แรงงานสหรัฐฯ ส่งสัญญาณอ่อนแอ หนุนตลาดหุ้น
Market Update
ตลาดหุ้น Dow Jones เมื่อคืนปิดบวก 1.7% ขานรับคาดการณ์ดอกเบี้ย FED สิ้นสุดวงจรขาขึ้น หลังรายงานผู้ขอสวัสดิการว่างงานแย่กว่าตลาดคาดการณ์ ด้านราคาน้ำมันดิบ BRT ปิดบวก 2.6% แรงหนุนจากเรื่องของนโยบายการเงินผ่อนคลาย
Market Outlook
เมื่อคืนที่ผ่านมา สหรัฐฯรายงานผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานที่ 2.17 แสนราย สูงกว่า Bloomberg Consensus ประเมินไว้ที่ 2.1 แสนราย ขณะที่รายงานผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานต่อเนื่องที่ 1.818 ล้านราย สูงกว่า Bloomberg Consensus ประเมินไว้ที่ 1.8 ล้านราย สะท้อนถึงตลาดแรงงานสหรัฐที่เริ่มอ่อนแอลงบ้างเล็กน้อย แต่อย่างไรก็ตาม นักลงทุนประเมินเป็นปัจจัยบวก เพราะจะช่วยให้วงจรการใช้นโยบายการเงินเข้มงวดมีโอกาสสูงที่จะจบ สอดคล้องกับ US Bond Yield ที่เริ่มปรับตัวลงทั้งรุ่นอายุ 2 และ 10 ปี ความเห็นล่าสุดจาก CME FED Watch ให้น้ำหนักราว 80% ที่ FED จะคงดอกเบี้ยระดับเดิมในการประชุมเดือน ธ.ค. ยังไม่เปลี่ยนแปลงมากนักเมื่อเทียบกับวันก่อนหน้า ส่วนแนวโน้ม US Bond Yield จากนี้จำเป็นต้องติดตามตัวเลขเศรษฐกิจใกล้ชิด หากเห็นการอ่อนแอของเศรษฐกิจต่อเนื่องก็มีความเป็นไปได้ที่ Yield จะปรับลงต่อเนื่อง รวมถึงทิศทางเงินเฟ้อสหรัฐฯ อย่างไรก็ตามความเห็นเรายังประเมินว่า Yield จะปรับลงเพียงระยะสั้นจนกว่าจะเห็นสัญญาณการลดดอกเบี้ยที่ชัดเจนจากธนาคารกลางสหรัฐฯ โดยคืนนี้รอติดตามตัวแรงงานสหรัฐฯ (1) การจ้างงานนอกภาคเกษตรของสหรัฐฯ Bloomberg Consensus ประเมินไว้ที่ 3.8% (2) ค่าจ้างเฉลี่ยรายชั่วโมง Bloomberg ประเมินไว้ที่ 0.3%MoM หากมีสัญญาณที่รายงานออกมาแล้วบ่งชี้ในทางผ่อนคลายต่อเศรษฐกิจจะหนุน US Bond Yield ปรับลง และเป็นบวกกับตลาดหุ้น
สำหรับสัปดาห์หน้ารอติดตามเงินเฟ้อไทยประจำเดือน ต.ค. Bloomberg Consensus ประเมินไว้ที่ 0.6%YoY หากรายงานแล้วแย่กว่าคาดการณ์จะเป็นบวกกับตลาดหุ้น วันนี้ประเมิน SET INDEX แกว่งขึ้นในกรอบ 1400 – 1415 รับปัจจัยบวกจากตลาดหุ้นสหรัฐฯและราคาน้ำมันดิบที่ปรับขึ้น เชิงกลยุทธ์การลงทุนยังแนะสะสมได้สำหรับนักลงทุนระยะกลางขึ้นไป แต่เน้นที่หุ้นขนาดใหญ่ที่ Valuation ยังไม่แพง อาทิ ค้าปลีก (BJC CPALL HMPRO) ท่องเที่ยว (AOT CENTEL MINT) ธนาคารพาณิชย์ (BBL KBANK KTB SCB) ศูนย์การค้า (CPN) ขนส่ง (BEM) กลุ่มการเงิน (SAWAD TIDLOR) ส่วน Trading ระยะสั้นแนะนำกลุ่มน้ำมัน (PTTEP) โรงกลั่น (BCP SPRC TOP) และกลุ่มการเงิน (SAWAD TIDLOR) ปัจจัยหนุนจากการผ่อนคลายดอกเบี้ย
หุ้นแนะนำซื้อวันนี้
TOP (ซื้อ / ราคาเป้าหมาย 64.00 บาท)
คาดกำไรสุทธิไตรมาส 3/23 จะโตแตะยอดสูงในรอบ 5 ไตรมาสที่ 9.9 พันล้านบาท จาก 11 ล้านบาทในไตรมาส 3/22 และ 1.1 พันล้านบาทในไตรมาส 2/23 หนุนจากค่าการกลันที่สูงขึ้น และกำไรจากสต็อกน้ำมันเพราะราคาน้ำมันที่สูงขึ้น ค่าการกลั่นพื้นฐานปรับเพิ่มขึ้นเกือบ 3 เท่า QoQ เป็น US$12.0/บาร์เรล หนุนจาก 1) ส่วนต่างราคาน้ำมันชนิดกลางที่แข็งแกร่งขึ้น (ดีเซล เชื้อเพลิงอากาศยาน) เพราะโรงกลั่นที่ปิดซ่อมบำรุงในตลาดโลก และ 2) ค่าพรีเมี่ยมน้ำมันดิบ Murban ที่ลดลง
TIDLOR (ซื้อ / ราคาเป้าหมาย 30.00 บาท)
คาดถึงกำไรที่จะค่อยปรับสูงขึ้นอย่างเป็นลำดับจากฐานต่ำในไตรมาส 2/23 ด้วยคุณภาพสินเชื่อที่ยืดหยุ่นดีขึ้นในครึ่งหลังปี 2023 ด้วยคาดการณ์ว่ากำไรของ TIDLOR จะโต 16% YoY และ 6% HOH หนุนจากรายได้ดอกเบี้ยสุทธิ (Nil) และรายได้ค่าธรรมเนียมที่สูงขึ้น