รอติดตามผลประชุมธนาคารกลางสหรัฐฯ

Market Update

ตลาดหุ้น Dow Jones เมื่อคืนปิดบวก 0.38% นักลงทุน Wait & See รอดูผลประชุม FED ที่จะทราบผลในพรุ่งนี้เช้าตามเวลาประเทศไทย ด้านราคาน้ำมันดิบ WTI ปิดลบ 1.6% หลังมีรายงานว่ากลุ่ม OPEC และสหรัฐฯ ผลิตน้ำมันเพิ่มมากขึ้น

Market Outlook

เมื่อวานที่ผ่านมา ธนาคารแห่งประเทศไทยรายงานภาวะเศรษฐกิจไทยประจำเดือนก.ย. ภาพรวมอยู่ในทิศทางฟื้นตัว  โดยกิจกรรมในภาคบริการฟื้นตัวต่อเนื่องตามจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติ ประกอบกับมูลค่าส่งออกสินค้าไม่รวมทองคำปรับเพิ่มขึ้นในหลายหมวดสินค้า ขณะที่อุปสงค์ในประเทศทั้งการบริโภคและลงทุนภาคเอกชนชะลอลงหลังเร่งไปช่วงก่อนหน้า สำหรับการใช้จ่ายภาครัฐหดตัวจากทั้งรายจ่ายของรัฐบาลกลางและลงทุนรัฐวิสาหกิจ ด้านเงินเฟ้อทั่วไปลดลงจากทุกหมวดหลักตามราคาผัก ผลไม้ และเนื้อสัตว์ ด้านพลังงานลดลงจากมาตรการค่าไฟฟ้าภาครัฐและน้ำมันดีเซล จากปัจจัยข้างต้นมองเป็นบวกกับหุ้นในกลุ่มค้าปลีก (BJC CRC CPALL HMPRO) รวมไปถึงกลุ่มบริการ (AOT CENTEL ERW MINT SPA) สำหรับดุลการค้าพบว่าเกินดุลราว 3.4 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯมากกว่าตลาดคาดไว้ที่ 2.1 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ มองเป็นบวกต่อค่าเงินบาทในระยะสั้น จากความต้องการที่มากขึ้น โดยคืนนี้รอติดตามผลประชุม FED อิงข้อมูลจาก CME FED Watch ให้น้ำหนักราว 98.3% ที่ FED จะคงดอกเบี้ยไว้ที่ระดับเดิม อย่างไรก็ตาม เชื่อว่าปัจจัยด้านดอกเบี้ยมีผลกระทบจำกัดต่อการเคลื่อนไหวของสินทรัพย์ต่างๆ  โดยประเมินว่าปัจจัยที่มีผลมากกว่า ได้แก่ ถ้อยแถลงของประธาน FED ซึ่งมีความเป็นไปได้ที่จะส่งสัญญาณเข้มงวดจากระดับเงินเฟ้อที่ยังสูง ล่าสุด PCE ออกมาที่ 3.5%YoY และมีแนวโน้มที่จะทรงตัวระดับนี้ไปจนกระทั่งกลางปี 2024 ซึ่งตัวเลขเงินเฟือที่ระดับ 3% +/- ห่างไกลจากเป้าหมายของ FED ที่ 2% ประกอบกับตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐฯที่ยังแข็งแกร่ง

วันนี้ประเมิน SET INDEX เคลื่อนไหวในกรอบ 1370 – 1390 เชิงกลยุทธ์การลงทุนยังประเมินดัชนีระดับปัจจุบันเป็นโอกาสสะสมสำหรับลงทุนระยะกลาง – ยาว จากระดับ Valuation ที่น่าสนใจ ล่าสุดซื้อขายที่เพียง 13.9x PE 2024 แต่เน้นสะสมหุ้นขนาดใหญ่ อาทิ ค้าปลีก (BJC CRC CPALL HMPRO) ท่องเที่ยว (AOT CENTEL MINT) ธนาคารพาณิชย์ (BBL KBANK KTB SCB) ศูนย์การค้า (CPN) ร้านอาหาร (M) ส่งออก (TU) สื่อสาร (ADVANC)

หุ้นแนะนำซื้อวันนี้

BBL (ซื้อ / ราคาเป้าหมาย 203.00 บาท)

คาดการเติบโตของกำไรจะแผ่วลงเป็น 14% แต่ยังสูงกว่าคาดการณ์เฉลี่ยสำหรับกลุ่มโดยรวมที่ 11% ทั้งนี้ แม้จะมีความไม่แน่นอนในอนาคต แต่พื้นฐานของ BBL ยังแข็งแกร่ง ด้วยสำรองหนี้ฯ ที่เพียงพอ และเงินทุนขั้นที่ 1 ที่แข็งแกร่ง พร้อมรับมือกับสภาวะเศรษฐกิจโลกชะลอตัวที่อาจรุนแรงขึ้น ขณะที่คาดว่ากำไรสุทธิไตรมาส 4/23 จะโตแข็งแกร่ง 28% YoY

AOT (ซื้อ / ราคาเป้าหมาย 82.00 บาท)

สำหรับแนวโน้มในปี 24 (ต.ค.23-ก.ย.24) เราคาดว่าด้วยมาตรการฟรีวีซ่าสำหรับนักท่องเที่ยวจากประเทศจีน ที่เริ่มมาตั้งแต่วันที่ 25 ก.ย. 23 ที่ผ่านมาจะเป็นปัจจัยบวกให้กับจำนวนผู้โดยสารที่จะเห็นการปรับตัวเพิ่มขึ้น เพราะจำนวนนักท่องเที่ยวจากจีนนับตั้งแต่ต้นปี มีจำนวนมากกว่า 2.4 ล้านคน สูงเป็นลำดับที่ 2 รองจากประเทศมาเลเซียที่มีจำนวน 3.18 ล้านคน

- Advertisement -