บล.บัวหลวง: 

Thai Oil (TOP TB /TOP.BK)

TOP – คาดกำไรไตรมาส 3/66 แข็งแกร่งและมูลค่าหุ้นน่าสนใจ

คาดการณ์กำไรเติบโตแข็งแกร่งในไตรมาส 3/66 และกำไรหลักที่เพิ่มขึ้นต่อเนื่อง YoY ในไตรมาส 4/66 จะหนุนราคาหุ้นของ TOP มูลค่าหุ้นอยู่ในระดับน่าสนใจ โดย PBV ณ สิ้นปี 2567 เพียง 0.6 เท่า (ต่ำกว่าค่าเฉลี่ยระยะยาวที่ 1.4 เท่าอยู่ 1.5 ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน)

คาดกำไรหลักเติบโตอย่างมากในไตรมาส 3/66

เราคาดกำไรสุทธิไตรมาส 3/66 ที่ 10,619 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 907 เท่า YoY และ 10 เท่า QoQ หากไม่รวมรายการพิเศษ ได้แก่ กำไรจากสินค้าคงคลังและขาดทุนจากการป้องกันความเสี่ยงราคาน้ำมันและอัตราแลกเปลี่ยน กำไรหลักจะอยู่ที่ 7,830 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 67% YoY และ 141% QoQ ปัจจัยขับเคลื่อนการเติบโตของกำไรหลัก ได้แก่ 1) อัตราการใช้กำลังการกลั่นที่เพิ่มขึ้น, 2) ค่าการกลันตลาดที่เพิ่มขึ้น และ 3) ส่วนต่างราคาอะโรเมติกส์ที่สูงขึ้

เราคาดอัตราการใช้กำลังการกลั่นของ TOP อยู่ที่ 110% เพิ่มขึ้นจาก 104% ในไตรมาส 3/65 (อุปสงค์ที่แข็งแกร่งขึ้น) แต่ลดลงจาก 113% ในไตรมาส 2/66 (เหตุการณ์น้ำมันรั่วที่ Single Buay Mooring เมื่อวันที่ 3 ก.ย.) ในขณะที่อัตราการใช้กำลังการผลิตของโรงงานอะโรเมติกส์ คาดว่าจะอยู่ที่ 74% เพิ่มขึ้นจาก 70% ในไตรมาส 3/65 และ 71% ในไตรมาส 2/66 (optimization) และคาด อัตราการใช้กำลังการผลิตของโรงงานน้ำมันหล่อลื่นในไตรมาส 3/66 ที่ 76% ลดลงจาก 86% ในไตรมาส 3/65 และ 83% ในไตรมาส 2/66 (optimization) และเราคาดค่าการกลั่นตลาด (market GRM) อยู่ที่ 12.3 เหรียญสหรัฐต่อบาร์เรล เพิ่มขึ้นจาก 6.7 เหรียญสหรัฐต่อบาร์เรลในไตรมาส 3/65 และ 4.5 เหรียญสหรัฐต่อบาร์เรลในไตรมาส 2/66 และค่าการกลั่นตลาดรวม (market GIM) ที่ 13.4 เหรียญสหรัฐต่อบาร์เรล เพิ่มขึ้นจาก 8.8 เหรียญสหรัฐต่อบาร์เรลในไตรมาส 3/65 และ 6.1 เหรียญสหรัฐต่อบาร์เรลในไตรมาส 2/66 (ค่าการกลั่นตลาดและส่วนต่างราคาอะโรเมติกส์ที่เพิ่มขึ้น)

อุปสงค์ช่วงไฮซีซั่นท่ามกลางอุปทานที่ตึงตัวจะหนุนค่าการกลั่นในไตรมาส 4/66

ฤดูหนาวที่ซีกโลกเหนือและการจราจรทางอากาศที่เพิ่มขึ้นจะหนุนอุปสงค์ผลิตภัณฑ์ปิโตรเลียมกลั่นในวงกว้าง (โดยเฉพาะอย่างยิ่งผลิตภัณฑ์กลุ่ม middle distillates) ต่อเนื่องไปจนถึงไตรมาส 4/66 ในทางตรงกันข้ามฤดูการขับขี่ของสหรัฐฯ ได้สิ้นสุดลงแล้ว ดังนั้นอุปสงค์ก๊าซโซลีนและส่วนต่างราคาก๊าซโซลีนจะลดลง QoQ เมื่อมองไปยังอุปทาน การปิดซ่อมบำรุงโรงกลันในช่วงฤดูใบไม้ร่วง และระดับสินค้าคงคลังที่ต่ำเป็นปัจจัยที่จะจำกัดอุปทาน ในขณะที่ต้นทุน น้ำมันดิบ (crude premium) มีแนวโน้มเพิ่มขึ้น QoQ ดังนั้นเราคาดว่าค่าการกลั่นจะลดลง QoQ (และ YoY) ในไตรมาส 4/66 (แต่จะยังคงสูงกว่าค่าเฉลี่ย 5 ปีที่ 4.8 เหรียญสหรัฐฯ/บาร์เรล)

คาดกำไรหลักไตรมาส 4/66 เติบโตต่อเนื่อง YoY

แม้ว่าค่าการกลั่น (GRM) จะปรับตัวลดลง แต่ TOP มีแนวโน้มที่จะรายงานกำไรหลักเติบโตต่อเนื่อง YoY ในไตรมาส 4/66 หนุนจากอัตราการใช้กำลังการกลั่นที่เพิ่มขึ้น, ปริมาณขายอะโรเมติกส์และผลิตภัณฑ์น้ำมันหล่อลื่นที่เพิ่มขึ้น และส่วนต่างราคาอะโรเมติกส์และน้ำมันหล่อลื่นที่สูงขึ้น แต่ในด้าน QoQ เราคาดว่ากำไรหลักจะลดลงเนื่องจากค่าการกลั่น (GRM) ที่ลดลง อย่างไรก็ตามส่วนต่างราคาอะโรเมติกส์และน้ำมันหล่อลื่นที่สูงขึ้นน่าจะช่วยบรรเทากำไรหลักที่ลดลงได้บางส่วน

แนวโน้มไตรมาส 3/66 แข็งแกร่ง ส่งผลให้เราปรับเพิ่มประมาณการกำไรปี 2566

ปัจจุบันเรามีมุมมองเชิงบวกมากขึ้นต่อแนวโน้มกำไรสุทธิในไตรมาส 3/66 ของ TOP ดังนั้นเราจึงปรับเพิ่มประมาณการกำไรปี 2566 ขึ้น 36% มาอยู่ที่ 22,394 ล้านบาทสำหรับกำไรหลัก และ 71% มาอยู่ที่ 21,004 ล้านบาทสำหรับกำไรสุทธิ เรามองว่าอาจมีอัพไซด์ต่อการปรับเพิ่มประมาณการกำไรปี 2566 ของตลาด 30% เราปรับเป้าหมายการลงทุนไปเป็น ณ สิ้นปี 2567 ที่ราคาเป้าหมายใหม่ที่ 68 บาท (อิงกับ PBV ที่ 0.9 เท่า ซึ่งต่ำกว่า ค่าเฉลี่ยระยะยาวของ TOP ที่ 1.4 เท่าอยู่ 1 ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน)

 

- Advertisement -