เริ่มเห็นการผ่อนคลาย จากอัตราผลตอบแทนปรับลง
Market Update
ตลาดหุ้น Dow Jones เมื่อคืนปิดบวก 0.6% ขานรับผลประกอบการที่แข็งแกร่งของบริษัทจดทะเบียน ด้านราคาน้ำมันดิบ BRT ปิดลบ 2% หลังมีการเปิดเผยข้อมูลเศรษฐกิจที่อ่อนแอของฝั่ง EU และ อังกฤษ
Market Outlook
เมื่อวานที่ผ่านมา กระทรวงพาณิชย์รายงานมูลค่าส่งออกประจำเดือน ก.ย. ขยายตัว 2.1%YoY แต่หากไม่รวมสินค้าเกี่ยวเนื่องกับน้ำมัน ทองคำ และยุทธปัจจัย จะขยายตัวราว 1%YoY สวนทางกับที่ Bloomberg Consensus คาดว่าจะหดตัว -2%YoY โดยการส่งออกขยายตัวต่อเนื่อง 2 เดือนติดต่อ ได้แรงหนุนจากการส่งออกสินค้าเกษตรและอุตสาหกรรมเกษตร จากการส่งออกผลไม้ไปจีน อาทิ ทุเรียน มังคุด รวมทั้งการส่งออกข้าวไปตลาดแอฟริกาใต้และอินโดนีเซีย สำหรับสินค้าอุตสาหกรรมดาวรุ่งที่ขยายตัวต่อเนื่อง ได้แก่ โซลาเซลล์ โทรศัพท์มือถือ อย่างไรก็ตาม ภาคการผลิตโลกเดือนนี้ยังอยู่ในภาวะหดตัว การฟื้นตัวของตลาดหลักยังไม่ทั่วถึง เนื่องจากความขัดแย้งระหว่างประเทศและดอกเบี้ยที่อยู่ระดับสูงกดดันอุปสงค์ สำหรับสินค้าอุตสาหกรรมกลับมาหดตัว (-0.3%YoY) แต่ยังมีสินค้าที่ขยายตัวได้ อาทิ รถยนต์ และส่วนประกอบ (+3.3%YoY) สำหรับเมื่อคืนที่ผ่านมาเริ่มเห็นการปรับลงของ US Bond Yield ทั้งรุ่นอายุ 2 และ 10 ปี พร้อมกับเงินบาทที่เริ่มกลับมาแข็งค่าเช้านี้ มองเป็นปัจจัยหนุนตลาดหุ้นไทยในระยะสั้น สอดคล้องกับตลาดหุ้นญี่ปุ่นที่เช้านี้แกว่งบวก 0.7% โดยคืนนี้รอติดตามภาคอสังหาของสหรัฐฯจากตัวเลขยอดขายบ้านมือหนึ่ง Bloomberg Consensus ประเมินไว้ที่ 6.8 แสนหลังคาเรือนหากรายงานแล้วต่ำกว่าคาดการณ์มองเป็นปัจจัยหนุนกับตลาดหุ้น
วันนี้ประเมิน SET INDEX แกว่งตัวขึ้นในกรอบ 1390 – 1400 เชิงกลยุทธ์การลงทุนยังมองเป็นโอกาสสะสมสำหรับนักลงทุนระยะกลาง – ยาว โดยเน้นที่หุ้นขนาดใหญ่ อาทิ ค้าปลีก (BJC CPALL HMPRO) ธนาคารพาณิชย์ (BBL KBANK KTB SCB) ศูนย์การค้า (CPN) ท่องเที่ยว (AOT CENTEL MINT) สื่อนอกบ้าน (PLANB) โรงภาพยนตร์ (MAJOR) สำหรับ Trading ระยะสั้นเลือกกลุ่มท่องเที่ยว (AOT CENTEL ERW MINT) ธนาคารพาณิชย์ (BBL KBANK KTB)
หุ้นแนะนำซื้อวันนี้
BBL (ซื้อ / ราคาเป้าหมาย 203.00 บาท)
กำไรสุทธิไตรมาส 3/23 อยู่ที่ 1.13 หมื่นล้านบาท (+48.2% YoY, +0.5% QoQ) สูงกว่าคาด 6%หนุนจาก NIM ที่ดีขึ้น การเติบโตที่แข็งแกร่ง YoY เป็นผลจาก 1) NI ที่สูงขึ้นจากการเติบโตของ สินเชื่อและ NIM ที่โตขึ้น บวกกับการตั้งสำรองหนี้ฯ ที่ลดลง ส่วนที่โตเล็กน้อย QoQ เป็นเพราะ N! ที่สูงขึ้น แต่ถูกหักลบโดยรายการ FVTPL ที่ลดลง
AOT (ซื้อ / ราคาเป้าหมาย 82.00 บาท)
AOT รายงานสถิติที่สำคัญในช่วง FY4023 (ก.ค.-ก.ย.) ออกมายังคงเห็นการฟื้นตัวได้อย่าง ต่อเนื่องทั้งในแง่เที่ยวบินที่มีจำนวนสูงสุดนับตั้งแต่เกิดโควิด หรือจำนวนผู้โดยสารระหว่างประเทศที่กลับมายืนเหนือ 15 ล้านคน (แต่ผู้โดยสารรวมยังต่ำกว่าช่วง FY2Q23 เล็กน้อย) จาก ตัวเลขดังกล่าวทำให้เรามองว่ารายได้ในช่วง FY4Q23 จะเห็นการปรับตัวเพิ่มขึ้นได้