KS Daily View 26.10.2023 >>> คาดดัชนีเคลื่อนไหวในกรอบ 1,390-1,425 จุด ตลาดยังถูกกดดันจากอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐ 10 ปี ปรับเพิ่มขึ้นที่ระดับ 4.949% อีกครั้ง หุ้นแนะนำ BH, AP

สรุปภาวะตลาดเมื่อวันวานนี้

  • ต่างประเทศ: ดัชนี DJIA -0.32%, S&P 500 -1.43%, NASDAQ -2.43%โดย Sector ที่ outperform ใน S&P500 ได้แก่ Utilities (+0.48%), Consumer staples (+0.33%) ส่วน Sector ที่ Underperform ได้แก่ Communication services (-5.89%), Consumer discretionary (-2.40%), Real estate (-2.06%) เป็นต้น
  • ในประเทศ: SET Index +10.67 จุด หรือ +0.77% ปิดที่ 1,401.10 จุด หุ้นใน SET100 ที่ราคาเพิ่มขึ้นมากสุด ได้แก่ PTTGC (+5.38%), STGT (+5.22%), EGCO (+4.31%), SJWD (+3.48%) เป็นต้น ส่วนที่ราคาลดลงต่ำสุด ได้แก่ SABUY (-5.41%), WHA (-4.63%), TQM (-4.48%), SNNP (-2.87%) เป็นต้น

แนวโน้มตลาดหุ้นในประเทศ:

ประเมินตลาดหุ้นไทยเคลื่อนไหวในกรอบ 1,390 – 1,425 จุด จากแรงกดดันตลาดหุ้นต่างประเทศที่โดยเฉพาะสหรัฐฯ ที่ปรับลดลงจากการที่ผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯ 10 ปี ปรับเพิ่มขึ้นที่ 4.949% อีกครั้ง และการปรับตัวลดลงของหุ้นอัลฟาเบทที่สร้าง Sentiment เชิงลบต่อตลาดหุ้น Nasdaq รวมถึงภาวะสงครามอิสราเอล-ฮามาส ที่ยังคงดำเนินอยู่ และตลาดยังรอดูข้อมูลตัวเลขเศรษฐกิจ ทั้ง GDP ไตรมาส 3 ของสหรัฐฯ ซึ่งจะประกาศครั้งที่ 1 รวมถึงผลประชุม ECB คาดว่าจะคงอัตราดอกเบี้ยนโยบาย ตัวเลขเงินเฟ้อ PCE ที่จะประกาศวันศุกร์ และผลการประชุมเฟดวันที่ 31 ต.ค. – 1 พ.ย. นี้ ส่วนปัจจัยภายในประเทศตลาดยังคงถูกกดดันจากการปรับลดประมาณการกำไรบริษัทจดทะเบียนและความคืบหน้าของโครงการดิจิทัลวอลเล็ต

ประเด็นสำคัญที่เป็นกระแสในช่วงนี้และมีผลต่อการลงทุน:

  1. กระทรวงพาณิชย์สหรัฐจะเปิดเผยตัวเลขประมาณการครั้งที่ 1 สำหรับผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ประจำไตรมาส 3/2566 ในวันนี้ ขณะที่แบบจำลองคาดการณ์ GDPNow คาดว่าเศรษฐกิจสหรัฐขยายตัวสูงถึง 5.4% ในไตรมาส 3 ขณะที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่าขยายตัวเพียง 4.2% ก่อนหน้านี้ เศรษฐกิจสหรัฐมีการขยายตัว 2.2% และ 2.1% ในไตรมาส 1 และ 2 ตามลำดับ
  2. สมาคมนายธนาคารเพื่อการจำนอง (MBA) ของสหรัฐ เปิดเผยว่าจำนวนผู้ยื่นขอสินเชื่อเพื่อการซื้อที่อยู่อาศัยลดลง 2% ในสัปดาห์ที่แล้ว และดิ่งลง 22% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว หลังการดีดตัวขึ้นของอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ โดยอัตราดอกเบี้ยเงินกู้เฉลี่ยเพื่อการจำนองแบบคงที่ระยะเวลา 30 ปี สำหรับวงเงินกู้ไม่เกิน 726,200 ดอลลาร์ ดีดตัวขึ้นสู่ระดับ 7.90% จากระดับ 7.70% ในสัปดาห์ก่อนหน้านี้ และอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ลอยตัวพุ่งแตะระดับ 9.5% ซึ่งเป็นระดับสูงสุดในรอบเกือบ 1 ปี
  3. ราคาหุ้นของบริษัท อัลฟาเบท ซึ่งเป็นบริษัทแม่ของกูเกิล ดิ่งลงกว่า 9% เนื่องจากนักลงทุนผิดหวังรายได้จากธุรกิจคลาวด์ที่ต่ำกว่าคาด แม้บริษัทเปิดเผยกำไรและรายได้ในไตรมาส 3/2566 สูงกว่าตัวเลขคาดการณ์ ขณะที่บริษัท 29% ในดัชนี S&P 500 ได้เปิดเผยผลประกอบการประจำไตรมาส 3 แล้ว โดยบริษัทราว 78% จากจำนวนดังกล่าว มีกำไรสูงกว่าตัวเลขคาดการณ์ของนักวิเคราะห์

