บล.ฟิลลิป:
TU : 3Q66 กำไรสุทธิ -y-y +q-q (ที่มา: SET 06.11.66)
- รายได้รวม 33,915 -16.8%y-y -0.4%q-q หากเทียบ y-y รายได้ลดลงในทุกกลุ่มผลิตภัณฑ์หลักจากฐานที่สูงในปีก่อน, หากเทียบ q-q รายได้อาหารทะเลแปรรูปลดลงเป็นหลัก ผลกระทบจากการปรับราคาเพิ่มในช่วง 2Q66 ทำให้มีปริมาณขายลดลง
- GPM 18.4% +23bips y-y และ +150bips q-q หากเทียบ y-y การลดขนาดของธุรกิจอาหารทะเลแช่แข็งในสหรัฐทำให้กลุ่มธุรกิจนี้มี GPM ที่เพิ่มขึ้น และดึง GPM รวมให้สูงขึ้น, หากเทียบ q-q ราคาต้นทุนทูน่ามีแนวโน้มที่ลดลง และ GPM อาหารสัตว์เลี้ยงดีขึ้น
- มีบันทึกส่วนแบ่งขาดทุนจาก Res lobster 395 ลบ. เพิ่มขึ้น y-y และ q-q, หากเทียบ y-y มีต้นทุนวัตถุดิบ/ค่าแรงสูงขึ้น, หากเทียบ q-q ไตรมาส 3 เป็น low season
- กำไรสุทธิ 1,206 ลบ. -52.3%y-y +17.2%q-q ประกาศกำไรออกอยู่ในโทนที่ดีกว่าคาดเล็กน้อย
- 3Q66 กำไรสุทธิถือว่ายังฟื้นตัวต่อเนื่องได้ดี และปัจจุบันราคาทูน่าได้ปรับตัวลงมา ซึ่งถือเป็นผลดีกับ TU ในการปรับราคาขาย เพื่อที่จะขายแบบ OEM ได้มากขึ้น และคาดว่า ปี 67 ยังเติบโตได้ y-y จากฐานต่ำ เนื่องจากผลประกอบการในช่วง 1H66 อ่อนตัว
- ราคาพื้นฐานปี 67 ที่ 19.00 บาท ปรับคำแนะนำขึ้นเป็น ”ซื้อ”
นักวิเคราะห์: สยาม ติยานนท์ #483
ผู้ช่วยนักวิเคราะห์: นายทศวรรณ ธรรมสุข