บล.เคจีไอ (ประเทศไทย):
Quality Houses (QH.BK/QH TB)*
ผลประกอบการ 3Q66 : กำไรลดลงเล็กน้อยตามคาด
Event
ผลประกอบการ 3Q66
Impact
กำไร 3Q66 ลดลง 1% YoY และ 5% QoQ
กำไรสุทธิ 3Q66 ของ QH อยู่ที่ 634 ล้านบาท ต่ำกว่าเราคาดเพียง 2% และ Bloomberg’s consensus คาดไว้ที่ 646-647 ล้านบาท แม้ว่าพรีเซลแข็งแกร่งอยู่ที่ 2.5 พันล้านบาท (+32% QoQ และ +15% YoY) หลัก ๆ มาจากโครงการแนวราบ สำหรับรายได้จากการขายที่อยู่อาศัยขยับลงเล็กน้อยราว 2-3% ทั้ง QoQ และ YoY อยู่ที่ 2.0 พันล้านบาท เนื่องจากการเปิดโครงการใหม่ ๆ ที่ขายได้บางยูนิตใน 3Q66 จะถูกรับรู้รายได้ใน 4Q66 ตามความพร้อมเสร็จสมบูรณ์ ส่วนรายได้จากธุรกิจโรงแรมลดลง และธุรกิจอาคารสำนักงานเพิ่มขึ้นปานกลางทั้ง YoY และ QoQ ในแง่อัตรากำไรขั้นต้นของธุรกิจการขายที่อยู่อาศัยลดลงเล็กน้อยราว 1ppt อยู่ที่ 31% เนื่องจากมีการเร่งส่งเสริมการขายอย่างมากเพื่อระบายยูนิตของโครงการคอนโดฯที่มี margin ต่ำออกโดยเร็ว ในด้านบวก ค่าใช้จ่ายในการขายและบริหารสามารถควบคุมได้ดีอยู่ที่ 500 ล้านบาท ขณะที่ ส่วนแบ่งรายได้จากบริษัทในเครือลดลงราว 4% QoQ อยู่ที่ 422 ล้านบาท
กำไร 9M66 เพิ่มขึ้น 9% YoY อยู่ที่ 1.9 พันล้านบาท (คิดเป็น 73% ของประมาณการเราเต็มปีนี้)
รายได้จากการขายที่อยู่อาศัยหดตัว 5% YoY อยู่ที่ 5.7 พันล้านบาทจากการต่ำลงของยอดขายโครงการแนวราบที่ 10% ลงมาอยู่ที่ 4.95 พันล้านบาท สวนทางกับยอดขายโครงการคอนโด ฯ ที่พุ่งขึ้น 35% อยู่ที่ 750 ล้านบาท นอกจากนั้น รายได้จากธุรกิจโรงแรมและธุรกิจให้เช่าพื้นที่ว่างในอาคารสำนักงานเร่งตัวขึ้น 44% YoY อยู่ที่ 972 ล้านบาท ทางด้านอัตรากำไรขั้นต้นของธุรกิจการขายที่อยู่อาศัยขยับลง 1ppt อยู่ที่ 32% แต่อัตรากำไรขั้นต้นของธุรกิจที่ไม่ได้มาจาการขายอสังหาริมทรัพย์เพิ่มขึ้น 4ppt เป็น 42% สำหรับ อัตรากำไรขั้นต้นโดยรวมทรงตัวอยู่ที่ 34% นอกจากสัดส่วน SG&A ต่อยอดขายควบคุมได้ดีอยู่ที่ 22% แล้วส่วนแบ่งรายได้จากบริษัทในเครือเพิ่มขึ้น 12% YoY อยู่ที่ 1.3 พันล้านบาท
ผลประกอบการใน 4Q66F น่าจะดีที่สุดในปีนี้
QH ได้เลื่อนการเปิด 1 โครงการใหม่ไปเป็นปีหน้า ดังนั้น พรีเซลและการเปิดโครงการใหม่ในปีนี้ตาม guidance ของบริษัทน่าจะต่ำกว่าเป้า อย่างไรก็ตาม เราคาดว่าผลประกอบการใน 4Q66F จะเป็นไตรมาสที่ดีที่สุดของปีนี้ หนุนจากมี backlog ในมือสูงที่ 1.25 พันล้านบาท และการเปิดโครงการใหม่อีกมาก มูลค่ารวมที่ 3.4 พันล้านบาท (+30% QoQ) ซึ่งจะช่วยขับเคลื่อน พรีเซล รายได้และกำไรสูงขึ้นใน 4Q66 ขณะที่ การประชุมนักวิเคราะห์หลังผลประกอบการ 3Q66/9M66 จะจัดขึ้นในวันที่ 9 พฤศจิกายนนี้
Valuation & Action
เราคงคำแนะนำถือ ราคาเป้าหมายด้วยวิธี SOTP อยู่ที่ 2.50 บาท (ประเมินมูลค่าธุรกิจหลักที่ 0.66 บาท อิงจาก PE ที่ 9.6x (เท่ากับ -0.5SD) และธุรกิจการลงทุนที่ 1.84 บาท) ในขณะที่ การประชุมนักวิเคราะห์หลังผลประกอบการ 3Q66/9M66 จะจัดขึ้นในวันที่ 9 พฤศจิกายนนี้
Risks
ภาวะเศรษฐกิจอ่อนแอ ความหวังนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจจากรัฐบาล มาตรการปล่อยสินเชื่อเข้มงวดขึ้น และการยืดหนี้สินในระดับสูงของภาคครัวเรือนรวมทั้งการขึ้นอัตราค่าแรงขั้นต่ำ