Theme การลงทุนสัปดาห์นี้

ประเมินตลาดหุ้นไทยแกว่งตัวในกรอบ 1,390 – 1,425 จุด แม้ sentiment หุ้นไทยยังคงเปราะบางจากอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลที่ปรับตัวสูงขึ้น และสงครามยังมีความไม่แน่นอน แต่คาดจะเห็นการฟื้นตัวในสัปดาห์นี้หลังการรายงานตัวเลขส่งออกเดือน ก.ย. ดีกว่าคาด และจีนกระตุ้นเศรษฐกิจต่อเนื่อง ทั้งนี้ประเด็นสำคัญที่ต้องติดตามในสัปดาห์นี้ได้แก่ 1.) การประกาศกำไร 3Q23 ของบริษัทจดทะเบียน; 2.) ทิศทางอัตราผลตอบแทนพันธบัตรในประเทศ; 3.) ราคาน้ำมันดิบจากความเสี่ยงที่สงครามอิสราเอล-ฮามาสจะขยายวงในตะวันออกกลาง; และ 4.) ข้อมูลเศรษฐกิจที่สำคัญ ได้แก่ ตัวเลขจีดีพีไตรมาส 3/66 ของสหรัฐฯ และดัชนี PCE/Core PCE Indice ของสหรัฐฯ เดือน ก.ย.

หุ้นแนะนำวันนี้

  • Top pick: BH (ราคาพื้นฐาน 285 บาท) ซื้อเก็งกำไรผลประกอบการคาดกำไรทำสถิติสูงสุดใหม่ในไตรมาส 3/2566 และเป็นหุ้นกลุ่ม Defensive เหมาะกับช่วงตลาดปรับฐาน โดยเราคาดว่าบริษัทจะรายงานกำไรปกติไตรมาส 3/66 ที่ 2.06 พันลบ. เพิ่มขึ้น 18% QoQ และ 37% YoY จากรายได้และอัตรากำไรที่สูงขึ้นสะท้อนถึงอุปสงค์ที่แข็งแกร่งในทุกกลุ่มคนไข้ ซึ่งจะช่วยเพิ่มการประหยัดต่อขนาด และมากพอที่จะชดเชย SG&A ที่เพิ่มขึ้น
  • Top pick : AP (ราคาพื้นฐาน 14.6 บาท) ซื้อเก็งกำไรผลประกอบการในกลุ่ม Value stock ที่ยังมีการจ่ายเงินปันผลที่ดี โดยคาดว่าบริษัทจะรายงานกำไรไตรมาส 3/66 ที่ 1.68 พันลบ. เพิ่มขึ้น 18% YoY และ 8% QoQ มูลค่าการโอนกรรมสิทธิ์ที่คาดจะแข็งแกร่งขึ้น จากการเริ่มโอนกรรมสิทธิ์คอนโดสองโครงการในไตรมาสนี้     และยอดขายสูงสุดใหม่ที่คาดจะเกิดขึ้นในไตรมาส 4/66 เป็นตัวเร่งหลักในระยะสั้น โดยคาดว่าบริษัทจะสามารถจ่ายเงินปันผลทั้งปีที่อัตรา 6.3-6.5% ได้

รายงานตัวเลขเศรษฐกิจ

  • วันพฤหัสฯ ติดตามการประชุมธนาคารกลางของยุโรป (ECB) ตลาดคาดคงอัตราดอกเบี้ยนโยบายที่ 4.50% ต่อด้วยตัวเลข GDP ของสหรัฐฯสำหรับ ไตรมาส 3/2566 ตลาดคาดขยายตัว 4.1% QoQ เทียบกับไตรมาสก่อนหน้าที่ 2.1% QoQ
  • วันศุกร์ ติดตามตัวเลขดัชนีราคารายจ่ายเพื่อการบริโภคส่วนบุคคลของสหรัฐฯ (Personal Consumption Expenditure Price Index) เดือน ก.ย. ตลาดคาดจะเพิ่มขึ้นที่ 0.3% MoM เทียบกับเดือนก่อนหน้าที่ 0.1% MoM และตัวเลขดัชนีความเชื่อมั่นของผู้บริโภค University of Michigan ของสหรัฐฯ สำหรับเดือน ต.ค. ตลาดคาดที่ 63 จุดเทียบกับเดือนก่อนหน้าที่ 68.1 จุด
- Advertisement -