เป็นผู้นำในอุตสาหกรรมและได้ประโยชน์จากภาครัฐ อาทิ ค้าปลีก (BJC CPALL HMPRO) ท่องเที่ยว (AOT AWC CENTEL MINT) ศูนย์การค้า (CPN) ธนาคารพาณิชย์ (BBL KBANK KTB SCB) การเงิน (MTC TIDLOR) สื่อนอกบ้าน (PLANB) ส่งออก (TU)
หุ้นแนะนำซื้อวันนี้
KBANK (ซื้อ / ราคาเป้าหมาย 154.00 บาท)
มองว่าสำรองหนี้ฯจะลดลงในปี 2024-25 ซึ่งจะช่วยกระตุ้นการเติบโตของกำไรและอัตราผลตอบแทนผู้ถือหุ้น (ROE) ในอนาคตได้ เราคาดว่ากำไรสุทธิจะกลับมาโต 12% ในปี 2023 หลังหดตัวไป 6% ในปี 2022
AOT (ซื้อ / ราคาเป้าหมาย 82.00 บาท)
AOT รายงานสถิติที่สำคัญในช่วง FY4Q23 (ก.ค.-ก.ย.) ออกมายังคงเห็นการฟื้นตัวได้อย่าง ต่อเนื่องทั้งในแง่เที่ยวบินที่มีจำนวนสูงสุดนับตั้งแต่เกิดโควิด หรือจำนวนผู้โดยสารระหว่างประเทศที่กลับมายืนเหนือ 15 ล้านคน (แต่ผู้โดยสารรวมยังต่ำกว่าช่วง FY2Q23 เล็กน้อย) จาก ตัวเลขดังกล่าวทำให้เรามองว่ารายได้ในช่วง FY4Q23 จะเห็นการปรับตัวเพิ่มขึ้นได้