บล.หยวนต้า (ประเทศไทย)
Starflex (SFLEX) กำไร 3Q66 ดีกว่าคาด
Action BUY (Maintain)
- TP upside (downside) +22.2%
- Close Nov 8, 2023 Price 3.60
- 12M Target 4.40
Earnings Results
- SFLEX รายงานกำไรสุทธิ 3Q66 ที่ 49 ล้านบาท (-3% QoQ, +886% YoY) หากหักรายการพิเศษออก กำไรปกติอยู่ที่ 48 ล้านบาท (-4% QoQ, +1,112% Yoy) ดีกว่าที่เราคาดราว 17% โดยมีสาเหตุหลักมาจากอัตรากำไรขั้นต้นที่สูงกว่าคาดราว 270bps
- การเติบโตสูง YoY ได้แรงหนุนจากอัตรากำไรขั้นต้นที่ขยายตัวมาอยู่ที่ระดับ 25.4% (เทียบกับ 10.8% ใน 3Q65 และ 24.9% ใน 2Q66) หลังบริษัทฯ มีการบริหารต้นทุนและปรับราคาขายเพื่อสะท้อนต้นทุนได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น รวมถึงมีการติดตั้งเครื่องจักรเป่าฟิล์ม ตั้งแต่ช่วง 2Q66 (ทำให้ต้นทุนการผลิตลดลงและทำให้ประสิทธิภาพในการผลิตสูงขึ้น) ขณะที่การลดลง QoQ เป็นผลจากรายได้ที่ลดลง -9% QoQ หลังกลุ่มลูกค้ามีการชะลอคำสั่งซื้อลง (คำสั่งซื้อในช่วง 1H66 อยู่ในระดับสูง ทำให้กลุ่มลูกค้าอยู่ระหว่างการระบายสินค้าเดิม) รวมถึงการเกิดสุญญากาศทางการเมืองในช่วง ก.ค. – ส.ค. 2566 ทำให้ภาคประชาชนมีการชะลอการบริโภค เพื่อรอความชัดเจนของมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ
- SFLEX ประกาศจ่ายเงินปันผลระหว่างกาลจำนวน 0.045 บาท/หุ้น คิดเป็น Dividend Yield 1.3% ขึ้นเครื่องหมาย XD วันที่ 22 พ.ย.
Our Take
- กำไรปกติ 9M66 คิดเป็นสัดส่วน 86% ของกำไรทั้งปี ส่งผลให้ประมาณการปี 2566 ของเราที่ 163 ล้านบาท (+199% YoY) มี Upside ราว 10-20%
- เบื้องต้นคาดกำไรปกติ 4Q66 ที่ระดับ 45-55 ล้านบาท ฟื้นตัว YoY หลังได้แรงหนุนจากอัตรากำไรขั้นต้นที่มีแนวโน้มฟื้นตัวขึ้น มาอยู่ที่ระดับ 20.0-25.0% จาก 15.3% ในช่วง 4Q65 หลังบริษัทฯ สามารถบริหารต้นทุนได้มีประสิทธิภาพมากขึ้น และมีการติดตั้งเครื่องจักรเป่าฟิลม์เพื่อลดต้นทุนการผลิต ขณะที่ 2oQ คาดกำไรปกติสามารถทรงตัวอยู่ในระดับสูงได้ แม้อัตรากำไรขั้นต้นมีแนวโน้มลดลงจากฐานที่สูง จากการเริ่มรับรู้ส่วนแบ่งกำไรจากบริษัท Starprint VN (ถือหุ้น 25%) ราว 1 เดือน (คาดธุรกรรมเสร็จสิ้นภายในเดือน พ.ย. 2566)
- เราปรับ PER ที่ใช้ประเมินมูลค่าหุ้นจากเดิม 25.0 เท่า ลงเป็น 18.2 เท่า (ค่าเฉลี่ย PER ย้อนหลัง 4 ปี -1SD รวมพรีเมียม 2% จาก Yuanta ESG Rating ระดับ AA) เพื่อสะท้อนตลาดที่มีความเสี่ยงมากขึ้น และปรับไปใช้ราคาเหมาะสม ณ สิ้นปี 2567 ทำให้ได้ราคาเป้าหมายใหม่ที่ 4.40 บาท/หุ้น มี Upside +22.2% โดยในระยะกลาง-ยาว คาดได้ประโยชน์จากนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจ การลดค่าครองชีพ (เช่น การลดราคาน้ำมันและค่าไฟฟ้า) และการขึ้นค่าแรงขั้นต่ำของรัฐบาล คงคำแนะนำ “ซื้อ”