บล.เคจีไอ (ประเทศไทย):
L.P.N. Development (LPN.BK/LPN TB)
ผลประกอบการ 3Q66 : กำไรฟื้นตัวปานกลาง QoQ ตามคาด
Event
ผลประกอบการ 3Q66 และประชุมนักวิเคราะห์
Impact
กำไร 3Q66 ฟื้นตัว 20% QoQ แต่ ทรุดลง 56% YoY
รายได้รวมฟื้นตัวขึ้น 15% QoQ อยู่ที่เกือบถึง 2 พันล้านบาท (มาจากยอดขายโครงการที่อยู่อาศัยที่ 1.4 พันล้านบาทในสัดส่วนของโครงการแนวราบและโครงการคอนโด ฯ ที่ 28%:72% และรายได้จากธุรกิจรับจ้างบริหารจัดการอีก 0.6 พันล้านบาท) รายได้ที่เพิ่มขึ้นหลักๆมาจากยอดโอนโครงการคอนโดมิเนียมใหม่สร้างเสร็จมูลค่า 2.3 พันล้านบาทที่ Lumpini คอนโดทาว์นเอกชัย 48 (ขายได้แล้ว 23%) ในส่วนของการขายที่อยู่อาศัยของโครงการแนวราบและโครงการคอนโดฯ เพิ่มขึ้น 8% และ 24% QoQ ตามลำดับ สำหรับอัตรากำไรขั้นต้นดีขึ้นแต่สัดส่วนค่าใช้จ่ายในการขายและบริหารต่อยอดขายเพิ่มขึ้นก็เช่นกัน ตามการเปิดโครงการใหม่ ๆ มากขึ้น โดยสรุปกำไร 3Q66 อยู่ที่ 104 ล้านบาทสูงกว่าเราคาดไว้เล็กน้อยที่ 98 ล้านบาท แต่ต่ำกว่า Bloomberg’s consensus คาดไว้ที่ 112 ล้านบาท
กำไร 9M66 แย่ลง 42% YoY
รายได้รวมใน 9M66 ลดลง 34% YoY อยู่ที่ 5.5 พันล้านบาท เนื่องจากการขายที่อยู่อาศัยต่ำลง 45% อยู่ที่ 3.85 พันล้านบาทเป็นหลัก สวนทางกับรายได้จากธุรกิจให้เช่า ธุรกิจรับจ้างบริการจัดการเพิ่มขึ้น 26% อยู่ที่ 1.7 พันล้านบาท ในแง่อัตรากำไรขั้นต้นและอัตรากำไรสุทธิ (net margin) อ่อนแออยู่ที่ 22.5% และ 6% ตามลำดับเทียบกับ 24% และ 7% ใน 9M65 โดยรวมแล้ว กำไรสุทธิ 9M66 อยู่ที่ 335 ล้านบาท (-42% YoY) คิดเป็น 72% ของประมาณการกำไรเต็มปีนี้ของเราที่ 467 ล้านบาท (-32% YoY) ทั้งนี้ ฐานกำไรใน 3Q66 และ 9M65 สูงซึ่งรวมกำไรจากการขายอาคารสำนักงานมูลค่า 2.6 พันบาท
กำไร 4Q66F จะฟื้นตัวทั้ง YoY และ QoQ
ยอดขายรอโอน (backlog) ที่ 960 ล้านบาท (จากโครงการ Lumpini คอนโดทาว์น เอกชัย 48 มูลค่า 360 ล้านบาท โครงการแนวราบมูลค่า 300 ล้านบาท และโครงการคอนโดมิเนียมอีก 300 ล้านบาท) น่าจะเป็น catalyst ช่วยหนุนให้ผลการดำเนินงานใน 4Q66 ดีขึ้น อีกทั้งมีฐานกำไร 4Q65 ต่ำอยู่เพียง 38 ล้านบาท หากพิจารณจากผลการดำเนินงานจนถึงปัจจุบัน พรีเซลปีนี้ของบริษัทเคยให้ guidance ไว้ที่ 1.3 หมื่นล้านบาท (61% ใน 9M66) มูลค่าการเปิดโครงการใหม่ที่ 1.4 หมื่นล้านบาท (76% ใน 9M66) และรายได้การขายที่อยู่อาศัยที่ 7.25 พันล้านบาท (53% ใน 9M66) อาจไม่เป็นไปตามเป้าหมาย
Valuation & Action
แม้ว่ามีความเป็นได้ที่กำไร 4Q66 จะฟื้นตัว แต่เรายังคงมองว่ากำไรปี 2566 จะลดลง 24% YoY ก่อนจะเพิ่มขึ้น 8% YoY ในปีหน้า ทั้งนี้ เราคงคำแนะนำขาย ราคาเป้าหมายปลายปี 2567F อยู่ที่ 3.50 บาท อิงจาก PE ที่ 10.35x หรือเท่ากับค่าเฉลี่ยระยะยาว -0.5SD
Risks
ภาวะเศรษฐกิจอ่อนแอ โอกาสการปฏิรูปนโยบายจากภาครัฐ การให้สินเชื่อมีความเข้มงวดมากขึ้น ท่ามกลางภาวะหนี้สินภาคครัวเรือนสูง แนวโน้มอัตราดอกเบี้ยขาขึ้น รวมทั้งการปรับขึ้นค่าแรงขั้นต่ำ