บวกหวังเฟดยุติขึ้นดอกเบี้ย / 1,415 – 1,430

มุมมองตลาดหุ้นวันนี้

  • SET ขึ้นต่อด้วยหลายแรงหนุน: จาก 1) Sentiment ของตลาดหุ้นฝั่งสหรัฐเมื่อคืนวันศุกร์ปิดบวกทั้งสามตลาดเฉลี่ย 1,4% แรงหนุนจากข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐเมื่อคืนวันศุกร์เชิงลบ นำโดยอัตราว่างงานเพิ่มมากกว่าคาด และมากกว่าเดือนก.ย.ที่ 3.8% สู่เดือน ต.ค.ที่ 3.9% นอกจากนี้ การจ้างงานนอกภาคเกษตรเดือน ต.ค. ยังต่ำกว่าคาด 1.8 แสนราย สู่ 1.5 แสนราย ทำให้ทาง Goldman Sachs คาดว่าจะเป็นเหตุผลหนึ่งที่จะส่งให้เฟดอาจจะยุติวงจรการขึ้นดอกเบี้ย แนวโน้มดังกล่าวสอดคล้องกับ Dollar Index ปิดวันศุกร์ทรุดตัวกว่า 1% สู่ 104.9 จุด และสอดคล้องกับ Fed Watchtool ที่แทนน้ำหนัก คาดการประชุมรอบสุดท้ายของปี จะคงดอกเบี้ยที่ 5.25-5.50% โดยเริ่มมองการลดดอกเบี้ยจะเร็วขึ้นมาเป็นรอบประชุมเดือน พ.ค. 67 จากสัปดาห์ก่อนที่คาดการลดดอกเบี้ยครั้งแรกจะอยู่ช่วงการประชุมเดือน มิ.ย. 67 เป็นแรงหนุนต่อสินทรัพย์เสี่ยงตลาดทุน 2) ทางฝ่ายยังมองดัชนีหุ้นเริ่มมี Downside จำกัด จากการทยอยเผยงบ 3Q66 ของ บจ. ซึ่งในสัปดาห์นี้มีหุ้น Big Cap. หลายบริษัท นำโดย วันนี้ TU, วันพุธ CPAXT, PTTGC, วันพฤหัสบดี GULF, TRUE เป็นต้น ซึ่งจะเป็นความหวังเข้ามาช่วยพยุงดัชนี และ 3) วันนี้ลุ้น Core CPI ไทย อาจลดลงจากเดือน ก.ย.ที่ 0.63%y-y โดยคาดเดือน ต.ค.ที่ 0.60% อาจเป็นแรงหนุนต่อกลุ่มจับจ่ายใช้สอยและภาคท่องเที่ยว ที่มองได้ประโยชน์นอกเหนือไปจากการพิจารณามาตรการ Digital Wallet และการเข้าสู่ฤดูกาลท่องเที่ยวปีแรกหลังโควิด-19 อย่างไรก็ตาม ยังต้องลุ้น Fund-flow ต่างชาติว่าจะกลับเข้าซื้อหุ้นไทยหรือไม่ หลังพบแรงขายเริ่มแผ่วในระยะหลัง โดยในวันศุกร์ขายหุ้นไทยเพียง 575 ลบ. ขายสะสม 1.73 แสนลบ.YTD หากพลิกเป็นบวกจะสนับสนุน SET เดินหน้าขึ้นต่อ
  • กลยุทธ์การลงทุน : 1) เก็งงบ 3Q66 : OR, ORI, PTTGC, SAPPE, SAWAD, TRUE 2) ท่องเที่ยว+Spending : AOT, BAFS, CPAXT, CPN, KTC, MAJOR 3) รับเหมาฯ: CK, ITD, STEC 4)Selective : ADVANC, SCGP, PTTEP

ปัจจัยบวก

  • Foxconn ซัพพายเออร์รายใหญ่แก่ Apple คาดยอดขายช่วงเทศกาลเฉลิมฉลองปลายปีนี้ จะมียอดข้ายสดใส สะท้อนกำลังซื้อฟื้นตัว
  • อธิบดีกรมธุรกิจพลังงานเผยภาพรวมการใช้น้ำมันเชื้อเพลิง ม.ค. ถึงเดือน ก.ย.66 ที่ 153.54 ล้านลิตร/วัน (+1.9%y-y) โดยน้ำมันอากาศยานเพิ่ม 66.5%y-y สะท้อนการฟื้นตัวด้านการท่องเที่ยวหลังโควิด-19
  • ศูนย์วิจัยกสิกรฯ เผยดัชนีภาวะ ศก.ครัวเรือน (ECI) เดือน ต.ค. และ 3 เดือนข้างหน้าปรับตัวขึ้นต่อเนื่องสู่ 38.5 และ 41.0 จุด ตามลำดับ นอกจากนี้ยังมีมุมมองพื้นตัวได้ต่อจาก ม.กระตุ้นภาครัฐ, การท่องเที่ยวฟื้นตัวสนับสนุน, การส่งออกที่ส่งสัญญาณดีขึ้น
  • ประธาน บ.Gortune Investment เข้าหารือ ประธานที่ปรึกษานายกฯ โดยแสดงความสนใจลงทุนในเขต EEC ในธุรกิจพลังงานสะอาด และแบตเตอรี่ในไทย

