ตลาดหุ้นวานน้ี:

SET Index ปิดบวกได้แข็งแกร่ง 11.56 จุด นำโดยกลุ่มธนาคาร โดยเฉพาะ SCB ขณะที่กลุ่มไฟแนนซ์ปรับตัวลงกังวลการแข่งขันในอนาคต สถาบันในประเทศขายสุทธิในตลาดหุ้น 1 พันลบ. แต่นักลงทุนต่างชาติซื้อสุทธิหนาแน่น 3.8 พันลบ. (แต่ยัง Short Index Future 4 พันสัญญา)

แนวโน้มตลาดวันนี้:

เราประเมิน SET Index จะแกว่งตัวขึ้นทดสอบกรอบ1,640- 1,650 จุด โดยกลุ่มพลังงานคาดนำตลาด หลังราคาน้ำมันดิบพุ่งขึ้นอย่างร้อนแรงโดย WTI แตะ US$75 ต่อบารเ์รล ขณะที่กลุ่มธนาคารคาดว่ายังปรับตัวได้ดีและยังได้ Sentiment บวกจากการปรับโครงสร้างของ SCB และคาดเห็นการตอบสนองจากธนาคารอื่นๆตามมา ส่วนปัจจัยที่ถ่วง และยังต้องติดตามคือปัญหาหนี้ของ Evergrande ว่าจะลุกลามและส่งผลกระทบวงกว้างต่อการฟื้นตัวของเศรษฐกิจหรือไม่ ส่วนปัจจัยในประเทศวันนี้ติดตามศบค. ชุดใหญ่ประชุม และคลาย Lockdown เฟส 2 หนุนเศรษฐกิจทยอยฟื้นใน 4Q21-2022 เป็นลำดับ กลยุทธแนะนำ “ถือลงทุน” หลังให้สะสมหุ้นเพิ่มไปแล้วบริเวณ  1,600 จุด และยังชอบกลุ่ม Domestic และ Reopening Play ได้แก่ กลุ่มธนาคาร โรงกลั่นย ค้าปลีก อาหาร ท่องเที่ยว

กลยุทธ์: เน้นเก็งกำไรหุ้นเป็นรายตัว // ส่วนที่สะสมเพิ่มบริเวณ 1,600 จุด เน้นถือลงทุนต่อเนื่อง

หุ้นเด่นเดือน ก.ย.: BDMS, CPALL, CRC, M, TACC

หุ้นเด่นวันนี้: KBANK

  • แนะนำ “ซื้อ” ราคาเป้าหมายจาก FSSIA 150 บาท
  • เป็นอีกหนึ่งธนาคารที่มีการลงทุนในด้านเทคโนโลยี และ Digital Transformation มากเป็นอันดับต้นๆ ของไทย รวมถึงธุรกิจ Start-Up ทำให้มีโอกาสที่จะเติบโตนอกเหนือจากกรอบการทำธุรกิจธนาคารเดิม
  • จุดเด่นคือ Valuation ที่ถูกมาก โดยปัจจุบันยังซื้อขายที่ระดับ 2022PBV เพียง 0.6 เท่า เทียบกับช่วงก่อน  COVID-19 ท่ี 0.8-0.9 เท่า อย่างมีนัยยะ
  • แนวรับ 130//126 บาท แนวต้าน 135-136.50//142 บาท

Fund Flow:

วันพฤหัสฯ และศุกร์ที่ผ่านมา กระแสเงินทุนไหลเข้าภูมิภาค US$1,185 ล้าน นำโดยเกาหลีใต้และไต้หวัน US$538 ล้าน และ US$383 ล้าน ตามลำดับ ส่วนตลาดอาเซียนโดยรวมไหลเข้า นำโดยอินโดนิเซียและไทย ราว US$113-173 ล้าน ส่วนฟิลิปปินส์และเวียดนามไหลออกบางๆ แนวโน้มของกระแสเงินทุนคาดว่ายังค่อนไปในทิศทางไหลเข้า แต่ยังมีประเด็นให้ติดตามคือปัญหาหนี้ของ Evergrande และการฟื้นตัวของเศรษฐกิจในระยะถัดไป

ประเด็นสำคัญวันนี้

(0) ประชุมศบค.ชุดใหญ่วันนี้คาดคลาย Lockdown ในเฟสท่ี 2 ซึ่งคาดผ่อนคลายกิจการเพิ่มเติม เช่น สปา โรงภาพยนต์ ร้านอาหารเล่นดนตรี เป็นต้น และต้องจับตาว่าจะขยายระยะเวลาเคอร์ฟิวเป็น 4 ทุ่ม-ตี4 และขยายพรก.ฉุกเฉิน รวมถึงการเลื่อนเปิดเมืองท่องเที่ยว 5 จังหวัด (กรุงเทพฯ ชลบุรี เชียงใหม่ ประจวบคีรีขันธ์ เพชรบุรี) หรือไม่ หุ้นที่คาดได้ประโยชน์คือ SPA MAJOR BEM

