SAPPE เปิดเกมรุก ร่วมปลูกกัญชงต้นแรกกับ ไทย เฮมพ์ เวลเนส จังหวัดเชียงราย เตรียมต่อยอดสินค้านวัตกรรมที่มีส่วนผสมของ CBD ออกสู่ตลาด “ปิยจิต” เผย เป็นพื้นที่นำร่องที่ ต.ดงมะดะ อ.แม่ลาว ช่วยสร้างอาชีพให้กับเกษตรกร และกลุ่มชาติพันธุ์ โดยบริษัทสนับสนุนต้นกล้ากัญชง ปุ๋ยอินทรีย์ และผลิตภัณฑ์จุลินทรีย์คุณภาพสูง พร้อมทีมนักวิชาการให้คำแนะนำ
นางสาวปิยจิต รักอริยะพงศ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เซ็ปเป้ จำกัด (มหาชน) หรือ SAPPE ร่วมงาน “การปลูกกัญชงต้นแรก 1,600 ไร่ในเชียงราย” โดยมีดร.เสฐียรพงศ์ แก้วสด ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ไทย เฮมพ์ เวลเนส จำกัด มูลนิธิวนเกษตรอินทรีย์ องค์กรภาครัฐ เอกชน และเกษตรกร ร่วมปลูกนำร่องบนพื้นที่ ต.ดงมะดะ อ.แม่ลาว จ.เชียงราย พร้อมเดินหน้าออกสินค้านวัตกรรมที่มีส่วนผสมของสารสกัด CBD หลังภาครัฐปลดล๊อค คาดตลาดอาหาร-เครื่องดื่มคึกคัก
ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร SAPPE กล่าวว่า เซ็ปเป้ได้เตรียมพร้อมรับเทรนด์กัญชงโดยได้ลงนามความร่วมมือและบันทึกข้อตกลง (MOA) ร่วมกับ บจ.ไทย เฮมพ์ เวลเนส ในโครงการส่งเสริมการปลูกพืชกัญชง เมื่อช่วงต้นปีที่ผ่านมา ซึ่งนับเป็นการช่วยสร้างอาชีพให้กับเกษตรกรและกลุ่มชาติพันธุ์ในจังหวัดเชียงราย โดยเป็นความร่วมมือสนับสนุนการลงทุนสำหรับต้นกล้ากัญชง ปุ๋ยอินทรีย์ และผลิตภัณฑ์จุลินทรีย์คุณภาพสูง เพื่อเพิ่มผลผลิต พร้อมจัดทีมนักวิชาการให้คำแนะนำการปลูก การดูแลรักษา การเก็บเกี่ยว และการปฏิบัติตามข้อกฎหมาย กับเกษตรกร
รวมไปถึงรับซื้อผลผลิตและจะนำผลผลิตที่ได้สกัดเป็นสาร CBD และน้ำมันเมล็ดกัญชง (hemp seed oil) และจะนำไปต่อยอดเป็นผลิตภัณฑ์ในอนาคต โดยก่อนหน้านี้เซ็ปเป้ได้ทดลองออกผลิตภัณฑ์ที่มีกลิ่นเทอร์ปีน แบรนด์เซ็ปเป้ บิวติ ดริ้งค์ กรีน รีแล็กซิ่งคาล์ม (Green Relaxing Calm) นำเอากลิ่นเทอร์ปีนซึ่งเป็นกลิ่นลักษณะเดียวกับในใบกัญชามาใช้เป็นส่วนผสม ซึ่งได้รับการตอบรับจากผู้บริโภคดีพอสมควร คาดว่าหลังจากที่กฎหมายปลดล็อกให้ใช้สารสกัดจากกัญชา-กัญชงแล้ว จะมีผลิตภัณฑ์นวัตกรรมใหม่ๆ มาเพิ่มทางเลือกให้ผู้บริโภคมากขึ้น สร้างกระแสให้ตลาดอาหาร-เครื่องดื่มกลับมาคึกคัก ตอบรับการผ่อนคลายมาตรการช่วงโควิดด้วย
ด้านดร.เสฐียรพงศ์ แก้วสด ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ไทย เฮมพ์ เวลเนส จำกัด กล่าวว่า การจัดงานปลูกกัญชงต้นแรก 1,600 ไร่ ในพื้นที่จังหวัดเชียงรายครั้งนี้ เพื่อให้กลุ่มเกษตรกรในพื้นที่ ทราบแนวทางการผลักดันของภาคธุรกิจ โดยตอนนี้กลุ่มพืชที่สามารถทำการเพาะปลูกได้ถูกต้องตามกฎหมายมี 2 ชนิด คือ 1.กัญชง มี สาร CBD สูง 2.กระท่อม ซึ่งภาครัฐให้การปลดล๊อกเมื่อเร็วๆ นี้ สามารถสกัดทำเป็นรูปแบบของเครื่องดื่มได้ แต่ยังต้องวิจัยและศึกษาสารสกัดเพิ่มเติม โดยเซ็ปเป้เป็นหนึ่งในภาคเอกชน ที่ลงนาม MOA เพื่อใช้สารสกัดในการผลิตสินค้ากับทางบริษัท ซึ่งอยู่ในกระบวนการผลิตสารสกัดเพื่อส่งมอบให้
ทั้งนี้ พื้นที่ จ.เชียงราย ถือเป็นแห่งแรกที่มีการปักหมุดเพื่อปลูกต้นกัญชงในเชิงพาณิชย์ โดยบริษัทมีแผนจะส่งเสริมการปลูกในช่วงแรก 1,600 ไร่ จากนั้นภายใน 5 ปีจะเพิ่มให้เป็นประมาณ 100,000 ไร่ เกษตรกรปลูกได้ 2 ครั้ง/ปี ใช้เวลาเพาะปลูก 4 เดือน ก็สามารถเก็บผลิตส่งจำหน่ายให้บริษัทไทยเฮมพ์ เวลเนส จำกัด เพื่อนำไปสกัดสาร CBD ส่งต่อให้กับเอกชนต่อไป จึงนับเป็นพืชเศรษฐกิจที่สร้างรายได้ สร้างความยั่งยืนให้กับเกษตรกร ชุมชน และองค์กรธุรกิจของไทยได้เป็นอย่างดี