คาดการณ์ตลาดหุ้นไทยวันนี้

คาดดัชนีฯ ปรับตัวขึ้น แนวต้าน 1625 / 1635 จุด แนวรับ 1615 / 1600 จุด แนะนำเก็งกำไร TOP TU APURE ทางเทคนิค ระยะสั้นมีแนวโน้มปรับตัวข้ึนต่อ จากเมื่อวานน้ี หลังจากเฟดยังไม่กำหนดไทม์ไลน์ลด QE ในการประชุมครั้งนี้ อย่างไรก็ดี การปรับสูงขึ้นของดัชนีฯ อาจเป็นเพียงชั่วคราว เพราะเฟดส่งสัญญาณปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยครั้งแรกเร็วขึ้นเป็นปีหน้า และภาพระยะกลางทางเทคนิคที่ยังอยู่ในช่วงการปรับฐาน หากดัชนีฯ ไม่สามารถปิดเหนือแนวต้านสาคัญบริเวณ 1635 จุดได้

กลยุทธ์ลงทุน: แนะนำเก็งกำไรหุ้นที่ได้รับผลบวกจากการปรับตัวขึ้นของสินทรัพย์เสี่ยงทั่วโลก 1) กลุ่มโรงกลั่น ซึ่งคาดว่าจะปรับตัวข้ึนได้ หลังจากราคาน้ำมันดิบ WTI ขึ้นไปทดสอบแนวต้านที่ USD72/บาร์เรล หุ้นแนะนำ PTTEP TOP ESSO 2) หุ้นที่ได้ประโยชน์จากดอลลาร์สหรัฐฯ แข็งค่าข้ึน (เงินบาทอ่อนค่า) หุ้นแนะนำ TU SUN APURE

ปัจจัยบวก: 1) ผลประชุมเฟดวานน้ี ส่งสัญญาณเพียงว่าจะทำ QE Tapering เร็วๆ น้ี โดยตลาดคาดว่าจะกำหนดไทม์ไลน์ชัดเจนในการประชุมเฟดครั้งต่อไป ส่งผลให้สินทรัพย์เสี่ยงท่ัวโลกปรับตัวสูงขึ้นเมื่อคืนที่ผ่านมา เป็นบวกต่อ Sentiment การลงทุนในตลาดหุ้นไทย 2) การกลับมาดีดตัวแรงอีกครั้งของราคาน้ำเป็นบวกต่อหุ้นกลุ่มโรงกลั่น ซึ่งมีน้ำหนักต่อดัชนีฯ สูงเป็นปัจจัยหนุนให้ดัชนีฯปรับตัวสูงขึ้นได้ในวันนี้

ปัจจัยลบ: 1) เฟดปรับลดประมาณการเติบโตเศรษฐกิจสหรัฐฯ ปี 2021 ลงเป็น 5.9% (จากเดิม 7%) แต่ปรับเพิ่ม 2022-23E GDP เป็น 3.8% และ 2.5% และปรับเพิ่มอัตราเงินเฟ้อ Core PCE Price Inflation ปี 2021 เป็น 3.7% (จากเดิม 3%) ส่วนปี 2022-23 อยู่ที่ 2.3% และ 2.2% 2) กรณี China Evergrande ซึ่งมีแนวโน้มที่จะไม่สามารถชำระดอกเบี้ยหุ้นกู้สกุลเงินดอลลาร์สหรัฐฯอีกหนึ่งตัวได้ในวันนี้ จำนวนประมาณ USD83.53 mn ซึ่งหากไม่เห็นการ action ใดๆ จากทางการจีนในกรณีดังกล่าว ทั้งทางตรงและทางอ้อมตามท่ีตลาดคาด จะ เป็น Nagative Surprise ซึ่งเป็นกดดันการปรับตัวขึ้นของตลาดหุ้น 3) นักลงทุนต่างชาติมีการขายสุทธิท้ังในตลาดหุ้น และ Future รวมถึงเงินบาทที่อ่อนค่าอย่างต่อเนื่อง สร้างความกังวลถึงการไหลออกของ Fund Flow เป็นอีกปัจจัยที่กดดันการข้ึนของดัชนีฯในวันนี้

