บล.ฟิลลิป
ธนาคารกรุงเทพ – BBL ยังโตต่อได้ แต่มีความท้าทาย
Key Point
การลงทุนทางตรง การย้ายฐานการผลิต และการฟื้นตัวของธุรกิจท่องเที่ยวจะทำให้ความต้องการสินเชื่อยังมีอยู่ และส่งผลดีต่อการเติบโตของ BBL แต่ความเสี่ยงก็ยังคงมีอยู่ และจะยังทำให้การตั้งสำรองของ BBL จะยังคงสูงต่อเนื่องไปอีก ถึงแม้ว่า BBL จะมีสัดส่วนสำรองต่อ NPL สูงที่สุดในระบบแล้วก็ตาม ส่วนต่างอัตราดอกเบี้ยน่าจะยังคงเติบโตได้ต่อ และทำให้กำไรในปีนี้และปีต่อไปยังเติบโต ยังคงราคาพื้นฐาน 190 บาท และยังแนะนำ “ซื้อ”
ยังมีความต้องการสินเชื่อรออยู่
การลงทุนทางตรงจากต่างประเทศ เนื่องจากความต้องการย้ายฐานการผลิต การฟื้นตัวของภาคธุรกิจท่องเที่ยว และนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจต่าง ๆ ของรัฐบาล น่าจะทำให้ความต้องการสินเชื่อยังโตต่อและไม่เฉพาะในประเทศไทยเท่านั้น แต่ความต้องการสินเชื่อในต่างประเทศก็ยังเพิ่มสูงขึ้น และ BBL ที่มีเครือข่ายต่างประเทศที่แข็งแกร่งก็จะได้ประโยชน์จากตรงนี้ด้วย โดยทาง BBL คาดว่า GDP ของประเทศไทยในปี 67 จะเติบโตได้ที่ 3 – 4% จากปีนี้ที่น่าจะเติบโตได้ประมาณ 3%
ยังมีความเสี่ยง และอาจจะตั้งสำรองสูงต่อ
ถึงแม้จะคาดว่าการเติบโตจะยังคงมีต่อเนื่อง แต่ความเสี่ยงก็มีเช่นเดียวกัน ไม่ว่าจะเป็นสงครามระหว่างกลุ่มฮามาส และอิสราเอล และความซบเซาในภาคอสังหาริมทรัพย์ในจีน ซึ่งอาจจะทำให้การเติบโตของจีนไม่เป็นไปตามที่คาด และอาจจะกระทบกับการลงทุนในไทย และการส่งออกของไทย ด้วยความไม่แน่นอนดังกล่าว อาจจะทำให้ BBL จะยังคงมีการตั้งสำรองสูงต่อเนื่องในปี 4Q66 และใน ปี 67 ถึงแม้ว่า BBL จะมีสัดส่วนสำรองต่อ NPL สูงถึง 258% ซึ่งเป็นระดับที่สูงที่สุดในระบบแล้วก็ตาม
ด้วยโครงสร้างสินเชื่อ และการบริหารจัดการยังน่าจะเห็นการเพิ่มขึ้นของส่วนต่างอัตราดอกเบี้ยได้
ด้วยโครงสร้างสินเชื่อที่ BBL มีสินเชื่อรายย่อยอยู่เพียง 12% ของสินเชื่อทั้งหมด และสินเชื่อที่เหลือเกือบทั้งหมดจะคิดอัตราดอกเบี้ยแบบลอยตัว ทำให้ BBL เป็นธนาคารที่ได้ประโยชน์จากอัตราดอกเบี้ยขาขึ้นมากที่สุดในมุมมองของทางฝ่าย และถึงแม้ว่าดอกเบี้ยนโยบายอาจจะคงที่อยู่ในระดับนี้ แต่ความต้องการสินเชื่อ การปรับอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ในลูกค้าบางราย และการบริหารจัดการต้นทุนดอกเบี้ยจะยังคงทำให้ส่วนต่างอัตราดอกเบี้ยของ BBL เพิ่มขึ้นได้ต่อ และน่าจะสูงกว่าเป้าที่ทาง BBL ตั้งไว้ที่ 2.5% (ส่วนต่างอัตราดอกเบี้ยของ BBL ใน 3Q66 อยู่ที่ 3.1%)
ยังคงประมาณการ และราคาพื้นฐาน
ทางฝ่ายยังคงประมาณกำไรปี 66 ของ BBL ไว้ที่ 42 พันลบ. เพิ่มขึ้นถึง 44.2% y-y และปี 67 คาดว่ากำไรจะเติบโตต่อ 13.1% y-y เป็น 48 พันลบ. และยังคงราคาพื้นฐานไว้ที่ 190 บาท ยังแนะนำ “ซื้อ”