บล.พาย:

DOHOME: Dohome PCL

คาดกำไรไตรมาส 3/23 ฟื้นตัวดีกว่าเพื่อนในกลุ่ม

เราปรับลดคำแนะนำจากซื้อเป็น “ถือ” มูลค่าพื้นฐาน 12.10 บาท เพราะคาดว่าการเติบโตของยอดขายสาขาเดิม (SSSG) จะยังอ่อนแอ YoY ไปจนถึงปลายไตรมาส 1/24 เพราะราคาขายเฉลี่ย (ASP) ของสินค้าเหล็กที่ลดลง และยอดขายจากลูกค้ากลุ่มรับเหมาที่หดตัว สำหรับปัจจัยบวกคือการลงทุนในโครงสร้างพื้นฐานของภาครัฐและเอกชน ขณะที่เราคาดว่ากำไรสุทธิไตรมาส 3/23 จะอยู่ที่ 82 ล้านบาท (+63%YoY, +108%Q0Q) การฟื้นตัวของกำไรอย่างมีนัยยะสำคัญเป็นผลจากการฟื้นตัวของอัตรากำไรขั้นต้น (GPM) จากอัตรากำไรสินค้าเหล็กขยายตัวและประสิทธิภาพการบริหารจัดการสินค้าคงคลัง

คาดกำไรไตรมาส 3/23 จะฟื้นตัวทั้ง YoY และ QoQ

  • คาดรายได้ไตรมาส 3/23 อยู่ที่ 7.7 พันล้านบาท (+4%YoY, – 3%QoQ) การเติบโต YoY หนุนจากการเปิดสาขาใหม่ 3 แห่งในช่วง 12 เดือนที่ผ่านมา ซึ่งช่วยชดเชย SSSG ที่คาดว่าจะติดลบ 7% YoY (จาก -9.9% ในไตรมาส 2/23) สืบเนื่องจากการบริโภคที่อ่อนแอในภาคเกษตร ยอดขายจากกลุ่มรับเหมาที่ลดลง และราคาขายเฉลี่ยของสินค้าเหล็กที่หดตัว เพราะราคาเฉลี่ยในตลาดเหล็กที่ผันผวน ส่วนที่ลดลง QoQ คาดเป็นเพราะปัจจัยตามฤดูกาลในช่วงไตรมาสและการจัดทำงบประมาณที่ล่าช้าของรัฐบาล
  • เราคาด GPM ไตรมาส 3/23 โตเป็น 15.7% จาก 14.0% ในไตรมาส 3/22 และ 14.0% ในไตรมาส 2/23 หนุนจาก GPM ที่ปรับดีขึ้นเพราะอัตรากำไรสินค้าเหล็กที่สูงขึ้น ประสิทธิภาพการบริหารจัดการสินค้าคงคลังที่ดี และการขาดหายไปของยอดขายล้างสต็อกล็อตใหญ่อย่างที่เคยมีในไตรมาสก่อนหน้า (ล้างสต็อกช่วงเดือน พ.ค. – ก.ค. 2023)
  • คาดอัตราส่วนค่าใช้จ่ายการขายและบริหาร (SG&A) ต่อยอดขายในไตรมาส 3/23 จะเพิ่มเป็น 13.2% จาก 12.6% ในไตรมาส 3/22และ 12.4% ใน 2/23 สืบเนื่องจากค่าใช้จ่ายสาธารณูปโภคที่สูงขึ้นบวกกับต้นทุนที่เกิดขึ้นจากการเปิดสาขาใหม่

คาดกำไรจะฟื้นต่อเนื่อง QoQ ในไตรมาส 4/23

  • คาด SSSG เดือน ต.ค. 2023 จะพลิกเป็นบวก จาก -7% ในไตรมาส 3/23 หนุนจากฐานต่ำในปีก่อน จากเหตุการณ์ผลกระทบอุทกภัยของสาขาอุบลราชธานี ซึ่งสาขานี้เป็นสาขาที่ใหญ่ที่สุดในไทย ด้วยพื้นที่ขาย 45,266 ตร.ม. และมีส่วนแบ่งรายได้เฉลี่ยต่อปี 5 พันล้านบาท หรือ 15% ต่อยอดขายรวมของบริษัท
  • ดังนั้น SSSG ของไตรมาส 4/23 อาจติดลบเล็กน้อยที่ 1%-2% จาก -9% ในไตรมาส 4/22 เราเชื่อว่าสาขาใหม่ในย่านท่องเที่ยวและที่ใกล้กับโครงการโครงสร้างพื้นฐานขนาดใหญ่จะช่วยหนุนการเติบโตของกำไรในไตรมาส 4/23 และปี 2024 ได้
  • บริษัทเปิด 2 สาขาใหม่ (เชียงรายและอยุธยา) ในไตรมาส 3/23 และมีแผนเปิดอีกสาขาในปทุมธานีภายในไตรมาส 4/23 หลังจากที่ไม่ได้ขยายสาขาเลยตั้งแต่ต้นปี 2023
แนะนำ “ถือ” เพราะขาดปัจจัยบวก
  • มูลค่าพื้นฐานของเราที่ 12.10 บาท คำนวณด้วยวิธีคิดลดเงินสด (DCF) (WACC 7.5%, TG 3%) อิง 31XPE’24E ใกล้เคียงค่าเฉลี่ยกลุ่ม สินค้าตกแต่งบ้านของไทย

Revenue breakdown

บริษัทดำเนินธุรกิจค้าปลีกและค้าส่งสินค้าวัสดุก่อสร้างและตกแต่งบ้าน ซึ่งมีสินค้าทั้งแบบภายใต้ตราสินค้าของกลุ่มบริษัท (คิดเป็น 18% ของรายได้รวม) และภายใต้ตราสินค้าอื่น (คิดเป็น 82% ของรายได้รวม) สามารถแบ่งผลิตภัณฑ์ออกเป็น 3 ประเภทดังนี้:

  • วัสดุก่อสร้าง (คิดเป็นสัดส่วนรายได้ 49%): ประกอบด้วย เหล็กแท่ง เหล็กสี เคมีภัณฑ์ ไม้ ซีเมนต์ และผลิตภัณฑ์อื่น ๆ ที่ใช้ในการก่อสร้างโครงสร้างต่าง ๆ
  • วัสดุซ่อมแซม (คิดเป็นส่วนแบ่งรายได้ 33%): ประกอบด้วย เครื่องมือช่าง เครื่องมือทางการเกษตร อุปกรณ์ประปา อุปกรณ์ไฟฟ้า สุขภัณฑ์ เครื่องครัว ประตู และหน้าต่าง
  • วัสดุตกแต่ง (คิดเป็นส่วนแบ่งรายได้ 18%): ประกอบด้วยเครื่องใช้ไฟฟ้า เฟอร์นิเจอร์บ้าน เครื่องเขียน โคมไฟตกแต่ง สินค้าอุปโภคบริโภค เตียง ร้านขายของที่ระลึก และของตกแต่งบ้าน
- Advertisement -