ประเด็นอื่นๆ ท่ีต้องติดตาม

  • Opportunity Day วันนี้ ได้แก่ QTC ECF TSR SAT YGG MBKET INET
  • การประชุมธนาคารกลางอังกฤษ (BoE) คืนนี้ โดยตลาดจับตาดูเกี่ยวกับการส่งสัญญาณ QE Tapering ว่าจะมีออกมาในรอบนี้หรือไม่
  • ตัวเลขภาคการผลิต และภาคบริการเบื้องต้นเดือน ก.ย. ของประเทศเศรษฐกิจขนาดใหญ่ ออสเตรเลีย EU UK และสหรฐัฯ
  • 2 ตัวเลขสำคัญจากทางฝั่งสหรัฐฯ คือ ตัวเลขผู้ขอรับสวัสดิการการว่างงานรายสัปดาห์ (คาดว่าจะปรับตัวลดลง) และตัวเลข CB Leading Index (คาดว่าจะปรับตัวลดลง)

+/-Global Market Summary: วันทำการท่ีผ่านมา

+ ตลาดหุ้นไทยปิดบวก: ดัชนีฯ แกว่งตัว sideway ในช่วงเช้าก่อนที่จะที่ปรับตัวสูงขึ้นในภาคบ่าย ก่อนมาปิดตลาดที่ 1619.59 จุด เพิ่มขึ้น 4.73 จุด วอลุ่มซื้อขาย 7.9 หมื่นล้านบาท นำบวกโดยกลุ่มเทคโนโลยีสารสนเทศ และการสื่อสาร 1.58% กลุ่มธนาคาร 1.01% กลุ่มพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ 0.97% กลุ่มพลังงาน และสาธารณูปโภค 0.43% หุ้นบวก>4% TRUE EE LHFG AJ STARK ACE PTL B T AIE CMC RICHY AQ UBIS AS CFRESH BGT หุ้นลบ >4% PDI PPS GREEN BBIK ITEL ILINK IRCP DELTA

+ หุ้นสหรัฐฯ และยุโรปปิดบวก: หุ้นสหรัฐฯ ปิดบวก DJIA +1.0% (+338.48 จุด) S&P500 +0.95% NASDAQ +1.02% หลังจากเฟดส่งสัญญาณการลด QE แบบค่อยเป็นค่อยไป ส่วนหุ้นยุโรปปิดบวก CAC40 +1.29% DAX +1.03% FTSE +1.47% ปิดบวก ได้หลังจากที่นักลงทุนคลายความกังวลเกี่ยวกับกรณี China Evergrande

+ ราคาน้ำมันและทองคำปิดบวก: WTI +USD1.74 ปิดที่ USD72.23/บาร์เรล Brent +USD1.83 ปิดที่ USD76.19/บาร์เรล หลังจากคลังปิโตรเลียมสำรองของสหรัฐฯ ลดลง แตะระดับต่ำสุดในรอบ 3 ปี ส่วนราคาทองคำปิดบวกเล็กน้อย +60 เซนต์ ปิดที่ USD1,778.80/ออนซ์ จากการคาดว่าเฟดจะไม่เร่งลด QE

+ ราคาน้ำมันและทองคำปิดบวก: WTI +USD1.74 ปิดที่ USD72.23/บาร์เรล Brent +USD1.83 ปิดที่ USD76.19/บาร์เรล หลังจากคลังปิโตรเลียมสำรองของสหรัฐฯ ลดลง แตะระดับต่ำสุดในรอบ 3 ปี ส่วนราคาทองคำปิดบวกเล็กน้อย +60 เซนต์ ปิดที่ USD1,778.80/ออนซ์ จากการคาดว่าเฟดจะไม่เร่งลด QE

หุ้นแนะนำรายสัปดาห์: KCE PTTEP BLA

หุ้นแนะนำเก็งกำไร: TOP TU APURE

Derivatives: รอเปิด position เก็งกำไรรอบบ่าย จากสัญญาณเทคนิค

- Advertisement -