บล.หยวนต้า (ประเทศไทย)
Origin Property (ORI) คาดกำไรปกติสะดุดเล็กน้อยก่อนฟื้นใน 4Q66
Action BUY (Maintain)
- TP upside (downside) +20.2%
- Close Nov 3, 2023 Price (THB) 9.15
- 12M Target (THB) 11.00
- Previous Target (THB) 13.80
What’s new?
- คาดกำไรปกติ 3Q66 ยังไม่โดดเด่น ลดลง QoQ และ YoY จากการโอนโครงการประเภท Non-JV ที่ลดลง และกำไรจากการขาย Big lot ให้กับ Realx มีแนวโน้มน้อยกว่าที่ประเมิน
- คาดกำไรจะฟื้นตัวเด่นในช่วง 4Q66 หนุนจากการมีโครงการที่จะแล้วเสร็จพร้อมโอนเป็นจำนวนมาก
- บริษัทรายงาน Presale 3Q66 ที่ 1.25 หมื่นลบ. ทำ New High ต่อเนื่อง
Our view
- ประเมิน Presale ทั้งปี 2566 มีแนวโน้มทำได้เกินเป้าหมายของบริษัทที่ 4.5 หมื่นลบ. เนื่องจาก Presale 9M66 ทำได้ 3.7 หมื่นลบ. หรือคิดเป็นกว่า 82%
- คงประมาณกำไรปกติปี 2566/67 แต่ปรับลด PER เหมาะสมลงเป็น 7.7x เพื่อสะท้อนความเสี่ยงปัจจัยมหภาคได้ราคาเหมาะสมใหม่ที่ 11.00 บาท/หุ้น
- จับตาแผนการ Spin-off บริษัทลูกประกอบธุรกิจโรงแรม คือ ONEO เข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ภายใน 4Q66 คาดช่วยปลดล็อคมูลค่าของ ORI ในระยะยาว
คาดกำไร 3Q66 ชะลอตัวจากการตั้งสำรองโครงการแนวสูง Guarantee Yield
คาดบริษัทจะรายงานรายได้และกำไรสุทธิ 3Q66 ที่ 4.8 พันลบ. (+41.9% QoQ, +43.2%YoY) และ 944 ลบ. (+8.2% QoQ, +11.4% YoY) ตามลำดับ อย่างไรก็ตาม เราคาดกำไรสุทธิของบริษัทจะประกอบไปด้วยรายการพิเศษ คือการประเมินมูลค่ายุติธรรมของการเข้าซื้อโรงแรมจำนวน 2 แห่ง ในช่วง 3Q66 คาดคิดเป็นผลกำไรราว 238 ลบ. หากหักรายการดังกล่าว กำไรปกติจะอยู่ที่ 706 ลบ. (-19.1% QoQ, -16.7% YoY) การชะลอตัวของกำไรปกติทั้ง QoQ และ YoY ประเมินเป็นผลจาก (1) การโอนโครงการประเภท Non-JV จะลดลง -6.8% QoQ และ -41.4% YoY อยู่ที่ 1.7 พันลบ. ลดลง QoQ จากผลกระทบของอัตราดอกเบี้ยสินเชื่อที่อยู่อาศัยที่ปรับเพิ่มขึ้น และการชะลอการตัดสินใจของลูกค้าเพื่อรอมาตรการกระตุ้นกำลังซื้อ ขณะที่ YoY ชะลอลงจากการที่บริษัทได้นำโครงการจำนวนมากไปเข้าร่วมทุนกับพันธมิตร ซึ่งรายได้การโอนจะถูกย้ายไปยังส่วนแบ่งกำไรจากธุรกิจร่วมค้า และ (2) การขาย Big Lot ของโครงการแนวสูง 3 โครงการ ได้แก่ Origin Thonglor (JV), Park Origin Phayathai และ Park Origin Phrompong ให้กับ Realx รวมมูลค่า 2.2 พันลบ. คาดกำไรจะอยู่ที่ 160-200 ลบ. น้อยกว่าที่ประเมินไว้ก่อนหน้าที่ 250-350 จากการตั้งสำรองต้นทุนการการันตีผลตอบแทนให้กับผู้เช่า ทำให้ GPM 3Q66 คาดลดลงอยู่ที่เพียง 41.3%
Presale ยังทำ New High ต่อ หนุนจากยอดขายโครงการแนวราบ
บริษัทรายงานยอด Presale 3Q66 ที่ 1.25 หมื่นลบ. (+0.1% QoQ, +7.3% YoY) ทำ New High ต่อเนื่องจาก 2Q66 แบ่งเป็น (1) Presale แนวราบที่ 3.1 พันลบ. (+9.5% QoQ, +9.4% YoY) สะท้อนอัตราดูดซับอุปทานที่แข็งแกร่ง แม้โครงการเปิดตัวใหม่ 3 โครงการรวมมูลค่า 5.6 พันลบ. จะอยู่ในช่วงปลายไตรมาสก็ตาม และ (2) Presale โครงการแนวสูงที่ 9.4 พันลบ. (-2.7% QoQ, +6.6% YoY) หนุนจากการเปิดตัวโครงการใหม่ 5 โครงการรวมูลค่า 7.4 พันลบ. คาดทำ Take-up rate เฉลี่ยที่ 40%
ยอด Presale สะสมในช่วง 9M66 จะรวมอยู่ที่ 3.7 หมื่นลบ. ซึ่งคิดเป็นกว่า 82% เมื่อเทียบกับเป้าหมายทั้งปีของบริษัทที่ 4.5 หมื่นลบ. อ้างอิงแผนการเปิดตัวโครงการของบริษัทในช่วง 4Q66 ที่รวมมูลค่า 1.6 หมื่นลบ. สูงสุดเป็นประวัติการณ์ เราประเมิน Presale ทั้งปีมีโอกาสทำได้สูงกว่าเป้าราว 10-20%
คงคำแนะนำ “ซื้อ” ปรับลด PER Multiple เพื่อสะท้อนความเสี่ยงมหภาค
เรายังคงประมาณการกำไรปกติปี 2566 ที่ 3.5 พันลบ. โดยคาดผลประกอบการในช่วง 4Q66 จะเป็นจุดสูงสุดของปี จากแผนการโอนโครงการที่จะแล้วเสร็จที่หนาแน่น ซึ่งประกอบด้วยโครงการแนวสูงจำนวน 5 โครงการ และโครงการแนวราบอีกราว 8-9 โครงการ
คงคำแนะนำ “ซื้อ” แต่ปรับลดราคาเป้าหมาย ณ สิ้นปี 2567 เป็น 11.00 บาท/หุ้น จากการปรับลด PER เหมาะสมลงเป็น 7.7x เทียบเท่ากับค่าเฉลี่ยของอุตสาหกรรม เพื่อสะท้อนความเสี่ยงของปัจจัยมหภาค คือ อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลของหลายประเทศทั่วโลกที่อาจส่งผลกระทบต่อกลุ่มอสังหาริมทรัพย์ ทั้งในด้านตุ้นทุนการเงินและผลกระทบต่ออุปสงค์ของกลุ่มผู้บริโภคที่ซื้อโครงการแนวสูงเพื่อลงทุน เชิงกลยุทธ์แนะนำรอเข้าลงทุนหลังการประกาศผลประกอบการ 3Q66 (คาดวันที่ 17 พ.ย.) โดยจะมีปัจจัยหนุนการเก็งกำไร คือการ Spin-off บริษัทลูก ONEO เข้าซื้อ-ขายในตลาดหลักทรัพย์ภายในช่วงสิ้นปี 2566