บล.เคจีไอ (ประเทศไทย):

Electricity Generating (EGCO.BK/EGCO TB)*

ประมาณการ 3Q66F: กำไรจะดีแค่ชั่วคราว

Event

ประมาณการ 3Q66F

Impact

ประมาณการ 3Q66F – กำไรจะเพิ่มขึ้นทั้ง QoQ และ YoY

วันที่ 14 พ.ย. เราคาดว่า EGCO จะมีกำไรสุทธิ 3Q66F อยู่ที่ 2.33 พันล้านบาท (+60% QoQ, พลิกฟื้น YoY) จากขาดทุน FX ลดลง แต่หากไม่รวม FX และรายการพิเศษอื่น ๆ เราคาดว่ากำไรหลักจะอยู่ที่ 3.24 พันล้านบาท (+10% QoQ, +22% YoY) ซึ่งจะทำให้กำไรหลัก 9M66F อยู่ที่ 7.4 พันล้านบาท (-28% YoY) คิดเป็น 99% ของกำไรปี 2566F ฉุดจากการไม่มีส่วนแบ่งกำไรโครงการความร้อนใต้พิภพแล้ว ทั้งนี้กำไรที่เพิ่มขึ้น QoQ เป็นเพราะ i) เป็นช่วง peak ตามฤดูกาลโครงการพลังน้ำ (NT1PC, NTPC, ไซยะบุรี) ii) ผลการดำเนินงานแข็งแกร่งขึ้นทั้งโครงการ Linden (ไม่มีซ่อมบำรุง) และ Apex (โครงการที่ดำเนินการแข็งแกร่งมากขึ้น) ส่วนผลประกอบการที่ดีขึ้นมาก YoY เพราะโครงการ Paju ES (บริหารต้นทุนได้ดี และราคา LNG ลดลง), KEGCO & Linden (ปิดซ่อมน้อยลง) และ SPPs แม้ว่าผลการดำเนินงานของบางโครงการจะลดลง เช่น ไซยะบุรี, BLCP และ MME เราคาดว่ารายได้รวม EGCO จะลดลงทั้ง QoQ และ YoY จากกลไกส่งผ่านต้นทุนเชื้อเพลิง โดยคาดว่า GPM จะลงมาที่ 16.4% (จาก 17.2% ใน 2Q66)

คาดว่าผลกระทบจากความผันผวนของอัตราแลกเปลี่ยนจะลดลง

นักลงทุนดูเป็นกังวลมากกับ EGCO ที่บันทึกผลกำไร/ขาดทุนจาก FX และตราสารอนุพันธ์ตามราคาตลาด (marked-to-market) ซึ่งปกติจะบดบังผลการดำเนินงานจากหลักแต่ละไตรมาส ทั้งนี้ จากการที่ได้พูดคุยกับ CFO ทำให้ทราบว่า EGCO ได้เริ่มนำนโยบาย centralized matching finance มาใช้ในการดูแลให้รายได้ และสินเชื่อพอดีกันเพื่อปิดความเสี่ยงดังกล่าวลง ดังนั้น เราจึงคาดว่าผลกระทบจาก FX น่าจะลดลงใน 1Q67 เป็นอย่างเร็ว ขณะที่จะใช้นโยบายดังกล่าวกับตราสารอื่น ๆ (นำโดยอนุพันธ์) ลำดับถัดไป

ยังมี upside อีก & แนวโน้มใน 4Q66F

เนื่องจาก Paju ES ใน 3Q66F แข็งแกร่งเกินคาด เราจึงมองว่ากำไรสุทธิปี 2566F ของเรามี upside อีก 20-
25% นอกจากนี้ ยังมี upside อีกจากดีล M&A ในสหรัฐ (950MWe) – RISEC (298MWe ตั้งแต่เดือน มีนาคม 2566) และ Compass portfolio (652MWe, 1Q67) ซึ่งจากการคำนวณเบื้องต้น เราประเมินว่าจะมี upside อีกปีละ 750-850 ล้านบาท (11-13% ของกำไรหลักปี 2567 และต่อๆไป) ทั้งนี้ นอกจากจะเป็นช่วง low season แล้ว เราเชื่อว่าผลประกอบการใน 4Q66F ยังมีความเสี่ยงบันทึกด้อยค่าของสินทรัพย์ที่ดำเนินการอยู่ อย่างเช่น โครงการที่ใช้ adder และ Quezon ซึ่งกำลังอยู่ระหว่างการเจรจาต่ออายุ PPA (ซึ่งจะหมดอายุในเดือนมิถุนายน 2568) ซึ่ง PPA ฉบับใหม่น่าจะมีเงื่อนไขที่แย่ลงกว่า PPA ปัจจุบัน เนื่องจากค่าไฟฟ้าลดลง และ กระแส ESG ซึ่งน่าจะทำให้ต้องมีการบันทึกผลขาดทุนจากการด้อยค่าของสินทรัพย์

Valuation & Action

เรายังแนะนำ ถือ EGCO ราคาเป้าหมาย 138.00 บาท ราคาหุ้นปัจจุบันมี P/BV ที่ 0.5x (ต่ำเป็นประวัติการณ์) และ P/E ที่ 10x โดยเงินปันผล 5% ต่อปี ทำให้ EGCO เป็นหุ้น deep value stock สำหรับนักลงทุนที่หาเงินปันผล ทั้งนี้เราคาดว่า ROE น่าจะยังอยู่ในช่วงต่ำ ซึ่งต่ำกว่าในอดีตที่ผ่านมาอย่างมาก

Risks

การปิดโรงไฟฟ้านอกแผน, ปัญหา cost overruns, ความผันผวนของอัตราแลกเปลี่ยนและอัตราดอกเบี้ย

- Advertisement -