บล.บัวหลวง: 

CP Axtra (CPAXT TB /CPAXT.BK)

CPAXT – กำไรเป็นไปตามที่เราคาด

ผลประกอบการเป็นไปตามที่เราคาด แต่ต่ำกว่าที่ตลาดคาด

CPAXT รายงานกำไรหลักไตรมาส 3/66 อยู่ที่ 1,716 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 7% YoY และ 1% QoQ ซึ่งเป็นไปตามที่เราคาด แต่ต่ำกว่าที่ตลาดคาด 8% หากรวมค่าใช้จ่ายที่เกี่ยวข้องกับการขายธุรกิจแม็คโครในประเทศจีน 39 ล้านบาทกำไรสุทธิจะอยู่ที่ 1,677 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 5% YoY และ 11% QoQ โดยมีธุรกิจโลตัสเป็นปัจจัยหนุนการเติบโต YoY

ประเด็นหลักผลประกอบการ

รายได้รวมในไตรมาส 3/66 อยู่ที่ 118,837 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 3% YoY แต่ลดลง 2% QoQ โดยแม็คโครมีอัตราการเติบโตของยอดขายสาขาเดิมอยู่ที่ 3.2% ขณะที่อัตราการเติบโตของยอดขายสาขาเดิมของโลตัสอยู่ที่ 2.2% (2.5% สำหรับประเทศไทย และ 0.6% สำหรับประเทศมาเลเซีย) บริการ on-demand delivery ของโลตัสช่วยหนุนอัตราการเติบโตของยอดขายสาขาเดิม

ค่าใช้จ่ายในการขายและบริหารของ CPAXT ปรับตัวเพิ่มขึ้น 1% YoY (ทรงตัว QoQ) ซึ่งเป็นการเพิ่มขึ้นที่ถูกจำกัดโดยการควบคุมค่าใช้จ่าย สำหรับต้นทุนทางการเงินในไตรมาส 3/66 อยู่ที่ 1,403 ล้านบาท ลดลง 23% YoY (รีไฟแนนซ์เงินกู้) แต่เพิ่มขึ้น 6% QoQ (ค่าเช่าสำหรับสาขาใหม่) หนี้ที่มีภาระดอกเบี้ยรวมอยู่ที่ 88.6 พันล้านบาทในสิ้นเดือนก.ย. 2566 ลดลงจาด 99.4 พันล้านบาทในสิ้นเดือนมิ.ย. 2566

หากแบ่งตามธุรกิจ ยอดขายของแม็คโครปรับตัวเพิ่มขึ้น 5% YoY (ทรงตัว QoQ) โดยอัตรากำไรขั้นต้นอยู่ที่ 10.5% ลดลงเล็กน้อยจาก 10.6% ในไตรมาส 3/65 (โปรโมชั่นลดราคาจากธุรกิจอาหาร) แต่เพิ่มขึ้นจาก 9.8% ในไตรมาส 2/66 (ปัจจัยด้านฤดูกาล) แม็คโครรายงานกำไรสุทธิไตรมาส 3/66อยู่ที่ 1,286 ล้านบาท ลดลง 18% YoY (ค่าใช้จ่ายในการขายและบริหาร และต้นทุนการเงินที่เพิ่มสูงขึ้น) และ 43% QoQ (ปัจจัยด้านฤดูกาล)

ยอดขายค้าปลีกของโลตัสปรับตัวเพิ่มขึ้น 1% YoY แต่ลดลง 4% QoQ โดยโลตัสมีการปิดสาขาเพิ่มขึ้นและลดเวลาเปิดให้บริการลงในไตรมาส 3/66 (ดังนั้นยอดขายรวมจึงเติบโตในอัตราชะลอตัวกว่าอัตราการเติบโตของยอดขายสาขาเดิม) อัตรากำไรขั้นต้นของโลตัสอยู่ที่ 17.8% ลดลงจาก 19.1%ในไตรมาส 3/65 และ 18% ในไตรมาส 2/66 เนื่องจากการทำโปรโมชั่นลดราคาเพื่อถึงคนมาใช้บริการ กำไรสุทธิไตรมาส 3/66 ของโลตัสอยู่ที่ 430 ล้านบาท เพิ่มขึ้นแข็งแกร่งจากกำไรสุทธิในไตรมาส 3/65 ที่เพียง 29 ล้านบาท (ทรงตัว QoQ)

แนวโน้ม

เราคาดผลของฤดูกาลและภาระดอกเบี้ยจ่ายที่ลดลงอย่างมีนัยสำคัญ จะช่วยให้กำไรไตรมาส 4/66 ของ CPAXT ปรับตัวเพิ่มขึ้น YoY และ QoQ

สิ่งที่เปลี่ยนแปลงไป

เราคาดอัตรากำไรขั้นต้นของโลตัสยังคงน้อย (เนื่องจากโปรโมชั่นด้านราคา) ดังนั้นเราจึงปรับลดประมาณการกำไรลง 7% สำหรับปี 2566, 5% สำหรับปี 2567 และ 4% สำหรับปี 2568 (ดูรูประกอบ 2) กำไรหลักรวม 9 เดือนของปี 2566 อยู่ที่ 5,496 ล้านบาท (เพิ่มขึ้น 5% YoY) คิดเป็น 67% ของประมาณการกำไรหลัก (ที่ปรับลดแล้ว) ปี 2566 ที่ 8,161 ล้านบาท (ซึ่งเป็นปกติสำหรับสัดส่วนประมาณการกำไร 9 เดือน)

คำแนะนำ

แม้ว่าเรายังคงคำแนะนำ ซื้อ CPAXT ด้วยราคาเป้าหมายวิธีคิดลดกระแสเงินสด ณ สิ้นปี 2567 ที่ 36 บาท (ลดลงจาก 37 บาท) เรายังคงชอบ CPALL มากกว่าด้วยมูลค่าและการเติบโตที่น่าสนใจ

- Advertisement -