บล.หยวนต้า (ประเทศไทย):
Bangkok Chain Hospital (BCH) คาดกำไร 3Q66 พลิกจากขาดทุนปี ก่อน…แนวโน้ม 4Q66 ดีต่อเนื่อง
Action BUY (Maintain)
- TP upside (downside) +15.5%
- Close Nov 2, 2023 Price (THB) 20.00
- 12M Target (THB) 23.10
- Previous Target (THB) 21.30
What’s new?
- คาดกำไรสุทธิ 3Q66 เติบโตโดดเด่น 40%QoQ และพลิกจากขาดทุน 403 ล้านบาทปีก่อน ที่มีขาดทุนจากการตัดจำหน่ายวัคซีนหมดอายุ
- แนวโน้ม 4Q66 ยังดีต่อเนื่อง ผลบวกจาก 1) การเติบโตของลูกค้าเงินสด 2) ดอกเบี้ยจ่ายลดลง และไม่มีขาดทุนอัตราแลกเปลี่ยน 3) รับรู้รายได้ภาระเสี่ยงประกันสังคมเพิ่ม 4) เทียบฐานรายได้เดียวกันจาก 4Q65 ที่รายได้ COVID-19 ลดลง
- เราประมาณกำไร 4 ปีข้างหน้าเติบโตเฉลี่ย CAGR ที่ 15% ตามแผนในการขยายธุรกิจ และ M&A
Our view
- เราคงคำแนะนำ “ซื้อ” เรามีมุมมองเป็นบวกต่อผลประกอบการใน 2H66 ที่พลิกกลับมาเติบโต YoY ขณะที่ 4 ปีข้างหน้าคาดเติบโตต่อเนื่อง ตามแผนขยายธุรกิจ ทั้งสร้าง รพ.ใหม่ และแผน M&A
- เรามีการปรับไปใช้มูลค่าพื้นฐานเป็นปี 2567 ที่ 23.10 บาท อิงวิธี DCF สมมติฐาน WACC ที่ราคาปัจจุบันถือว่าถูกซื้อขายที่ PER 28.5x คิดเป็นเพียง -1.5SD เมื่อเทียบกับ PE Band ช่วงก่อน COVID-19 5 ปีย้อนหลัง
คาดกำไร 3Q66 เติบโต QoQ และพลิกจากขาดทุนปีก่อน
เราคาดกำไรสุทธิใน 3Q66 ที่ 399 ล้านบาท +40%QoQ และพลิกจากปีก่อนที่มีผลขาดทุน 403 ล้านบาท ผลประกอบการเติบโตเด่น QoQ เนื่องจากเข้า High Season ซึ่งมีโรคระบาดตามฤดูกาล และรับผลบวกเต็มไตรมาสจากการปรับขึ้นค่าหัวประกันสังคม 10% ที่มีผลตั้งแต่ 1 พ.ค.2566 เทียบ YoY พลิกจากขาดทุน เนื่องจากใน 3Q65 มีการตั้งสำรองด้อยค่าวัคซีนหมดอายุราว 902 ล้านบาท หากไม่รวมรายการดังกล่าวจะมีกำไร 499 ล้านบาท กำไรปกติ 3Q66 จะลดลง 20%YoY ผลจากปีก่อนยังมีรายได้จากการขายวัคซีนโมเดอร์นา และประสิทธิภาพในการทำกำไรลดลง เนื่องจากค่าใช้จ่ายในการขายและบริหารที่เพิ่มขึ้น 20%YoY จากการปรับขึ้นเงินเดือน และรับบุคลากรเพิ่มรองรับการขยายธุรกิจ และ รพ.เกษมราษฎร์เวียงจันทร์ที่มีขาดทุนจากอัตราแลกเปลี่ยน
แนวโน้ม 4Q66 คาดกำไรเติบโต QoQ, YoY