ปัจจัยลบ

  • NRF เผยยอดค้าปลีกช่วงวันหยุดของสหรัฐช่องทาง E-Commerce จะเพิ่มขึ้นในช่วงเดือน พ.ย.-ธ.ค. เพียง 3-4% รายงานระบุว่างบประมาณครัวเรือนชาวอเมริกันที่ตึงตัว จะส่งให้ประชาชนระมัดระวังการใช้จ่ายมากขึ้นในช่วงเทศกาลวันหยุดที่จะมาถึงทั้งหมด
  • นิเกอิ รายงานว่ากฎหมายสินค้าปลอดการตัดไม้ทำลายป่าของสหภาพยุโรป เสี่ยงที่จะกระทบวงกว้างกับธุรกิจยางพาราในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้หลายประเทศ ซึ่งรวมถึงไทย
  • รอยเตอร์รายงานว่า การก่อสร้างอาคาร Elbtower มูลค่า 1.3 พันล้านยูโร ในเยอรมนีได้หยุดชะงักหลังผู้พัฒนาฯหยุดจ่ายเงินให้กับผู้สร้าง Lupp ทำให้เกิดความกังวลภาคอสังหาฯ ในเยอรมนี
  • บริษัทเดินเรือ Maersk ของเดนมาร์ก มีแผนจะลดจำนวนพนักงาน 1 หมื่นราย จากความกังวลด้านอุปสงค์ นอกจากนี้ ยังลดคาด EBIDA ปีนี้ลงสู่กรอบล่างของคาดการณ์ที่ 9,500-11,000 ล้านดอลลาร์

PICKS OF THE DAY

ORI BUY

  • เป้าหมาย 9.45 / 9.60 แนวรับ 9.00
  • ขาย RealX Token ได้หมดช่วยดันรายได้โอน: คาดไตรมาส 3 มีรายได้จากการขาย RealX Token เข้ามาราว 2,200 ลบ. เพิ่มเติมจากการขายอสังหาฯปกติ ทำให้รายได้โอนเติบโตค่อนข้างมาก และรายได้ค่าบริหารโครงการที่เพิ่มขึ้นจากการทำ JV อีก 10 โครงการ คาดว่ากำไรสุทธิในไตรมาสนี้เติบโตขึ้นทั้ง y-y และ q-q
  • คุ้มแล้ว ราคาหุ้นระดับนี้: ด้วยราคาหุ้นที่ปรับตัวลงมามากและปัจจุบันความผันผวนเริ่มลดลงแล้ว เรามองเป็นโอกาสในการเข้าลงทุน เพื่อการเก็งกำไรงบไตรมาส 3 ที่จะออกมาดี และจากราคาปัจจุบันระดับ Div. yield ราว 7.4% ยังสูงกว่าค่าเฉลี่ยในปีที่จ่ายหลังปีโควิดที่ 5.65% ซึ่ง Yield ของ ORI ที่สูงระดับนี้อาจไม่มีโอกาสได้เห็นกันบ่อยๆ

PTTEP BUY

  • เป้าหมาย 168.00 / 172.00 แนวรับ 160.00 / 163.00
  • ราคาน้ำมันยังอยู่ระดับสูง: ราคาน้ำมันดิบดูไบเฉลี่ย 4Q66TD อยู่ที่ระดับ 90 USD/bbl +4.7% q-q โดยทางฝ่ายยังมองว่าราคาน้ำมันยังมีโอกาสปรับเพิ่มได้อีกในช่วงปลายปี จากปัจจัยด้านอุปทานตึงตัว และเป็นช่วงฤดูหนาวและมีการท่องเที่ยวจะช่วยหนุนการใช้น้ำมัน รวมถึงความตึงเครียดระหว่างอิสราเอลและกลุ่มฮามาส มีแนวโน้มยืดเยื้อ ซึ่งหากมีการขยายขอบเขตความขัดแย้ง จะกระทบต่ออุปทานน้ำมันและกดดันราคาน้ำมันได้
  • 4Q66 ยังโตได้: คาดว่าใน 4Q66 PTTEP จะกลับมาได้รับประโยชน์จากราคาขายน้ำมันที่เพิ่มขึ้นตั้งแต่ช่วง 3Q66 เนื่องจากมี time lag จากราคาน้ำมันดิบดูไบประมาณ 2 เดือน หนุนราคาขายและกำไรในช่วง 4Q66
- Advertisement -