(0) กลุ่มธนาคารและการเงินคาดการ Transformation ของ SCB โดยเฉพาะการรุกเพิ่ท Market Share ในตลาดผู้มีรายได้ต่ำถือเป็นความเสี่ยงสำหรับกลุ่มไฟแนนซ์ โดยเฉพาะกลุ่มหนี้ที่ไม่มีหลักประกัน เรามอง AEONTS และ KTC มีโอกาสถูกกระทบมากที่สุด ส่วนผู้ที่อาจกระทบต่ำสุดคือ SAWAD และ TIDLOR เนื่องจากมีธุรกิจนายหน้าประกันหนุน แต่คาดระยะสั้นกลุ่มไฟแนนซ์จะถูก De-Rating ส่วนภาพรวมกลุ่มธนาคาร เรายังคงเลือก Top Pick เป็น SCB (ปรับราคาเป้าหมายขึ้นเป็น 158 บาท) และ TISCO (ราคาเป้าหมาย 122 บาท) และมอง KBANK (ราคาเป้าหมาย 150 บาท) เป็นอีกตัวเลือกที่น่าสนใจ ส่วน Non-Bank เราชอบ JMT (ราคาเป้าหมาย 57 บาท) SINGER (ราคาเป้าหมาย 51 บาท) (Source: FSSIA)

(0) SAPPE คาดกำไร 3Q21 อ่อนตัวทั้ง Q-Q และ Y-Y แม้คาดรายได้ทำจุดสูงสุดใหม่ แต่ถูกหักล้างทั้งหมดด้วยต้นทุนวัตถุดิบ Pet Resin ที่ปรับตัวสูงขึ้น และค่าใช้จ่ายจากการออกสินค้าใหม่ ขณะที่บริษัทร่วม Danone-Sappe ยังขาดทุน แนวโน้มกำไร 4 Q21 จะอ่อนตัวลงต่อตามฤดูกาล เราจึงปรับลดกำไรสุทธิปี 2021 ลงเป็น +15% Y-Y และคาดกำไรปี 2022 โต +13%Y -Y โดยคาดเห็นสินค้ากัญชงตัวแรกใน 1Q22 เราปรับใช้ราคาเป้าหมายปี 2022 ที่ 37 บาท ยังแนะนำ “ซื้อ”

(+) SC ยอดขายเดือนก.ค.ชะลอจาก COVID-19 แต่ฟื้นตัวในเดือนส.ค.-ก.ย. โดยเฉพาะแนวราบ ที่โครงการใหม่ได้รับการตอบรับดีกว่าคาด ส่วนโมเมนตัมจะดีขึ้นต่อใน 4Q21 รับ Sentiment หลังการแพร่ระบาดคลี่คลาย และแผนเปิดแนวราบใหม่เพิ่มขึ้น หนุนให้ยอดขายทั้งปีเติบโตได้ 20% Y-Y แนวโน้มกำไร 3Q21 ชะลอตัวชั่วคราวก่อนกลับมาดีขึ้นใน 4Q21-2022 ด้าน Valuation ยังถูก โดยเทรด PE เพียง 6.4 เท่าและต่ำ Book value บวกกับ Dividend Yield 5.6% เราปรับไปใช้ราคาเป้าหมายปี 2022 ท่ี 3.90 บาท แนะนำ “ซื้อ”

(+) ตลาดดาวโจนส์เพิ่มขึ้น 33.18 จุด หรือ 0.10% ปิดที่ 34,798.00 จุด จากการปรับขึ้นของหุ้น Tesla และหุ้น Facebook รวมถึงคลายความกังวลเกี่ยวกับการผิดนัดชำระหนี้ของ Evergrande นอกจากนี้มีรายงานยอดขายบ้านใหม่ของสหรัฐเพิ่มขึ้น 1.5% M-M เป็น 740,000 ยูนิตในเดือนส.ค. สูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดที่ 714,000 ยูนิต แต่เทียบ Y-Y จะลดลง 24.3%

(-) ตลาดหุ้นยุโรปปิดลบท่ามกลางความกังวลเกี่ยวกับปัญหาหนี้สินของ Evergrande รวมถึงการเปิดเผยผลสำรวจความเชื่อมั่นทางธุรกิจที่อ่อนแอของเยอรมนี

(+) ตลาดเอเชียปรับขึ้นตามทิศทางตลาดดาวโจนส์ และฟื้นตัวหลังปรับลงในช่วงก่อนหน้าที่ถูกกดดันจากข่าว Evergrande

(+) ค่าเงินบาทแข็งค่าขึ้นล่าสุดอยู่ที่บริเวณ 33.36 บาท/ดอลลาร์สหรัฐ

(+) ราคาน้ำมันดิบ NYMEX เพิ่มขึ้น 68 เซนต์ หรือ 0.9% ปิดที่ 73.98 ดอลลาร์/บาร์เรล จากภาวะอุปทานน้ำมันที่ดึงตัว หลังมีปัญหาด้านการผลิตในอ่าวเม็กซิโก และการปรับลดการผลิตของกลุ่มโอเปกท่ามกลางอุปสงค์ที่แข็งแกร่ง

(+) ราคาทองคำ COMEX เพิ่มขึ้น 1.9 ดอลลาร์หรือ 0.11% ปิดที่ 1,751.7 ดอลลาร์/ออนซ์ ในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัย หลังหน่วยงานรัฐบาลจีนแถลงกำหนดให้ธุรกิจทุกชนิดที่เกี่ยวข้องกับสกุลเงินดิจิทัลเป็นสิ่งผิดกฎหมาย และประกาศจะปราบปรามกิจกรรมผิดกฎหมายที่เกี่ยวข้องกับสกุลเงินดิจิทัล

SPDR Gold Trust ถือครองทองคำ 993.52 | -7.27

- Advertisement -