แรงกดดันเริ่มคลายตัว ประเมินดัชนีฯ ค่อยๆ ปรับขึ้นได้

Market Update

ตลาดหุ้น Dow Jones คืนวันศุกร์ปิดบวก 0.66% นักลงทุนคลายกังวลดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐฯ หลังเผยภาคแรงงานอ่อนแอกว่าตลาดคาดการณ์ ด้านราคาน้ำมันดิบ BRT ปิดลบ 2.3% นักลงทุนคลายกังวลสถานการณ์อิสราเอล ฮามาส

Market Outlook

คืนวันศุกร์ที่ผ่านมา สหรัฐฯรายงานการจ้างงานนอกภาคเกษตร 1.5 แสนราย ซึ่งแย่กว่า Bloomberg Consensus คาดการณ์ที่ 1.78 แสนราย พร้อมกับรายงานอัตราการว่างงานที่ 3.9% แย่กว่า Bloomberg Consensus คาดการณ์ที่ 3.8% พร้อมกับการขยายตัวของค่าแรงที่ 0.2%MoM แย่กว่า Bloomberg Consensus คาดที่ 0.3%MOM นอกจากนี้ยังรายงานดัชนี PMI ภาคบริการจากสถาบัน ISM ที่ระดับ 51.8 แย่กว่าคาดที่ 53 สำหรับการจ้างงานนอกภาคเกษตรอุตสาหกรรมที่มีการจ้างงานลดลง ได้แก่ ภาคผลิตสินค้าคงทน คลังสินค้า สะท้อนถึงกิจกรรมทางเศรษฐกิจ ที่เริ่มเห็นการอ่อนแอ ภายหลังจากทราบข้อมูลทั้งหมดพบว่า US Bond Yield รุ่นอายุ 2 ปี และ 10 ปี ปรับลง พร้อมกับ Dollar Index ที่พลิกมาอ่อนค่า ส่วน CME FED Watch ล่าสุดให้น้ำหนักราว 95% ที่ FED จะคงดอกเบี้ยที่ระดับเดิมในการประชุมเดือน ธ.ค. ปรับเพิ่มขึ้นจากวันก่อนหน้าที่ 80% ภาพรวมที่กล่าวไปข้างต้นค่อนข้างเป็นบวกตลาดหุ้น โดยเฉพาะเอเชียที่มีโอกาส Fund Flow จะไหลกลับมา สอดคล้องกับค่าเงินบาทที่กลับมาแข็งค่าทดสอบระดับ 35.4 บาท / ดอลลาร์สหรัฐฯ จากจุดสูงสุดที่ 37.2 บาท / ดอลลาร์สหรัฐฯ

สำหรับปัจจัยสัปดาห์นี้ ได้แก่ เงินเฟ้อไทยประจำเดือน ต.ค. ในวันจันทร์ Bloomberg Consensus ประเมินไว้ที่ 0.1%YoY , 0.1%MoM หากรายงานแล้วต่ำกว่าคาดจะยิ่งเป็นบวกกับตลาดหุ้น ส่วนต่างประเทศรอติดตาม (1) ถ้อยแถลงของประธาน FED ในวันพุธช่วงกลางคืน (2) ดัชนี PMI ภาคบริการของ EU ในช่วงบ่ายวันจันทร์ (3) เงินเฟ้อจีนในวันพฤหัสบดีช่วงเช้าตามเวลาประเทศไทย Bloomberg Consensus ประเมินไว้ที่ -0.2%YoY และในช่วงกลางคืนกับผู้ขอสวัสดิการว่างงานของสหรัฐฯ Bloomberg Consensus ประเมินไว้ที่ 2.18 แสนราย

ประเมินกรอบการเคลื่อนไหวของ SET สัปดาห์นี้ 1410 – 1440 เชิงกลยุทธ์การลงทุนยังยังแนะสะสมได้สำหรับนักลงทุนระยะกลาง – ยาว จากระดับ Valuation ที่น่าสนใจแต่ยังเน้นที่หุ้นขนาดใหญ่ อาทิ ค้าปลีก (BJC CRC CPALL HMRPO) ท่องเที่ยว (AOT CENTEL MINT) ธนาคารพาณิชย์ (BBL KBANK KTB SCB) ศูนย์การค้า (CPN) กลุ่มสื่อนอกบ้าน (PLANB) ส่งออก (ITC TU) กลุ่มการเงิน (SAWAD TIDLOR) โรงภาพยนตร์ (MAJOR)

หุ้นแนะนำซื้อวันนี้

MINT (ซื้อ / ราคาเป้าหมาย 42.00 บาท)

การเติบโตของกำไรเชิง QoQ ในไตรมาส 3/23 จะยังท้าทายเพราะการท่องเที่ยวเชิงธุรกิจ และ MICE ในยุโรปยังฟื้นตัวกลับมาไม่เต็มที่ แต่ทั้งนี้มองว่าบริษัทจะมีกำไรไตรมาส 3/23 ที่โตดี YoY เพราะกิจการโรงแรมที่แข็งแกร่งมากขึ้นในไทยและโอเชียเนีย

SAWAD (ซื้อ / ราคาเป้าหมาย 59.00 บาท)

แนวโน้มการเติบโตของสินเชื่อที่แข็งแกร่งและการซื้อคืนเงินสดทันใจ (FM) กลับเข้ามา จึงคาดว่ากำไรสุทธิของ SAWAD จะกลับสู่เส้นทางการเติบโตได้ในปี 2023 หลังหดตัวลง 5.2% ในปี 2022 เราประเมินว่าบริษัทจะมีกำไรสุทธิโตเฉลี่ยต่อปี 16.2% ในช่วงปี 2023-25 ส่วนในครึ่งหลัง ปี 2023 คาดกำไรสุทธิจะออกมาแข็งแกร่งที่ 2.8 พันล้านบาท (+21% HoH, +19% YoY)

- Advertisement -