สรุปภาวะตลาด

วันจันทร์ที่ผ่านมา ดัชนีปรับตัวลงแรงในช่วงบ่าย จากแรงขายลดความเสี่ยงในหุ้นบางกลุ่ม และมีปัจจัยกดดันในหุ้นกลุ่มที่เกี่ยวข้องกับเหรียญดิจิตอล นอกจากน้ียังมีความกังวลปัญหาน้ำท่วมภายในประเทศ และการประชุมศบค. ที่มีการต่อพรก. ฉุกเฉินไปถึงเดือนพ.ย. ส่วนหุ้นในกลุ่มพลังงาน และปิโตร ปรับตัวข้ึนตามราคาน้ำมัน ส่งผลให้ดัชนี SET Index ปิดตลาดท่ี 1,620.02 จุด -11.13 จุด -0.68% มูลค่าการซื้อขาย 135,802 ลบ. ต่างชาติ -3,909.89 ลบ. TFEX -26,081 สัญญา ตราสารหนี้ +275.06 ลบ

ปัจจัยบวก

+ ราคาน้ำมันดิบ WTI เพิ่มข้ึน 1.47 ดอลลาร์ +2% ปิดที่ 75.45 ดอลลาร์/บาร์เรล ขานรับคาดการณ์ว่าความต้องการใช้น้ำมันจะพุ่งข้ึน เนื่องจากเศรษฐกิจส่งสัญญาณฟื้นตัว นลท.จับตารายงานสต็อกน้ำมันดิบของสหรัฐ และการประชุมของกลุ่มโอเปกพลัส ในวันท่ี 4 ต.ค.

+ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารของบริษัทไฟเซอร์ กล่าวว่า โลกจะกลับมาใช้ชีวิตได้ตามปกติอีกคร้ังภายใน 1 ปี และมีแนวโน้มว่าในอนาคตวัคซีนป้องกันโควิด-19 จะกลายเป็นวัคซีนประจำปีท่ีทุกคนต้องฉีดซ้ำเพื่อป้องกันโรค

+ สหรัฐเปิดเผยว่ายอดส่ังซื้อสินค้าคงทนของสหรัฐ เช่น เครื่องบิน รถยนต์ และเครื่องจักรขนาดใหญ่ที่มีอายุการใช้งานตั้งแต่ 3 ปีขึ้นไป พุ่งขึ้น 1.8% ในเดือนส.ค. แรงกว่าที่เพิ่มขึ้น 0.5% ในเดือนก.ค.

+ ศูนย์วิจัยกสิกรไทย คงคาดการณ์ส่งออกในปี 64 เติบโต 12.4% โดยมองว่าในช่วงที่เหลือของปีนี้ ภาคการส่งออกจะยังเป็นปัจจัยหลักในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจต่อเนื่อง

+ มติศบค. เมื่อวานน้ี จะคลายล็อกขยายการเปิดกิจการ-กิจกรรมเพิ่มเติม คือสิ่งแวดล้อมปลอดภัย, พนักงานปลอดภัย และผู้ใช้บริการปลอดภัย และปรับลดเวลาเคอร์ฟิว 4 ทุ่ม-ตี 4 เพื่อขยายเวลาสำหรับกิจการ-กิจกรรม เปิดบริการได้ถึง 21.00 น. คือห้างสรรพสินค้า ร้านสะดวกซื้อ ลานกีฬากลางแจ้ง และในร่ม

+ ศบค.รายงานสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ในประเทศวันน้ีต่ำกว่าหมื่นราย พบผู้ติดเชื้อราย ใหม่รวม 9,489 ราย มีผู้เสียชีวิต 129 ราย รักษาหาย 12,805 ราย

ปัจจัยลบ

+/- ดัชนีดาวโจนส์ปิดเพิ่มข้ึน 71.37 จุด +0.21% ได้ปัจจัยหนุนจากแรงซื้อหุ้นกลุ่มที่ได้ประโยชน์จากการเปิดเศรษฐกิจ และยอดสั่งซื้อสินค้าคงทนของสหรัฐพุ่งขึ้นเกินคาดในเดือนส.ค. อย่างไรก็ดี ดัชนี Nasdaq และ S&P500 ปิดลบเนื่องจากการพุ่งข้ึนของอัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐ ได้ฉุดหุ้นกลุ่มเทคโนโลยี ซึ่งมีความอ่อนไหวต่ออัตราดอกเบี้ย

– ผลการศึกษาโดยมหาวิทยาลัยอ็อกซ์ฟอร์ด เปิดเผยว่า การระบาดใหญ่ของไวรัสโควิด-19 ทำให้อายุขัยเฉลี่ยของมนุษย์ในปี 2563 ลดลงมากท่ีสุดนับต้ังแต่สงครามโลกคร้ังท่ี 2 โดยอายุขัยของชายชาวอเมริกัน ลดลงมากกว่า 2 ปี

– วิกฤตด้านพลังงานของจีนเร่ิมส่งผลกระทบต่อประชาชน ท้ังยังเพิ่มความเสี่ยงต่อการขาดเสถียรภาพในสังคมซ้ำเติมภาวะชะงักงันในห่วงโซ่อุปทานที่ลุกลามไปทั่วโลก

– เกาหลีเหนือได้ยิงขีปนาวุธลงสู่ทะเลญี่ปุ่นในช่วงเช้าวันนี้

– เฟดสาขาดัลลัส เปิดเผยผลสำรวจ ระบุว่า ดัชนีภาคการผลิตรัฐเท็กซัสปรับตัวลงสุ่ระดับ 4.6 จุดในเดือน ก.ย. จากระดับ 9.0 ในเดือนส.ค.

