บล.ฟิลลิป:

BCH 3Q66 กำไรดีตามปัจจัยฤดูกาล

ซื้อ TP’67: 22.80

3Q66 คาดกำไรโต q-q จากการฟื้นตัวของผู้ป่วยต่างชาติ โดยเฉพาะจากฝั่ง Middle East ซึ่งพ้นจากช่วงรอมฎอนในช่วง 2Q66 ส่งผลให้ 3Q66 ยังคงมี Pent up demand จากกลุ่มที่มี Price Intensity ที่สูง ประกอบกับการขึ้นค่ารักษาเหมาจ่ายรายหัว ซึ่งเริ่มรับรู้เต็มไตรมาสเป็นครั้งแรก โดยทางฝ่ายคาดกำไร 4Q66 ยังมีโอกาสที่จะโตต่อได้จากค่าใช้จ่ายดอกเบี้ยที่ลดลง จากการปรับโครงสร้างทางการเงินเสร็จสิ้นในช่วงเดือน ก.ย.66

งบรวม

3Q66

2Q663Q65% у-у% q-q9M669M65

% у-у

กำไร

440.7

284.3-403.1209.355.0978.92,769-64.6

EPS

0.180.11-0.16209.355.00.391.11

-64.6

หมายเหตุ: กำไร = ล้านบาท, EPS = บาท

  • 3Q66 กำไรโตต่อทั้ง q-q y-y ตามปัจจัยฤดูกาล: รายได้ธุรกิจโรงพยาบาลยังชะลอตัว y-y จากฐานที่สูงในช่วง Covid-19 แต่โต 11.2% q-q จากการโรคระบาดตามฤดูกาล หนุนจำนวนผู้ป่วยชาวไทยและประเทศใกล้เคียง โดยรายได้จากผู้ป่วยนอก +13% q-q จากจำนวนผู้ป่วยนอก +4% q-q เป็นไปตามกลยุทธการตรวจสุขภาพเคลื่อนที่ร่วมกับหน่วยงานภายนอก อีกรายได้จากผู้ป่วยใน +28.1% q-q จากการฟื้นตัวของกลุ่มผู้ป่วยต่างชาติ โดยเฉพาะฝั่ง Middle East จากการพ้นช่วงเทศกาลรอมฎอนใน 2Q66 และการปรับปรุงห้องพักผู้ป่ วยในที่แล้วเสร็จในไตรมาสที่ผ่านมาของ รพ.เกษมราษฎร์ สระบุรี และฉะเชิงเทรา รายได้ประกันสังคม +5.3% q-q จากการเพิ่มค่ารักษาเหมาจ่ายรายหัว (SSO) ขึ้นราว 10% โดยใน 3Q66 BCH มีผู้ประกันตนลงทะเบียน 1.01 ล้านราย เริ่มรับรู้เต็มจำนวนใน 3Q66 ต้นทุนกิจการโรงพยาบาล +5.5% q-q ตามสัดส่วนรายได้ที่เพิ่มขึ้น ขณะที่ SG&A ลดลง 5.1% q-q จากผลขาดทุนอัตราแลกเปลี่ยน ส่งผลให้ภาพรวมกำไร 3Q66 +55% q-q เป็น 444 ลบ. จาก 284 ลบ.
  • แนวโน้มกำไร 4Q66 มีโอกาสโต q-q: กำไรมีโอกาสโต q-q จากการปรับโครงสร้างทางการเงินเสร็จสิ้นไปในเดือน 9 ก.ย. 66 คาดส่งผลให้ผลกระทบจากอัตราแลกเปลี่ยนค่าเงินสกุลกีบและดอกเบี้ยจ่ายลดลงใน 4Q66 ประกอบกับการฟื้นตัวของผู้ป่วยต่างชาติในช่วงปลายปี
- Advertisement -