บล.กรุงศรีฯ:

ROJANA INDUSTRIAL PARK (ROJNA TB/ ROJNA.BK)

ROJNA – ยอดขายที่ดินแข็งแกร่ง ถูกบดบังด้วยโรงไฟฟ้า (TP Bt7.30, BUY)

กลุ่มอุตสาหกรรมอสังหาริมทรัพย์และก่อสร้าง
หุ้นROJNA
มูลค่าพื้นฐาน7.30
คำแนะนำBUY

ROJNA มียอดขายที่ดินแข็งแกร่งที่ 1,660 ไร่ใน 9M23 และมีแนวโน้มจะสูงกว่าประมาณการ FY23F ของเราอีกครั้ง เราจึงปรับประมาณการยอดขายที่ดินขึ้นเป็น 2,000 ไร่ สูงสุดเป็นประวัติการณ์ตั้งแต่ 1Q13 แต่การดําเนินการของโรงไฟฟ้าที่อ่อนแอ เนื่องจากการปรับลดค่า Ft ทําให้เราปรับลดประมาณการปี FY23F-FY25F ลง 10-16% เราขยับการประเมินมูลค่าเป็นสิ้นปี 2024 ราคาเป้าหมายลดลงเป็น 7.3 บาท แต่ราคาหุ้นลดลง 7% ในสามสัปดาห์ที่ผ่านมาได้สะท้อนปัจจัยพื้นฐานแล้ว คงคําแนะนํา ซื้อ

ยอดขายที่ดินแข็งแกร่งใน 9M23 ส่งผลให้เราปรับประมาณการข้ึน

ROJNA เผยยอดขายที่ดิน 638 ไร่ใน 3Q23 เติบโต 83% yoy และเติบโต 10% qoq สนับสนุนจากนักลงทุนจีนจากหลากหลายอุตสาหกรรม (เช่น แผงวงจร, เหล็ก) ส่งผลให้ยอดขายที่ดิน 9M23 เป็น 1,660 ไร่ เพิ่มขึ้น 183% yoy และมีแนวโน้มจะสูงกว่าประมาณการ FY23F ของเราอีกครั้ง เราจึงปรับเพิ่มประมาณการยอดขายที่ดินเป็น 2,000 ไร่ สูงสุดเป็นประวัติการณ์นับต้ังแต่ปี 2013

แต่การดําเนินงานของโรงไฟฟ้าอ่อนแอกว่าคาด ทําให้เราปรับลดประมาณการกําไรสําหรับ FY23F-FY25F

จากการปรับลดอัตรา Ft ล่าสุดเหลือ 0.2048 บาท/หน่วย สําหรับเดือนกันยายนถึงธันวาคมปีนี้ ซึ่งต่ำกว่าประกาศครั้งก่อนและที่เราคาดการณ์ไว้ที่ 0.6689 บาท/หน่วย เราต้ังสมมติฐานอย่างระมัดระวังว่าค่า Ft จะทรงตัวที่ 0.2048 บาท/หน่วย ในปี FY24F และเพิ่มขึ้นเล็กน้อยเป็น 0.25 บาท/หน่วย ในปี FY25F เป็นต้นไป เราคงยอดโอนที่ดินที่ 1,244 ไร่ สําหรับ FY23F และ 1,506 ไร่ สําหรับ FY24F และ 1,748 ไร่สําหรับ FY25F ถึงแม้ยอดขายที่ดินจะสูงกว่าคาดก็ตาม ดังน้ันเราจึงปรับลดประมาณการกําไรธุรกิจหลักลง 16% เป็น 1.2 พันลบ.ปี FY23F, 10% เป็น 1.4 พัน ลบ.ปี FY24F และ 11% เป็น 1.6 พันลบ.ปี FY25F

กําไรธุรกิจหลักจะฟื้นตัวจากขาดทุนใน 3Q22 เป็นกําไร 350 ล้านบาทใน 3Q23F แต่ลดลง 14% qoq

กําไรเพิ่มขึ้น yoy สนับสนุนจากการโอนที่ดินสูงขึ้น (275 ไร่ใน 3Q เทียบกับเพียง 6 ไร่ใน 3Q22) และกําไรที่เพิ่มขึ้นจากโรงไฟฟ้า (อัตรากําไรขั้นต้นเพิ่มขึ้นเป็น 10.2% จาก1.5%) ในทางกลับกันกําไรลดลง qoq เนื่องจากไม่มีเงินปันผลจาก GULF และ FLT หากรวมผลขาดทุนทางบัญชีจากการตีมูลค่าตลาดของ GULF และขาดทุนจาก อัตราแลกเปลี่ยน กําไรสุทธิของบริษัทจะอยู่ที่ 230 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากกําไรสุทธิที่ 48 ล้านบาทใน 3Q22 และขาดทุนสุทธิ 147 ล้านบาทใน 2Q23 ซึ่งจะทําให้กําไรธุรกิจหลัก 9M23 อยู่ที่ 1.1 พันล้านบาท เทียบกับขาดทุน 216 ล้านบาทใน 9M22 หรือคิดเป็น 95% ของปี FY23F ของเรา บริษัทจะประกาศผลการดําเนินงานวันที่ 14 พฤศจิกายน

 

- Advertisement -