บล.บัวหลวง: 

Chularat Hospital (CHG TB / CHG.BK)

CHG – ปรับลดคำแนะนำเป็น “ขาย”

เราได้ปรับลดคำแนะนำต่อ CHG มาเป็น “ขาย” โดยสะท้อนจาก 1) ข่าวเกี่ยวกับ CEO ของ CHG ที่ใช้ข้อมูลภายใน 2) CHG น่าจะไม่สามารถทำได้ตามเป้าหมายปี 2566 โดยกดด้นจากอัตรากำไรขั้นต้นจากโรงพยาบาลใหม่และต้นทุนที่สูงขึ้น 3) ราคาค่อนข้างแพงเมื่อเทียบกับ โรงพยาบาลระดับกลางอื่น และ 4) มีความเสี่ยงต่อราคาหุ้น ถึง 20% อิงจากภาพกำไรที่ไม่น่าตื่นเต้น

ก.ล.ต. ปรับ ดร.กำพล (CEO CHG) ฐานใช้ข้อมูลภายใน

ก.ล.ต. เปิดเผยว่าดำเนินคดีแพ่งกับ ดร.กัมพล พลัสสินทร์ (CEOและกรรมการ) คุณกฤษณ์ พลัสสินทร์และนางสาวกุลภา พลัสสินทร์ กรณีซื้อหุ้น CHG โดยใช้ข้อมูลภายใน โดยบุคคลทั้งสามจะต้องจ่ายค่าปรับรวมทั้งสิ้น 8 ล้านบาท  และยอมรับระยะเวลาห้ามดำรงตำแหน่งกรรมการหรือผู้บริหาร ทั้งนี้ CHG แถลงว่า ดร.กำพล พลัสสินทร์ ลาออกจากตำแหน่งแล้วในวันที่ 10 พ.ย. 2566 (วันเดียวกับที่ ก.ล.ต. ดำเนินคดี)

CHG น่าจะไม่สามารถทำได้ตามเป้าหมายปี 2566! กดดันจากอัตรากำไรขั้นต้นและต้นทุนที่สูง

CHG ตั้งเป้ารายได้ที่ 8 พันล้านบาทในปี 2566 แต่เราไม่คาดว่าบริษัทจะทำได้ตามเป้า เราคาดว่ารายได้ค่ารักษาพยาบาลของ CHG จะอยู่ที่ 7.6-7.7 พันล้านบาท ซึ่งต่ำกว่าเป้าของ CHG 4-6% เนื่องจากมีการขาดทุนที่สูงจากโรงพยาบาลแห่งใหม่ คือ โรงพยาบาลจุฬารัตน์แม่สอด (CHM) CHG มีความเสี่ยงด้านอัตรากำไรขั้นต้นจากธุรกิจการดูแลสุขภาพจากการเปิดโรงพยาบาลใหม่และต้นทุนที่สูงขึ้น CHM เน้นผู้ป่วยระดับ A-Class ด้วยเงินลงทุน 600 ล้านบาท ซึ่งเริ่มเปิดดำเนินการในเดือน มิ.ย. 2566 (ขาดทุนในไตรมาส 2/66 ที่ 17-18 ล้านบาท) นอกจากนี้ CHG คาดว่า CHM จะมีการขาดทุน 50 ล้านบาท ซึ่งหมายถึงขาดทุนอีก 32 ล้านบาทในช่วงครึ่งหลังของปี 2566

นอกจากนี้ การผลักค่าใช้จ่ายโรงพยาบาลที่เพิ่มขึ้น (ค่ายาและเจ้าหน้าที่) ให้กับผู้ป่วยยังทำได้ยาก เนื่องจากผู้ป่วยของ CHG มีความอ่อนไหวต่อราคา (ราคาที่สูงขึ้นหมายถึงจำนวนผู้ป่วยที่ลดลง)

ความเสี่ยงต่อราคาหุ้นถึง 20% อิงจากภาพกำไรที่ไม่น่าตื่นเต้น

หุ้นซื้อขายบน PER ปี 2567 ที่ 28 เท่า ซึ่งเป็นระดับเดียวกันกับ BCH (แนวโน้มกำไรของ BCH ดีกว่า) เรากังวลว่าข่าวเกี่ยวกับการซื้อขายหุ้นโดยใช้ข้อมูลภายใน อาจทำให้ทั้งนักลงทุนสถาบันและนักลงทุนที่ไม่ใช่สถาบันเป็น กังวล ตามที่สะท้อนในอัตราส่วนราคาต่อกำไร ในกรณีที่คล้ายกันซึ่ง CEO ของ BDMS ถูกสำนักงาน ก.ล.ต. สั่งปรับจากการใช้ข้อมูลภายใน (เดือน ม.ค.2562) PE ก็ลดลงจาก 43 เท่ามาเป็น 34 เท่า ลดลง 20%

ดังนั้นเราจึงเห็นความเสี่ยงต่อราคาหุ้น CHG จาก PE ที่ 34 เท่า โดยใช้กรณีศึกษาเดียวกันกับ BDMS ทั้งนี้ PE ของ CHG จะอยู่ที่ 25-27 เท่า ซึ่งจะทำให้ราคาเป้าหมายใหม่ของเราลดลงเหลือ 2.5 บาท เราได้ปรับลดคำแนะนำจาก “ซื้อ” มาเป็น “ขาย” จากข่าวเชิงลบแรงกดดันต่อแนวโน้มกำไรจากโรงพยาบาลแห่งใหม่ อัตรากำไรขั้นต้นธุรกิจการดูแลสุขภาพที่ลดลง และแนวโน้มไตรมาส 4/23 ถึง ปี 2567 ที่ไม่น่าถึงดูด

- Advertisement -