บล.พาย:

HMPRO: Home Product Center PCL

กำไรไตรมาส 3/23 ทรงตัว YoY ตามคาด

ไตรมาส 3 คือฤดูฝนของไทย ซึ่งเป็นช่วงที่มักมียอดขายรายไตรมาสต่ำสุดของปี กำไรสุทธิไตรมาส 3/23 อยู่ที่ 1.53 พันล้านบาท (-5%QoQ) สอดคล้องกับที่เราและตลาดคาด กำไรที่ทรงตัว YoY เป็นผลจากรายได้ที่โตจากสาขาใหม่ หักลบกับการเติบโตของยอดขายสาขาเดิม (SSSG) ที่ติดลบ 3.5%YoY (HomePro ที่ -3.6%, Mega Home ที่ -1.5%, และ HomePro Malaysia ที่ -6%) ด้วยการบริโภคที่อ่อนแอหลังเลือกตั้ง SSSG ของบริษัทจึงติดลบหลักหน่วยต้นในเดือน ก.ค. 2023 และหลักหน่วยกลางในเดือน ก.ย. 2023 แต่เราเชื่อว่าจะปรับดีขึ้นในไตรมาส 4/23 และปี 2024 หนุนจากมาตรการกระตุ้นภาครัฐและยอดขายย่านท่องเที่ยวที่ฟื้นตัวขึ้น เราคงคำแนะนำ “ซื้อ” มูลค่าพื้นฐาน 15.90 บาท

กำไรไตรมาส 3/23 ยังทรงตัว YoY

  • กำไรปกติอยู่ที่ 1.5 พันล้านบาท (ทรงตัว YoY, -5%QoQ) กำไรงวด 9 เดือนคิดเป็น 71% ของประมาณการทั้งปี 2023 ของเรา
  • รายได้ไตรมาส 3/23 อยู่ที่ 1.68 หมื่นล้านบาท (+3%YoY, – 8%QoQ) หนุนจากยอดขายสินค้าตกแต่งบ้านที่ปรับเพิ่มเป็น 1.64 หมื่นล้านบาท (+3%YoY) จากการขยายสาขา Mega Home ในช่วง 12 เดือนที่ผ่านมา บวกกับรายได้ที่โตขึ้นจากสาขาในย่านท่องเที่ยวที่ชดชย SSSG ที่ลดลง
  • อัตรากำไรขั้นต้น (GPM) ในไตรมาส 3/23 ลดลง YoY เป็น 27.4% จาก 27.6% ในไตรมาส 3/22 จากสัดส่วนยอดขายที่ไม่เป็นใจ แต่ปรับดีขึ้น QoQ จาก 27.1% สืบเนื่องจากอัตรากำไรที่สูงขึ้น GPM ของตัวสินค้าปรับลดลง YoY แต่ดีขึ้น QoQ เป็น 26.7% ฉุดจากสัดส่วนยอดขายที่ไม่เป็นใจ สืบเนื่องจากยอดขาย Mega Home ที่สูงขึ้น ซึ่งเป็นส่วนที่ทำกำไรต่ำกว่า Homepro อยู่ 3%-4% ปัจจัยดังกล่าวจะไปหักลบกับสัดส่วนยอดขายสินค้าแบรนด์บริษัทที่คาดว่าจะปรับสูงขึ้น
  • อัตราส่วนค่าใช้จ่ายการขายและบริหาร (SG&A) ต่อยอดขายในไตรมาส 3/23 ยังทรงตัว YoY ที่ 19.2% สืบเนื่องจากค่าใช้จ่ายสาธารณูปโภค และต้นทุนจากการขยายสาขาใหม่
  • สรุปภาพรวมการขยายสาขาในไตรมาส 3/23: บริษัทเปิดสาขา HomePro ไป 1 แห่งที่ซีคอน บางแค และ Mega Home 1 สาขาในปลวกแดง จ.ระยอง โดย ณ ปลายเดือน ก.ย. 2023 บริษัทมี Home Pro 87 สาขา HomePro S 5 สาขา Mega Home 25 สาขา HomePro Malaysia 7 สาขา และ HomePro Vietnam ที่หลัก ๆดำเนินการจัดจำหน่ายสินค้าภายตลาดออนไลน์

คงคำแนะนำ “ซื้อ” มูลค่าหุ้นไม่แพง

ด้วยภาพรวมการเติบโตของกำไรที่สดใส หนุนจากยอดขายย่านท่องเที่ยวที่ฟื้นตัว มาตรการกระตุ้นภาครัฐ และมูลค่าหุ้นที่น่าถึงดูดหรือซื้อขายกันที่ -1SD ต่อค่าเฉลี่ย 5 ปี

มูลค่าพื้นฐาน 15.90 บาท คำนวณด้วยวิธีคิดลดเงินสด (DCF) (WACC 8.6%, TG 3%) มูลค่าพื้นฐานของเราอิง 31xPE’23E ใกล้เคียงค่าเฉลี่ยกลุ่มสินค้าตกแต่งบ้านของไทย

Revenue breakdown

  • รายได้จากการทำสัญญากับลูกค้า

บริษัทจำหน่ายสินค้าหลากหลายประเภทดังนี้:

    • กลุ่ม hard line: สินค้าตกแต่งบ้าน สุขภัณฑ์ เครื่องใช้ในครัว และอุปกรณ์ในครัวเรือน
    • กลุ่ม soft line: เตียงนอน เฟอร์นิเจอร์ ผลิตภัณฑ์ตกแต่งในครัวเรือน อุปกรณ์ไฟฟ้าและความสว่าง
    • บริการเกี่ยวกับบ้าน: 1) บริการตกแต่งและปรับปรุง เช่น ปรับปรุงห้องน้ำ ห้องครัว ห้องนั่งเล่น ด้วยระบบคอมพิวเตอร์ 3D 2) บริการติดตั้ง ย้าย และซ่อมแซม 3) บริการตรวจสอบ ทำความสะอาด และบำรุงอุปกรณ์ไฟฟ้า 4) บริการล้าง ทำความสะอาด และฆ่าเชื้อ และ 5) บริการปรับปรุงบ้านและพื้นที่ภายในบ้าน
  • รายได้จากบริษัทย่อยแบ่งเป็น 12% จากไทยและ 2% จากกลุ่ม CLMV
  • รายได้อื่น ๆ จากค่าธรรมเนียมภายในร้าน
- Advertisement -