บล.พาย:

TISCO: Tisco Financial Group PCL หุ้นปันผล

เราคงคำแนะนำ “ถือ” แต่ปรับลดมูลค่าพื้นฐานลงเป็น 106 บาท กำไรไตรมาส 3/23 ออกมาสอดคล้องกับคาดการณ์ของเราที่ 1.87 พันล้านบาท (+6% YoY, +1% QoQ) เราคงประมาณการการเติบโตของกำไรสุทธิปี 2023 หลังจากเข้าร่วมการประชุมนักวิเคราะห์เมื่อวันที่ 12 ต.ค. แต่ปรับลดคาดการณกำไรสุทธิปี 2024-25 ลดลง 2%/6% เพื่อสะท้อนการปรับเพิ่มสมมติฐานค่าใช้จ่ายสำรองหนี้สูญสะท้อนคุณภาพสินเชื่อ ที่มีแนวโน้มอ่อนลง ขณะที่คาดว่ากำไรไตรมาส 4/23 จะโต 4% YoY และทรงตัว QoQ ปัจจุบันราคาหุ้นยังไม่น่าดึงดูดมากนัก จึงแนะนำ “ถือ” ด้วยคาดการณ์ถึงอัตราผลตอบแทนเงินปันผลระดับสูงที่ 7.9%/8.1%/8.3% สำหรับปี 2023-25

การประชุมนักวิเคราะห์

  • แม้อุปสงค์สินเชื่อจะแข็งแกร่ง แต่ TISCO จะชะลอการขยายสินเชื่อจำน้ำทะเบียนรถลง เพราะคุณภาพสินเชื่อที่อ่อนแอลง ซึ่งจะทำให้การเติบโตของสินเชื่อทั้งปี 2023 ต่ำกว่า 10% ในปี 2023 (งวด 9 เดือนปี 2023: +5.8% YTD)
  • สินเชื่อที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ (NPLs) จะยังปรับเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง หลักๆ มาจากสินเชื่อเช่าซื้อรถยนต์และสินเชื่อจำนำทะเบียนรถ ทั้งนี้ ด้วยค่าเผื่อหนี้สงสัยจะสูญที่เพียงพอ ทำให้ค่าใช้จ่ายสำรองหนี้สูญในปี 2024 ยังอยู่ในระดับต่ำ แต่อาจปรับเพิ่มเป็นประมาณ 50 bps เมื่อเทียบกับราว ๆ 20 bps ในงวด 9 เดือนปี 2023
  • TISCO ยืนยันว่าอัตราส่วนต่างดอกเบี้ย (NIM) ในไตรมาส 4/23 จะ ยังอยู่ในระดับสูง แต่อาจหดตัวลงในปี 2024 เพราะต้นทุนดอกเบี้ยที่ปรับเพิ่มขึ้นจากการขึ้นดอกเบี้ย
  • อัตราส่วนค่าใช้จ่ายต่อรายได้ (CIR) จะยังอยู่ในระดับสูง เพราะค่าใช้จ่ายการดำเนินงาน (OPEX) ที่สูงขึ้น สืบเนื่องจากการขยายสาขาสมหวัง ทั้งนี้ TISCO มีแผนเปิดสาขาใหม่อีก 200 แห่งต่อปีเพื่อเข้าถึงลูกค้ากลุ่มใหม่

ผลประกอบการไตรมาส 3/23 สอดคล้องกับคาดการณ์

  • กำไรสุทธิไตรมาส 3/23 ออกมาอยู่ที่ 1.87 พันล้านบาท (+6% YoY, +1% QoQ) แม้รายได้ค่าธรรมเนียมจะลดลงและมีการตั้งสำรองหนี้ฯ มากขึ้น แต่ยังโตได้ YOY เพราะรายได้ดอกเบี้ยสุทธิ (NIl) ที่ยืดหยุ่นดี หนุนจากการขยายตัวของสินเชื่อและ NIM ที่สูงขึ้น
  • NPL ratio ทรงตัว Q0Q ที่ 2.25% อัตราส่วนการตั้งสำรองหนี้ฯลดลงเป็น 205.8% แต่ยังพอที่จะรับมือกับ NPLs

คาดการเติบโตของกำไรจะชะลอตัวในปี 2024-25

  • หลังจากเข้าร่วมการประชุมนักวิเคราะห์ เราได้ปรับเพิ่มสมมติฐาน ค่าใช้จ่ายสำรองหนี้สูญปี 2024-25 เป็น 50-75 bps (จาก 25 bps) เพื่อสะท้อนถึงตัวเลขแนวทางของผู้บริหารและคุณภาพสินเชื่อที่ลดลง นอกจากนี้ แม้ NIM จะออกมาดีกว่าคาด โดยเราปรับลดประมาณการกำไรสุทธิปี 2024/25 ลง 2%/6% ตามลำดับ เพื่อสะท้อนถึงการตั้งสำรองหนี้ฯ ที่สูงขึ้น แต่ยังคงประมาณการปี 2023 ตามเดิม
  • ด้วยเหตุนี้ เราจึงคาดว่ากำไรสุทธิจะโตเฉลี่ยต่อปีที่ 2.4% YoY ในช่วงปี 2023-25 ขณะที่คาดว่ากำไรสุทธิไตรมาส 4/23 จะโต 4%YOY และทรงตัว QoQ