-อิทธิพลร่องมรสุมและพายุเตี้ยนหมู่ ส่งผลให้เกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก ในพื้นที่ 26 จังหวัด ซึ่งทำให้บ้านเรือนและทรัพย์สินของประชาชนในพื้นท่ีได้รับความเสียหาย

แนวโน้มตลาดวันนี้

คาดดัชนีตลาดหุ้นไทยมีโอกาส Rebound ระยะสั้น โดยมีแรงหนุนจากหุ้นกลุ่มพลังงาน หลังราคาน้ำมันดิบ WTI ปรับตัวขึ้นต่อเนื่อง ประกอบกับตัวเลขผู้ติดเชื้อโควิด-19 รายใหม่ในประเทศ ปรับตัวลงต่ำกว่าระดับ 1 หมื่นรายต่อ วัน คาดดัชนีเคลื่อนไหวในกรอบ 1,610-1,630 จุด

กลยุทธ์การลงทุน

  • เราเที่ยวด้วยกันเฟส 3-ทัวร์เที่ยวไทย AOT MINT ERW CENTEL ASAP
  • ค่าการกลั่นปรับตัวข้ึนเป็นบวกต่อ TOP SPRC PTTGC
  • ตลท.จ่อปรับเกณฑ์คำนวณ SET50 – SET100 หุ้นท่ีได้รับผลเสีย DELTA NRF PSL INTUCH หุ้นที่ได้ประโยชน์ BBL SCB KBANK TISCO
  • ศบค. ผ่อนคลายเปิดโรงหนัง-ปรับเวลาเคอร์ฟิว-เวลาเปิดร้านอาหาร MAJOR AU ZEN M CPALL

หุ้นรายงานพิเศษ

PRINC – “มุมมองบวกต่อช่วง 2H64”

(ราคาเหมาะสม Bloomberg Consensus 9.05 บาท)

  • งวด 2Q64 ขาดทุนลดลงเหลือ 171 ลบ. +7%YoY +1%QoQ โดยมีรายได้จากกิจการโรงพยาบาลเท่ากับ 845 ลบ. +89%YoY +30%QoQ ได้รับผลบวกจากสถานการณ์โควิด-19 ที่ทวีความรุนแรง ส่งผลให้มีผู้มาตรวจและรักษาโควิด-19 เพิ่มข้ึน ท้ังในส่วนของโรงพยาบาลและ Hospitel แม้ EBITDA จะพลิกเป็นบวกต้ังแต่งวด 1Q64 (EBITDA_1Q64 = 11 ลบ. EBITDA_2Q64 = 25 ลบ.) แต่ยังมีค่าเสื่อมราคาราว 150 ลบ.ต่อไตรมาส ทำให้บริษัทมีผลประกอบการขาดทุน งวด 1H64 ขาดทุน 316 ล้านบาท สูงกว่างวด 1H63 ที่ขาดทุน 287 ล้านบาท
  • ลุ้น Turnaround ในช่วง 2H64 จากจานวนเคสโควิด-19 ท่ีเร่งตัวข้ึน ช่วยหนุนจำนวนผู้ใช้บริการเพิ่มขึ้น โดยก่อนหน้าน้ี PRINC ได้ขยายความสามารถในการรองรับผู้ป่วยโควิด-19 ทั้ง รพ.สนาม และ Hospitel ทำให้จำนวนเตียงเพิ่มขึ้นจาก 1,000 สู่ 2,000 เตียง นอกจากนี้ ยังมีการทยอยรับรู้รายได้จากการฉีดวัคซีนทางเลือก 1.Moderna จำนวน 6 แสนโดส (ขายแล้วกว่า 65%) คาดองค์การเภสัชฯจะนำส่งช่วงกลางเดือน ต.ค. ส่วนอีก 35% มีกลุ่มสถาบันการศึกษาติดต่อมาขอรับบริการ 2.Sinopharm จำนวน 1 แสนโดส ปัจจุบันขายหมดแล้ว และกำลังทยอยให้บริการฉีดวัคซีน
  • ความเห็น เรามีมุมมองบวกต่อผลการดำเนินงานในช่วง 2H64 ท่ีมีแนวโน้มดีกว่า 1H64 และเห็นทิศทางที่ดีของผลการดำเนินงานงวด 3Q64 แนะนำซื้อเก็งกำไร

