บล.เคจีไอ (ประเทศไทย):

Srinanaporn Marketing PCL (SNNP.BK/SNNP TB)*

ประมาณการ 3Q66 : คาดกำไรเพิ่มขึ้นทั้ง YoY และ QoQ

Event

เราคาดว่า SNNP จะรายงานกำไรสุทธิ 3Q66 ที่ 160 ล้านบาท (+13% YoY และ +2% QoQ) ผลักดันจากทั้งยอดขายและ GPM ที่ดีขึ้น ทำให้กำไร 9M66 เพิ่มอยู่ที่ 470 ล้านบาท (+29% YoY) คิดเป็น 70% ของประมาณการกำไรเต็มปีนี้ของเรา

Impact

คาดยอดขายใน 3Q66 ดีขึ้นทั้ง YoY และ QoQ

เราคาด SNNP รายงานยอดขาย 3Q66 อยู่ที่ 1.5 พันล้านบาท (+4% YoY และ +4% QoQ) ซึ่งทำให้ยอดขาย 9M66 เพิ่มเป็น 4.4 พันล้านบาท (+13% YoY) และคิดเป็น 68% ของประมาณการยอดขายเราเต็มปีนี้ เมื่อจำแนกตามทำเลที่ตั้ง ยอดขายภายในประเทศคาดอยู่ที่ 1.1 พันล้านบาท (+3% YoY แต่ -0.4% QoQ) เนื่องจากปัจจัยฤดูกาล และการบริโภคอ่อนแอช่วงการจัดตั้งรัฐบาลชุดใหม่ ทำให้ยอดขายภายในประเทศใน 9M66 เพิ่มอยู่ที่ 3.3 พันล้านบาท (+13% YoY) และคิดเป็น 73% ของประมาณการยอดขายเต็มปีของเรา ในขณะที่คาดยอดขายต่างประเทศ 3Q66 ดีขึ้นอยู่ที่ 417 ล้านบาท (+6% YoY และ +16% QoQ) รับผลบวกจากการดำเนินงานเชิงพาณิชย์ในสายการผลิตสินค้าเบ็นโตะเต็มรูปแบบที่เวียดนาม ทำให้ยอดขายต่างประเทศ 9M66 เพิ่มอยู่ที่ 1 พันล้านบาท (+12% YoY) และคิดเป็น 55% ของประมาณการยอดขายเต็มปีนี้ของเรา

อัตรากำไรขั้นต้นดีขึ้นจาก product mix

จาก product mix ที่ดีขึ้น (ยอดขายสูงขึ้นจากสินค้ากลุ่ม Snack และยอดขายจากต่างประเทศ) เรามองว่ามีความเป็นไปได้ที่ SNNP จะมีอัตรากำไรขั้นต้นขยายตัว ทั้ง YoY และ QoQ อยู่ที่ 28.1% (+80bps YoY และ +20bps QoQ) ซึ่งส่งผลให้อัตรากำไรขั้นต้น (GPM) ใน 9M66 เพิ่มขึ้นอยู่ที่ 28.1% (+110bps YoY) ใกล้เคียงมากกับสมมติฐานประมาณ GPM เต็มปีนี้ของเราที่ 28.1% ขณะที่เราคาดค่าใช้จ่ายในการขายและบริหาร (SG&A) สามารถควบคุมได้ดี สัดส่วนค่าใช้จ่ายในการขายและบริหารต่อยอดขายใน 3Q66 อยู่ที่ 15.1% (เทียบกับ 16% ใน 3Q65 และ 14.7% ใน 2Q66)

คาดกำไรเข้าสู่ช่วงสูงสุดในไตรมาสที่สี่

เราคาดว่ากำไรของ SNNP จะเข้าสู่ช่วงสูงสุดในไตรมาสที่สี่ หนุนจากยอดขายสินค้าภายในประเทศ (เป็นช่วง high season และการออกสินค้าใหม่) และยอดขายต่างประเทศ (การดำเนินการเชิงพาณิชย์ของโรงงานในเวียดนาม โดยเพิ่มอีก 2 สายการผลิตสำหรับของสินค้าเบ็นโตะ) ขณะที่ประมาณการยอดขายต่างประเทศของเราอาจมี downside จากการเลื่อนการติดตั้งสายการผลิตที่เวียดนาม อย่างไรก็ตาม ประมาณการกำไรสุทธิเต็มปีนี้ของเรามีความเป็นไปได้จากการควบคุมต้นทุนได้ดี ทั้งนี้ ราคาหุ้นปัจจุบันมี valuation น่าสนใจ (โดยซื้อขาย PER ที่ 26.9X อิงจากกำไรต่อหุ้น (EPS) ปี 2566 เท่ากับค่าเฉลี่ยในอดีตของหุ้นในกลุ่ม -1.0 S.D และ PE ที่ 21.2X อิงจาก EPS ปี 2567 หรือเท่ากับค่าเฉลี่ยในอดีตของหุ้นในกลุ่ม -2.0 S.D) เทียบกับอัตราการเติบโตของกำไรปี 2566-2567 ที่ 30% และ 27% YoY ตามลำดับ

Valuation & action

เราาคงราคาเป้าหมาย 1H67 อยู่ที่ 27.00 บาท อิงจาก PER ที่ 35.0x (เท่ากับค่าเฉลี่ยในอดีตของหุ้นในกลุ่ม +1.0 S.D) และคงคำแนะนำ “ซื้อ”

Risks

การเข้ามาของคู่แข่งรายใหม่ ความผันผวนของราคาวัตถุดิบ ความเสี่ยงในการออกผลิตภัณฑ์ใหม่ ๆ ความเสี่ยงจากการลงทุนในบริษัทย่อย ทั้งภายในประเทศและต่างประเทศ และความเสี่ยงด้านอัตราแลกเปลี่ยน

- Advertisement -