บล.เคจีไอ (ประเทศไทย):
Pruksa Holding (PSH.BK/PSH TB)*
ประมาณการ 3Q66F: อสังหาฯ อ่อนตัวแต่ธุรกิจดูแลสุขภาพฟื้นตัว
Event
ประมาณการกำไร 3Q66F/9M66F และ ปรับประมาณการกำไรใหม่
Impact
คาดธุรกิจอสังหา ฯ มีกำไรอ่อนตัวทั้ง QoQ และ YoY ใน 3Q66F
พรีเซลดีขึ้น 10% QoQ อยู่ที่ 5.1 พันลบ. หลัก ๆ จาก ยอดขายโครงการคอนโดมิเนียมสูงขึ้นเป็น 1.5 พันลบ. (+70% QoQ) จากการเปิดโครงการใหม่มูลค่า 1.95 พันลบ.ที่ พลัม คอนโด นิว เวสต์ (Plum condo New West ที่ขายได้แล้ว 30-35%) ขณะที่ ยอดขายโครงการแนวราบเงียบเหงา โดยทรงตัว YoY อยู่ที่ 3.6 พันลบ. (-5% QoQ) อย่างไรก็ตาม การรับรู้รายได้และอัตรากำไรขั้นต้นของธุรกิจอสังหา ฯ อาจลดลง ทำให้กำไรจากการดำเนินงานต่ำลง QoQ เหลือเป็นเลขหลักเดียว มองในแง่ดี หากรวมกำไรพิเศษอีกราว 200 ลบ.ผลดีจากการปรับโครงสร้างธุรกิจดูแลสุขภาพใหม่ในไตรมาสนี้ ทำให้กำไรสุทธิจะอยู่ที่ 548 ลบ. (-11.5% YoY และ-47.2% QoQ)
ธุรกิจดูแลสุขภาพน่าจะดีขึ้นทั้ง QoQ และ YoY เริ่มตั้งแต่ 3Q66 เป็นต้นไป
โดยปกติไตรมาสที่สามของปีจะเป็นช่วง high season ของธุรกิจโรงพยาบาล โดยที่ กลุ่มวิมุต (Vimut group) ซึ่งเป็นบริษัทย่อยของ PSH น่าจะเห็นผลการดำเนินงานฟื้นตัวดีขึ้นทั้ง QoQ/YoY ขณะที่ ภาวะขาดทุน EBIT อาจลดลงจาก 70-80 ลบ.ต่อไตรมาสใน 1H66 เหลือ ต่ำกว่า 50 ลบ. โดยผู้บริหารตั้งเป้าธุรกิจด้านดูแลสุขภาพจะพลิกฟื้นระดับ EBITDA เป็นบวกได้ก่อนสิ้นปีนี้ และเป็นกำไรสุทธิก่อนสิ้นปี 2567 โดยเมื่อเร็ว ๆ นี้ PSH ได้ประกาศจัดตั้งกองทุน Wellness fund (C-WELL) ร่วมทุน (JV) กับ CapitalLand Investment Limited ซึ่งเป็นหนึ่งในผู้นำระดับโลกด้านจัดการลงทุนในอสังหา ฯ ที่บริหารจัดการสินทรัพย์ในอสังหาฯและกองทุนอสังหาฯมูลค่ารวมราว S$134 พันล้าน และ S$89 พันล้าน ตามลำดับ โดยมีมูลค่าการลงทุนเบื้องต้นอยู่ที่ S$350 ล้าน ซึ่ง PSH ได้ลงทุนที่ S$245 พันล้าน (70%) ในช่วงสิ้นปี 2566 ถึงปี 2569 สำหรับ C-WELL จะระดมทุนด้วยเป้าหมายกองทุนที่ประมาณ S$500 ล้าน และมีสิทธิ์ขยายกองทุนเพิ่มเป็น S$1 พันล้าน โดยคาดมีมูลค่าทรัพย์สินเป้าหมายจากการลงทุนสูงถึง S$2.9 พันล้าน เมื่อดำเนินการเต็มรูปแบบ ทั้งนี้ อัตราผลตอบแทนจากการลงุทนนี้ประมาณว่าจะมากกว่า >12% และ C-WELL น่าจะให้ผลตอบแทนต่อ PSH ตั้งแต่ปีหน้าเป็นต้นไป
ปรับลดประมาณการกำไรปี 2023-24F ลง
ขณะที่ ธุรกิจหลักด้านอสังหาฯ ฟื้นช้า PSH ยังคงทยอยทำการปรับธุรกิจเป็นผลให้มีกำไรพิเศษเพิ่มขึ้น แต่กำไรหลักอาจต่ำกว่าคาด เราจึงปรับลดประมาณการกำไรสุทธิปี 2566-67F ลงอีกราว 7-8% ต่อปี ส่งผลให้กำไรหลักลดลง 16% ในปีนี้ จากนั้นจะฟื้นตัวขึ้น 11% YoY ในปีหน้า นอกจากนี้ เราคาดยังมี upside อีกหลายปัจจัยซึ่งเรายังไม่ได้รวมในประมาณการกำไรในปี 2567F ของเรา เช่นกำไรจากเงินลงทุนใน Pathology Asia ซึ่งจะจดทะเบียนฯเร็ว ๆ นี้ ผลการดำเนินงานพลิกฟื้นจากกลุ่มวิมุตและบริษัทย่อย โรงงานคอนกรีตก่อสร้างแบบสำเร็จรูปจาก General Engineering (GEL TB) รวมทั้ง โอกาสได้รับกำไรจาก C-WELL
Valuation & action
ราคาเป้าหมายใหม่ด้วยวิธี sum-of-the parts (SoTP) ลดลงเป็น 14.6 บาท (ธุรกิจอสังหา ฯ ที่ 10 บาท อิงกับ -0.5SD to mean PER ที่ 8.5x และธุรกิจด้านดูแลสุขภาพที่ 4.6 บาทที่ต้นทุนการลงทุน 1 หมื่นล้านบาท) ทั้งนี้ เราคงคำแนะนำ “ซื้อ” โดยคาดอัตราผลตอบแทนจากเงินปันผลราว 7-8% ต่อปี และราคานี้มีส่วนลดมากจากมูลค่าทางบัญชี (book value) ที่ 0.6x รวมทั้งจุดแข็งอีกด้านของ PSH คือ การมีอัตราส่วนหนี้สินที่มีภาระดอกเบี้ยต่อทุน (net gearing) ต่ำเพียง 0.3 เท่า
Risks
ภาวะเศรษฐกิจอ่อนแอ ความหวังนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจจากรัฐบาล มาตรการปล่อยสินเชื่อเข้มงวดขึ้น และ
การยืดหนี้สินในระดับสูงของภาคครัวเรือนรวมทั้งการขึ้นอัตราค่าแรงขั้นต่ำ