บล.บัวหลวง:
PTT Exploration and Production (PTTEP TB / PTTEP.BK)
PTTEP – กำไรไตรมาส 3/66 ต่ำกว่าคาดเล็กน้อย; คาดไตรมาส 4/66 เติบโต QoQ
ต่ำกว่าคาดเล็กน้อย
PTTEP รายงานกำไรสุทธิไตรมาส 3/66 ที่ 18,101 ล้านบาท ลดลง 25% YoY และ 14% QoQ หากไม่รวมรายการพิเศษ กำไรหลักจะอยู่ที่ 18,985 ล้านบาท ลดลง 18% YoY และ 6% QoQ ผลประกอบการตำกว่าคาด 9% (ตำกว่าที่ตลาดคาด 5%) เนื่องจากราคาขายเฉลี่ยต่ำกว่าคาดและต้นทุนต่อหน่วยสูงกว่าที่คาด
ประเด็นสำคัญจากผลประกอบการ
ขาดทุนจากรายการพิเศษสุทธิอยู่ที่ 25 ล้านเหรียญสหรัฐ โดยหลักมาจากขาดทุนจากอัตราแลกเปลี่ยนและขาดทุนจากตราสารอนุพันธ์ ปัจจัยที่กดดันกำไรหลักให้ปรับตัวลดลง ได้แก่ 1) ปริมาณขายที่ลดลง, 2) ราคาขายเฉลี่ยที่ลดลง, 3) ต้นทุนต่อหน่วยที่สูงขึ้น, 4) ดอกเบี้ยจ่ายที่สูงขึ้น, และ 5) อัตราภาษีจ่ายที่สูงขึ้น
ปริมาณขายปิโตรเลียมเฉลี่ยอยู่ที่ 4.67 แสนบาร์เรล/วัน ในไตรมาส 3/66 ลดลง 2% YoY แต่เพิ่มขึ้น 5% QoQ (ผลผลิตที่สูงขึ้นที่โครงการ G1 [ไทย], PDO & Block-61 [โอมาน] และ Sabah-K [มาเลเซีย]) ราคาขายปิโตรเลียมเฉลี่ยในไตรมาสนี้อยู่ที่ 48.6 เหรียญสหรัฐ/บาร์เรล ลดลง 9% YoY (ราคาขายน้ำมันดิบและก๊าซที่ลดลง) แต่เพิ่มขึ้น 6% QoQ (ราคาขายน้ำมันดิบที่สูงขึ้น) ต้นทุนต่อหน่วยอยู่ที่ 29.1 เหรียญสหรัฐ/บาร์เรล เพิ่มขึ้น 1% YoY และ 10% QoQ (ค่าใช้จ่ายในการดำเนินงาน, การสำรวจ, ค่าเสื่อมราคา, และ ค่าภาคหลวงที่สูงขึ้น)
แนวโน้ม
เราคาดว่ากำไรหลักไตรมาส 4/66 ของ PTTEP จะเป็นไตรมาสทีดีที่สุดของปี 2566 โดยปรับตัวเพิ่มขึ้น QoQ หนุนโดยปริมาณขายที่เพิ่มขึ้น และราคาขายเฉลี่ยที่สูงขึ้น แต่ในด้าน YoY กำไรหลักคาดว่าจะปรับตัวลดลง เนื่องจากปริมาณขายที่ลดลงและราคาขายเฉลี่ยที่ลดลง เราคาดปริมาณขายปิโตรเลียมอยู่ที่ 4.81 แสนบาร์เรล/วัน ลดลง 4% YoY (ปริมาณการผลิตลดลงที่โครงการ HBR [แอลจีเรีย]) แต่เพิ่มขึ้น 4% QoQ (ปริมาณการผลิตสูงขึ้นที่โครงการ G1, G2 และ B8/32) ราคาขายปิโตรเลียมเฉลี่ยคาดว่าจะลดลง YoY (ราคาขายก๊าซลดลง) แต่เพิ่มขึ้น QoQ (ราคาขายน้ำมันดิบที่สูงขึ้น) ต้นทุนต่อหน่วยมีแนวโน้มเพิ่มขึ้น YoY และ QoQ มาอยู่ที่ 29.6 เหรียญสหรัฐ/บาร์เรล (ค่าใช้จ่ายในการดำเนินงาน, การสำรวจ, ค่าเสื่อมราคา, ค่าภาคหลวง, และค่าใช้จ่ายทั่วไปและการบริหารที่สูงขึ้น)
สิ่งที่เปลี่ยนแปลง
กำไรสุทธิ 9 เดือนแรกของปี 2566 คิดเป็น 83% ของประมาณการกำไรสุทธิปี 2566 ของเราที่ 70,259 ล้านบาท ซึ่งเรายังคงประมาณการไว้ไม่เปลี่ยนแปลง ทั้งนี้อาจมีอัพไซด์ต่อประมาณการกำไรของเราจากราคาน้ำมันดิบที่สูงกว่าคาด หากราคาน้ำมันดิบดูไบเฉลี่ยอยู่ในช่วง 85-90 เหรียญสหรัฐ/บาร์เรลในไตรมาส 4/66 อาจมีอัพไซด์ต่อประมาณการกำไรหลักปี 2566 ของเรา (และประมาณการตลาด) ประมาณ 15%
คำแนะนำ
ไตรมาส 4/66 จะเป็นไตรมาสที่ดีที่สุดของปี 2566 กำไรที่แข็งแกร่งจะหนุนราคาหุ้นให้ปรับตัวขึ้น นอกจากนี้มูลค่าปัจจุบันยังน่าสนใจ โดยซื้อขายที่ PBV ปี 2566 อยู่ที่ 1.3 เท่า (ต่ำกว่าค่าเฉลี่ยระยะยาวที่ 2.0 เท่าอยู่ 0.7 ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน) และอัตราผลตอบแทนจากเงินปันผลที่ดีในปี 2566 ที่ 5.2% (เทียบกับ 3.0% โดยเฉลี่ยสำหรับตลาดหลักทรัพย์)