บล.เคจีไอ (ประเทศไทย):

T.A.C. Consumer แนวโน้มยังคงแข็งแกร่งเหมือนเดิม

Event

แนวโน้มธุรกิจใน 2H64

lmpact

กำไรใน 2Q64 สะท้อนความสามารถของบริษัทในการรักษาระดับผลประกอบการให้ยังคงแข็งแกร่ง
กำไรสุทธิของ TACC ใน 2Q64 ออกมาดีเกินคาดท่ี 54 ล้านบาท (+12.8% YoY, +15.4% QoQ) โดยกำไร สุทธิใน 2Q64 และ 1H64 คิดเป็น 25.6% และ 47.7% ของกำไรปีน้ีของเรา ทั้งน้ี ผลประกอบการออกมาดีกว่าประมาณการของเรา 8.0% เนื่องจากยอดขาย และอัตรากำไรขั้นต้นแข็งแกร่งเกินคาด ถึงแม้ว่า COVID-19 จะระบาดหนักใน 2Q64 แต่ผลประกอบการของ TACC ยังดีกว่าที่เราคาดไว้ เนื่องจาก i) ยอดขายสินค้าที่มี margin สูงเพิ่มข้ึน (ยอดขายของ All Cafe คิดเป็นสัดส่วนประมาณ 40% ของยอดขายรวม) และการเพิ่มขนาดแก้วท่ีใหญ่ข้ึน (จาก 16 oz. เป็น 22 oz.) ii) ประสิทธิภาพในการบริหารจัดการ ต้นทุน (วัตถุดิบ, logistic และการขยายสาขาร้าน 7-Eleven อย่างต่อเนื่อง) และ iii) ยอดขายเครื่องดื่มสูงตามฤดูกาลในช่วงหน้าร้อน ดังนั้น ผลประกอบการของ TACC จึงดีข้ึนจาก margin ท่ีเพิ่มข้ึน เนื่องจาก product mix ดี และการใช้กลยุทธ์บริหารต้นทุนอย่างมีประสิทธิภาพ

ยังคงมีแนวโน้มเป็นบวกในระยะยาว

สำหรับใน 2H64 เรายังคงมองบวกกับแนวโน้มธุรกิจของ TACC หลังจากที่ผลประกอบการออกมาแข็งแกร่งใน 2Q64 เราเชื่อว่าสถานการณ์โรคระบาดที่รุนแรงเกือบตลอดทั้งไตรมาสใน 3Q64 จะไม่กระทบกับธุรกิจ B2B ของบริษัทมากนัก เพราะยอดขายจากบริการ delivery ยังเพิ่มข้ึน (จากประมาณ 20% ของยอดขายใน 2Q64) ในช่วงที่รัฐบาลบังคับใช้มาตรการคุมเข้ม นอกจากน้ี เราไม่คิดว่าการประกาศ curfew จะทำให้ยอดขายของ TACC ลดลงใน 3Q64 เนื่องจากช่วงสามทุ่มถึงตีสี่ไม่ได้เป็นช่วง prime time ของการขายเครื่องดื่ม สำหรับใน 4Q64 เรามองบวกมากข้ึนกับแนวโน้มของธุรกิจ B2C เพราะรัฐบาลน่าจะผ่อนคลายมาตรการเพิ่มเติมอีก หลังจากที่ยอดผู้ติดเชื้อใหม่ลดลงในเดือนกันยายน โดยสรุปแล้ว เราคาดว่าปัจจัยสำคัญที่จะช่วยกระตุ้นกำไรของ TACC ได้แก่ i) การผ่อนคลายมาตรการคุม COVID-19 ใน 4Q64 และ ii) ปริมาณยอดขายของ All Café เพิ่มข้ึน และสินค้าท่ีขายมีขนาดใหญ่ข้ึน นอกจากน้ีเรายังชอบกลยุทธ์ของบริษัทท่ีจะขยายธุรกิจกับพันธมิตรใหม่ๆ (Lotus’s, Bao Café และ Punthai Coffee) และการออกผลิตภัณฑ์เกี่ยวกับสุขภาพในอนาคต

คงประมาณการกำไรปี 2564-65F เอาไว้เท่าเดิม เรายังคงประมาณการกำไรสุทธิปี 2564F เอาไว้ที่ 211 ล้านบาท (+11.95%YoY) และปี 2565F ที่ 239 ล้านบาท (+13.6% YoY)

Valuation & Action

เรายังคงมองบวกกับแนวโน้มกำไรของ TACC ในอีกสองสามปีข้างหน้าจาก platform ธุรกิจที่แข็งแกร่ง และประสิทธิภาพในการคุมต้นทุน นอกจากน้ี เรายังชอบ TACC ในแง่ของสถานะทางการเงินท่ีแข็งแกร่ง จากการที่บริษัทมีสถานะเงินสดสุทธิ ดังนั้น เราจึงยังคงคำแนะนำซื้อ และคงราคาเป้าหมายปี 2565 ไว้ที่ 9.00 บาท (อิงจาก P/E ท่ี 22.8x เท่ากับค่าเฉลี่ย-0.5S.D.)

Risks

COVID-19 ระบาด, เศรษฐกิจฟื้นตัวช้ากว่าที่คาดไว้ และปัญหาความขัดแย้งทางการเมือง

- Advertisement -