คงคำแนะนำ “ถือ” ลดมูลค่าพื้นฐานเป็น 106 บาท

เราปรับลดมูลค่าพื้นฐานเป็น 106 บาท (จาก 109 บาท) เพื่อสะท้อนถึงการปรับลดประมาณการกำไรลง มูลค่าพื้นฐานของเราคำนวณด้วยวิธี GGM (ROE 17%, TG2%) 50 1.9x PBV’24E

สรุปผลประกอบการไตรมาส 3/23 และงวด 9 เดือนปี 2023

  • กำไรสุทธิออกมาสอดคล้องกับประมาณการที่ 1.87 พันล้านบาท (+1% YoY, +6% Q∞Q) ในไตรมาส 3/23 การเติบโต YoY ได้แรงหนุนจาก NII ที่สูงขึ้น เพราะสินเชื่อที่ขยายตัวและ NIM ที่ปรับสูงขึ้น แม้การตังสำรองหนี้ฯ จะปรับเพิ่มรายได้ค่าธรรมเนียมจะซบเซาและมี OPEX ที่สูงขึ้นก็ตาม ส่วนที่โตเล็กน้อย QoQ เพราะ NIl ที่สูงขึ้นและค่าใช้จ่ายอื่น ๆ ที่ลดลง
  • กำไรสุทธิงวด 9 เดือนปี 2023 อยู่ที่ 5.5 พันล้านบาท (+2% YoY) ที่โตขึ้นเล็กน้อยเพราะรายได้ค่าธรรมเนียมที่ซบเซาและ OPEX ที่สูงขึ้นไปหักลบกับการเติบโตของ NII
  • NIM ในไตรมาส 3/23 ปรับเพิ่ม QoQ เป็น 5.24% เพราะอัตราผลตอบแทนสินเชื่อที่สูงขึ้นจากกลุ่มสินเชื่อที่ให้กำไรสูง (สินเชื่อรถมือสองและออโต้แคช) ด้าน CIR ลดลง QoQ เป็น 48.4% เพราะ OPEX ที่ลดลง
  • การเติบโตของสินเชื่อชะลอตัวลงเป็น 0.6% QoQ ในไตรมาส 3/23 (2Q23: +4.7% QoQ) สืบเนื่องจากสินเชื่อเช่าซื้อและสินเชื่อที่อยู่อาศัยที่ลดลง บวกกับอุปสงค์สินเชื่อธุรกิจขนาดใหญ่ที่ชะลอตัว ทั้งนี้ การเติบโตสินเชื่อ ปรับเพิ่ม 5.8% YTD สำหรับงวด 9 เดือน ปี 2023 สอดคล้องกับตัวเลขแนวทางของผู้บริหาร
  • คุณภาพสินเชื่อลดลงเล็กน้อยจาก NPLs ออโต้แคชที่ปรับเพิ่มขึ้น สำหรับ NPL ratio สูงขึ้นเล็กน้อย QoQ เป็น 2.25% ด้าน อัตราส่วนการตั้งสำรองหนี้ฯ ลดลงเป็น 205.8% แต่ยังพอรับมือกับ NPLs ใหม่

Revenue breakdown

รายได้ธนาคารมาจาก 3 แหล่งดังนี้:

  • รายได้ดอกเบี้ยสุทธิคิดเป็น 69% ของรายได้รวมในปี 2022 และนับเป็นรายได้ก้อนใหญ่ที่สุดของธนาคารหากสินเชื่อและอัตราส่วนต่างดอกเบี้ย (NIM) โตขึ้น รายได้ดอกเบี้ยสุทธิจะโตขึ้นตาม
  • รายได้ค่าธรรมเนียมและบริการคิดเป็น 28% ของรายได้รวมในปี 2022 ประกอบด้วยรายได้จากธุรกิจโบรกเกอร์ วาณิชธนกิจ ค่าธรรมเนียมประกันผ่านธนาคาร และกองทุนรวม
  • รายได้การดำเนินงานอื่น ๆ คิดเป็น 3% ของรายได้รวมในปี 2022 มาจากกำไรการลงทุน กำไร/ขาดทุน สุทธิจากเครื่องมือทางการเงินที่ประเมินบนพื้นฐานของมูลค่ายุติธรรมผ่านกำไรหรือขาดทุน รายได้เงินปันผล และรายได้อื่น
- Advertisement -