หุ้นมีข่าว

(+) JR (Bloomberg Consensus – บาท) JR คว้างานใหม่สร้างโรงไฟฟ้าของอมตะ บี.กริม เพาเวอร์ (ระยอง) 3 มูลค่ารวม 165.85 ล้านบาท ดัน Backlog เพิ่ม แตะระดับ 5.5 พันล้านบาท กินยาวกว่า 3 ปี เดินหน้าเข้าประมูลงานใหม่อีกเพียบ เน้นงานมาร์จิ้นสูง รอเปิดประมูลงานรถไฟฟ้า สายสีเหลือง-สีชมพู เฟส 2 มูลค่า กว่า 6,000 ล้านบาท มั่นใจผลงานปีนี้เติบโตตามเป้าหมายที่วางไว้ (ที่มา ทันหุ้น)

(+) NRF (Bloomberg Consensus 9.25 บาท) NRF เอาด้วยรุกธุรกิจอาหารสัตว์เลี้ยง ซื้อหุ้น “โบ ทานีสตูดิโอ” ลุยตลาดอาเซียน เผยออเดอร์ในมือสูง 200-300 ล้านบาท โอกาสเติบโตสูง อุตสาหกรรมใหญ่ แย้มดีลยักษ์ใหญ่ระดับโลกสร้างโรงงาน Plant-Based พร้อมเดินหน้าร่วมกลุ่ม PTT ต่อยอดโต แย้มสินค้ากัญชงสกัดจาก CBD เริ่มออกสู่ตลาด ลั่นปีน้ีผลงานนิวไฮรายได้โต 50% จัดการขนส่งดีข้ึน (ที่มา ทันหุ้น)

(+) GLOBAL (Bloomberg Consensus 27.00 บาท) จ่อรับทรัพย์หลังน้ำท่วมลด หนุนดีมานด์ ซ่อมแซมอาคาร บ้านเรือนมากข้ึน ส่วนสาขาของบริษัทไม่ได้รับผลกระทบ ขณะที่การเปิดประเทศ หนุนโอกาสปรับปรุงซ่อมอาคารโรงแรมมากขึ้น มั่นใจผลประกอบการทำนิวไฮ ยอดขายสาขาเดิม (SSSG) เติบโตสองหลัก เดินหน้าเปิดสาขาอีก 2 แห่ง ส่วนปีหน้าต้ังเป้าเปิดอีกราว 5 แห่ง เงินลงทุน ประมาณ 2 พันล้านบาท (ที่มา ทันหุ้น)

(+) TEAMG (Bloomberg Consensus 2.91 บาท) คงเป้าการเติบโตปีนี้ 10% เดินหน้ารับรู้งานในมือปัจจุบันท่ี 3,600 ล้านบาท และอยู่ระหว่างติดตามใหม่เพิ่มกว่า 70 โครงการ ในช่วงครึ่งปีหลัง ล่าสุดเตรียม COD โครงการ Solar Rooftop และคว้าสัญญาโครงการติดตั้งและดำเนินการระบบผลิต น้ำประปา มูลค่า 245 ล้านบาท รุกสู่ธุรกิจ Non-Consulting Services เต็มรูปแบบ (ท่ีมา ทันหุ้น)

ปัจจัยจับตาในประเทศ

สัปดาห์ที่ 5 สศค. รายงานภาวะเศรษฐกิจการคลัง, ภาวะเศรษฐกิจภูมิภาค, ดัชนีความเชื่อมั่นอนาคตเศรษฐกิจภูมิภาค

29 ก.ย.ประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) ครั้งท่ี 6/2564

สศอ. แถลงดัชนีอุตสาหกรรม

30 ก.ย. ธปท. รายงานภาวะเศรษฐกิจไทย จัดสัมมนาวิชาการประจำปี (BOTSymposium 2021)

1 พ.ย.ศบค. ให้เปิดพื้นที่นำร่องท่องเที่ยวเพิ่ม 10 จังหวัด รวม กทม.

ปัจจัยจับตาต่างประเทศ

28 ก.ย. สหรัฐเปิดเผยราคาบ้านเดือนก.ค.จากเอสแอนด์พี ความเชื่อมั่นผู้บริโภคขั้นต้นเดือนก.ย.

29 ก.ย.อียูรายงานความเชื่อมั่นทางเศรษฐกิจ-ความเชื่อมั่นผู้บริโภคเดือน ก.ย.

สหรัฐเปิดเผยยอดทำสัญญาขายบ้านหรือปิดการขายเดือน ส.ค. สต๊อกน้ำมันรายสัปดาห์จาก EIA

30 ก.ย. จีนรายงานดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคการผลิต-ภาคบริการ เดือนก.ย. จากสำนักงานสถิติแห่งชาติจีน (NBS) ดัชนี PMI ภาคการผลิตเดือน ก.ย.จากไฉซิน

สภาผู้แทนราษฎรฯ จะลงมติเพื่อผ่านร่างกฎหมายการใช้จ่ายด้านโครงสร้างพื้นฐานวงเงิน 1 ล้านล้านดอลลาร์

4 ต.ค. การประชุมกำหนดนโยบายการผลิตน้ำมันของโอเปกพลัส

2-3 พ.ย.สหรัฐประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงิน (FOMC)

- Advertisement -