เราคาดกำไรใน 4Q66 จะเติบโต Q0Q และ YoY โดยได้แรงหนุนจาก 1) การเติบโตต่อนื่องของกลุ่มลูกค้าเงินสด ได้ผลบวกจากการเติบโตของการรักษาโรคเฉพาะทาง การกลับมาของคนไข้ต่างชาติ 2) ผลบวกจากการปรับโครงสร้างเงินทุน รพ.เกษมราษฎร์เวียงจันทร์ ทำให้ไม่ต้องรับรู้ผลขาดทุนจากอัตราแลกเปลี่ยนตั้งแต่ในเดือน ก.ย. และบริษัท มีการนำเงินไปชำระหนี้ ทำให้ดอกเบี้ยจ่ายลดลง 3) นอกจากผลบวกจากการปรับขึ้นค่าหัวประกันสังคมตั้งแต่กลางปี ยังมีโอกาสรับรู้รายได้ภาระเสี่ยงประกันสังคมส่วนเพิ่ม 4) เป็นการปรับฐานรายได้เดียวกันเนื่องจาก 4065 รายได้เกี่ยวกับ COVID-19 ลงมาเหลือต่ำกว่า 5% เราปรับลดประมาณการปี 2566 และปี 2567 ลงจากเดิม 17% และ 6% เป็น 1,341 ล้านบาท (-66.9%YoY) และ 1.742 ล้านบาท (+30%YoY) ตามลำดับ สะท้อนค่าใช้จ่ายในการขายและบริการที่สูงกว่าคาด
คาดผลประกอบการเติบโตดีต่อเนื่องใน 4 ปีข้างหน้าตามแผนขยายการลงทุน
เราประมาณการกำไรปกติในช่วง 4 ปีข้างหน้า (2567-2570) เติบโตเฉลี่ย (CAGR) ที่ 15% ตามแผนกลยุทธ์เติบโตจากทั้งสร้าง รพ.ใหม่ และ M&A โดยมีแผนเพิ่มเตียงจดทะเบียนจากปัจจุบัน 2,254 เตียง เป็น 3,100 เตียง ภายใน ปี 2570 ดังนี้ 1) Expansion แผนสร้าง รพ.ใหม่ อาทิ รพ.เกษมราษฎร์ สุวรรณภูมิ คาดว่าจะเริ่มก่อสร้างในปี 2567และเปิดให้บริการภายในปี 2569 รพ.โรคมะเร็ง ที่แจ้งวัฒนะ คาดเริมก่อสร้างปลายปีนี้หรือต้นปีหน้า 2) Existing แผนรีโนเวท รพ.เดิม อาทิ รพ.การุณเวช รพ.เกษมราษฎร์ สาขาบางแค ประชาชื่น สระบุรี และฉะเชิงเทรา 3) External Agreement การร่วมมือกับพันธมิตร อาทิ การให้บริการตรวจ Check-up กลุ่มลูกค้าประกันสังคม 4)แผน M&A โดยการเข้าซื้อกิจการ รพ.ที่มีศักยภาพการเติบโตสูง
คงคำแนะนำ “ซื้อ”
เรามีมุมมองเป็นบวกต่อผลประกอบการใน 2H66 ที่พลิกกลับมาเติบโต YoY ขณะที่ 4 ปีข้างหน้า คาดเติบโตต่อเนื่องตามแผนขยายธุรกิจ ทั้งสร้าง รพ.ใหม่ ปรับปรุงขยายพื้นที่เดิม การเปิดเพิ่มศูนย์เฉพาะทาง และแผน M&A เรามีการปรับไปใช้มูลค่าพื้นฐานเป็นปี 2567 ที่ 23.10 บาท จากเดิมที่ 21.30 บาท อิงวิธี DCF สมมติฐาน WACC ที่ 7.7% ราคาปัจจุบันถือว่าถูกซื้อขายที่ PER ในปี 2567 ที่ 28.5x คิดเป็นเพียง -1.5SD เมื่อเทียบกับ PE Band ช่วงก่อน COVID-19 (5 ปีย้อนหลัง 2559-2564)